ภาคแรก ช่วงแข่งภูมิภาคคันโต สเกลพลังของสุดยอดนักเทนนิสของโลกจริง(เฟดเดอร์เรอร์ นาดาล โนวัค) จบลงที่ภาคนี้ หลังจากภาคนี้คือเทนนิสในจินตนาการระดับความสามารถเหนือมนุษย์ไปละ สำหรับคนที่ไม่ชอบความเว่อร์ก็อาจตัดจบเลิกอ่านได้ที่ภาคนี้ หรือจบชิงแชมป์ประเทศ
พลังพิเศษประเภทออร่า+ความสามารถ ที่ปรากฏในเรื่อง
ประตูทั้ง 3 บาน ที่จะไปสู่ สภาวะไร้ที่ติ (อันนี้เทียบได้กับซุปเปอร์ไซย่าในดราก้อนบอล)
สภาวะไร้ตัวตน - เพิ่ม stat สามารถใช้ท่าต่างๆของคู่ต่อสู้ที่เคยแข่งมาได้ แต่ก็กินพลังงานมากๆ ถ้าหมดพลังก่อนชนะคู่แข่งก็อาจจะ K.O.ไปเอง (แอบคล้ายๆหมัดไคโอในดราก้อนบอล)
ผลแห่งการฝึกตนทั้งร้อย - ท่าของเทะสึกะ รวมพลังไว้ที่แขนซ้ายข้างเดียว ตีโต้ลูกที่คู่ต่อสู้ตีมาด้วยความแรงคืนกลับ 2 เท่า
ผลแห่งการระเบิดปัญญา - ใช้ครั้งแรกโดยจิโตเสะ ภายหลังเทะสึกะใช้ย้อนศรจนชนะไปได้ คือการอ่านทางคู่ต่อสู้ และจำลอง match simulator ขึ้นในสมอง ว่าจะชนะคู่ต่อสู้ในแต้มนั้นๆในการตีกี่ลูก
สภาวะไร้ที่ติ - ระเบิดพลังออร่าเปล่งประกายออกมาคล้ายๆซุปเปอร์ไซย่า ผู้ที่จะเข้าถึงจุดนี้ได้ ต้องเล่นเทนนิสด้วยใจรักอันบริสุทธิ์และสนุกกับมัน ถือเป็นสเกลพลังระดับสูงสุดของภาคแรก Prince of Tennis ละ
ในภาคใหม่ New Prince of tennis จะมีอธิบายคร่าวๆว่า คนที่เข้าถึงสภาวะไร้ที่ติ แต่ละคนก็ใช่ว่าจะเก่งได้เท่ากันและจะชนะได้ทุกคน คนใช้ท่านี้แข่งกัน 2 คน คนที่ชำนาญ+พลังมากกว่าก็จะสามารถเอาชนะไปได้ ละนอกจากนี้ในภาคล่าสุดที่ไปแข่งชิงแชมป์โลก U-17 นักเทนนิส ม.ปลาย ปี 2 อัจฉริยะของเยอรมัน ชื่อ QP ยังได้แสดง+อธิบายถึงพลังออร่าแบบใหม่ ที่เหนือชั้นไปกว่าสภาวะไร้ที่ติไปอีก โดยมี 3 รูปแบบ(ตัวมันใช้ได้ทั้ง 3 รูปแบบ โดยพลังทั้ง 3 ยังไม่มีคำแปลภาษาไทย)  

เทะสึกะสามารถเอาชนะยูคิมูระไปได้ 2-1 เซต คะแนน 5-7 6-3 7-5
เรื่องความสามารถที่แข่งกัน ต้องบอกว่าผมนึกว่าดูเรื่องบลีซ สู้กันอยู่
ยูคิมูระ พัฒนาท่าไม้ตายเดิม ที่สามารถทำลายประสาทสัมผัสทั้ง 6 ได้ ไปสู่การเข้าถึงสภาวะไร้ที่ติ พ่วงด้วยความสามารถที่สามารถอ่านอนาคต+ขโมยและทำลายอนาคตคู่แข่งได้(คุ้นๆไหม มันความสามารถของจูฮาบัซ ลาสบอส ใน บลีซ ชัดๆ มันไม่เหมือนกับท่าระเบิดปัญญานะ คือมันสามารถแฟลซแบคภาพไปยังอนาคต ถึงตอนเทะสึกะจะคว้าแชมป์แกรนด์สแลม วิมเบอร์ดัน เลย อย่างกาว 555+) ส่วนเทะสึกะที่เซตแรกแพ้ละเซตที่ 2 แสดงความแข็งแกร่งออกมาในฐานะตัวแทนทีมชาติอันดับ 1 ของโลกอย่างเยอรมัน ก็เกือบมาเสียท่าให้กับสกิลทำลายอนาคตของยูคิมูระในเซตที่ 3 แต่สุดท้ายก็สามารถปลดล๊อคความสามารถตัวเอง(ประมาณพลังชิไค ของไอเซ็น เคียวกะซุยเงซึ) ยูคิมูระเหมือนจะถูกสะกดละโดนโต้กลับความสามารถท่าทำลายอนาคตได้ ละปิดแมตซ์ได้สวยงามด้วยท่าใหม่ ลูกหยอดโด่ง(Lob) ศูนย์องศา(ยูคิโดนหลอกนึกว่าจะดรอปซีโร่ แต่กลายเป็น Lobซีโร่แทน เจ้าตัวยังอ่านทางทัน วิ่งไปจะโต้ลูก แต่ก็วิ่งไปผิดฝั่ง)