BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Sep 2010
ตอบ: 173
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:05
12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา



.
.


ผ่านมาแล้ว6ปี แต่นี่คือหนึ่งในผลงานหนังไซไฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทศวรรษอย่างไม่ต้องสงสัย ถือเป็นงานหนังไซไฟของคนรุ่นใหม่ที่ต้องยกขึ้นหิ้งจดจำกล่าวขานไปอีกยาวนาน เป็นผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลนอีกเรื่องที่สมควรดูในโรงภาพยนตร์อย่างที่สุด โดยเฉพาะในโรงIMAX PARAGON ที่ฉายด้วยฟิล์ม70 MM และโชคดีมากว่า มันกลับมาฉายในโรงอีกครั้งจนถึงวันนี้วันสุดท้าย เลยอยากนำบทความมาย้อนรอยความประทับใจเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กันหน่อย

.



12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา [สปอยส์]

1.โลกนี้กำลังหมดอายุ
หนังได้มีการเปิดเรื่องให้เห็นถึงสภาวะเสื่อมถอยของโลกมนุษย์ที่ได้เบียดเบียนธรรมชาติมาอย่างยาวนาน จนทำให้ทรัพยากรร่อยหรอ พืชพรรณเริ่มตายและโลกกำลังจะขาดออกซิเจน เห็นได้จากภาวะที่มีแต่ฝุ่นละอองเต็มไปทั่วทั้งเมือง นี่คือสัญญาณเริ่มต้นที่บอกกับเรากลายๆว่า "ถึงเวลาหาบ้านใหม่แล้วนะ"

เพราะในสมัยก่อนเราอาจแหงนหน้าไปมองท้องฟ้าว่าเราอยู่ที่ไหนในหมู่ดาว คราวนี้ถึงเวลาที่เราต้องห่วงตัวเอง มองลงมายังกองดินว่าสภาพเราตอนนี้กำลังจะเป็นเช่นใด?

2. นักสำรวจในร่างของชาวไร่
มีครอบครัวนึง เป็นเจ้าของไร่ข้าวโพดใหญ่โต เขาคือนักวิทยาศาสตร์ที่เคยนักบินทำงานในนาซ่า แต่กลับไม่มีโอกาสได้ใช้วิชาของตัวเองทั้งๆที่ตัวก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย อาจเพราะอุบัติเหตุฝังใจจากเหตุเครื่องบินตก แต่เขาได้รอดชีวิตมา

แต่แล้ววันนึงก็เขาและลูกสาวก็ได้ไปพบกับนาซ่าโดยบังเอิญด้วยพิกัดที่พวกเขาถอดรหัสมาได้จากปริศนาในห้องสมุดซึ่งลูกสาวก็ทึกทักเอาว่ามีผีมาบอกปริศนา นาซ่าขอร้องให้คูปเปอร์เป็นผู้ขับยานออกไปสำรวจอวกาศ ซึ่งมีดร.แบรนด์เป็นตัวตั้งตัวตี นี่อาจจะเป็นโอกาสที่เขาจะได้ช่วยเหลือคนอีกเป็นพันล้านครอบครัว และได้ทำสิ่งที่รักที่เขามีความสามารถไปในเวลาเดียวกัน กระนั้นมันก็มีสิ่งที่เขาต้องแลกไป นั่นคือครอบครัวของเขาเอง

3. คำสัญญาก่อนก้าวไปข้างหน้า และทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลัง
- I'm Coming back
เมิร์ฟ ลูกสาวคนเล็กของเขารู้สึกโกรธที่พ่อจะทิ้งตนไป เธอพยายามห้ามพ่อแต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดความตั้งใจของคูปเปอร์ได้ จึงได้ให้สัญญากับลูกสาวพร้อมให้นาฬิกาเป็นของขวัญเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ในวันนึงเวลาของทั้งสองอาจเท่ากัน พ่อลูกอาจมีอายุเท่ากันก็ได้ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพของเวลา ในฉากที่พ่อจำต้องลาเมิร์ฟและครอบครัวออกมา ระหว่างที่เขาขับรถออกมาช่างน่าเจ็บปวดเหลือเกินกับการที่ต้องฝืนใจตัวเอง ยอมเจ็บปวดหัวใจในวันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในวันข้างหน้าของโลกและครอบครัวของเขาเองด้วย ซึ่งเหตุผลนี้อาจมากเกินกว่าที่ลูกของเขาจะเข้าใจในช่วงเวลานั้น เขาได้แต่บอกลูกเพียงว่า "พ่อแม่ได้เกิดมาเป็นความทรงจำของลูก ในอนาคตพ่อก็คือผีนั่นเอง"

4. (เพราะมนุษย์)เราหาทางได้ เราหาได้เสมอ
ในวันที่โลกเริ่มถึงจุดวิกฤติ จึงต้องมีขบวนการสำรวจโลกใหม่ มีประโยคนึงที่ชอบมากๆคือประโยคที่มาจากพระเอกที่คุยกับดร.แบรนด์คนพ่อ ซึ่งเริ่มคุยจากประเด็นวิกฤติบนโลกที่ไร้ซึ่งทางออก แต่คูปเปอร์ได้พูดประโยคที่น่าสนใจไว้ว่า "เราหาทางได้ เราหาได้เสมอ" มันเป็นคำที่สะท้อนถึงหัวใจของความเป็นนักสำรวจในตัวเขาขนานแท้ เพราะนักสำรวจนั้นล้วนแต่มุ่งเสาะแสวงหาสิ่งใหม่ๆเพื่อหาทางแก้ หาทางออก และสัญชาติญาณของมนุษย์ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เราก็มักจะมีหนทางในการเอาตัวรอดเสมอไม่ทางใดก็ทางนึง และในยุคนี้ ด้วยวิวัฒนาการที่มีมากขึ้น ก็ถึงเวลาที่เราจะไปตายเอาดาบหน้าบนห้วงอวกาศที่เราไม่รู้จักเลยสักครั้ง

5. ฉันมาไกลแล้ว แต่ยังไกลไม่พอ
เมื่อได้ผ่านด่านห้วงอวกาศ รวมถึงพบเจอกับการเดินทางทะลุรูหนอนอย่างยากลำบากแล้ว ภารกิจของพวกเขาคือต้องสำรวจดาวดวงใหม่ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ก็ทำให้บางคนเริ่มมีปากเสียงกัน บางครั้งพวกเขาก็คิดว่าเราอาจผ่านเส้นทางอะไรมามากมาย แต่จริงๆแล้วแทบจะยังไม่ได้เริ่มต้นภารกิจเสียด้วยซ้ำ แล้วยังต้องมาเจอกับความผิดพลาดที่จะสร้างบทเรียนครั้งใหญ่ให้จดจำอีก ดังนั้นต่อให้เดินทางมาไกล แต่ถ้าหากยังไม่ถึงจุดหมายมันก็ยังไม่ถือว่าสำเร็จ แม้จะเริ่มเข้าใกล้ แต่ถ้ามันยังไม่ถึงเส้นชัยก็แปลว่ายังไม่ถึงอยู่ดี ดังนั้นต้องไปให้ไกลกว่า..

6. ชีวิตจริง ไม่เก๋แบบในทฤษฎี
เมื่อออกภารกิจบนดาวมิลเลอร์ ปัญหาอุปสรรคนั้นก็ถาโถมเข้ามา และเราก็ไม่สามารถลืมได้เลยว่าชีวิตเรามีเทคเดียว ถ้าพลาดก็แปลว่าจบเห่ได้เลย การตัดสินใจที่ช่วงเวลาที่จำกัดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่สำคัญคือต่อให้ทฤษฎีเราแม่นแค่ไหน ในสนามจริง ถ้าเราไม่รู้จักกระบวนการรับมือให้ถูกวิธี เราก็อาจดับได้ ซึ่งนั่นทำให้ดร.แบรนด์คนลูกหรือนางเอกของเรื่องได้บทเรียนที่ดีเลยทีเดียว






7. "เวลา"ที่ไม่เท่ากัน
สิ่งหนึ่งที่เราไม่อาจเลี่ยงได้จากการเดินทางสำรวจครั้งนี้ คือ"เวลา"ในแต่ละพื้นที่นั้นล้วนมีไม่เท่ากัน บางที่เวลาเดินช้ากว่าโลกยาวนาน บางที่เร็วกว่า สถานะของเรา ตัวตนของเรา และคนรอบข้างเราสามารถแปรเปลี่ยนไปได้เป็นสิบๆปีทั้งที่เวลาเราเพิ่งจะเดินหน้าไปไม่กี่ชั่วโมง นั่นจึงเป็นเหตุขัดแย้งที่ตัวละครต่างขัดแย้งในภารกิจกัน เนื่องมาจากคนนึงกำลังห่วงคนที่อยู่ในเบื้องหลัง ส่วนอีกคนกำลังห่วงกับสิ่งที่อยู่ตรงข้างหน้า ซึ่งทั้งสองอย่างมีเวลามาคั่นกลางและเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดภารกิจนี้ เพราะเวลานั้น มีค่าและจำกัดเหลือเกิน ทุกวินาทีล้วนมีความหมายต่อมนุษยชาติ ถ้าเราทุกคนสามารถคิดได้แบบนี้ เราอาจจะพบว่าเวลาที่ผ่านไป อาจไม่ได้เสียเปล่าก็เป็นได้ ถ้าว่านั่นมาจากแรงพยายามที่เรากำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ เพื่อที่จะทำให้มันสำเร็จในสักวันหนึ่ง

8. แผนลวงโลกและมวยอวกาศ
ขณะที่ทีมสำรวจกำลังสำรวจอยู่บนดาวอันไกลโพ้น แต่แล้วความจริงก็หลุดออกจากปากดร.แบรนด์คนพ่อ ที่ว่าสิ่งที่เขาทำทุกอย่างที่จะทำให้นักสำรวจเหล่านั้นกลับมาช่วยโลกนั้นเป็นเรื่องโกหก แผนเอที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้สำเร็จกลายเป็นปฏิบัติหน้าม่านซะงั้น ซึ่งปฏิบัติการจริงของเขาคือแผนบี ที่จะนำดีเอ็นเอทางพันธุกรรมไปแพร่พันธุ์ให้เกิดสิ่งมีชีวิตในดาวเคราะห์ดวงอื่นนั่นเอง

ทำให้เกิดความช๊อคโลกขึ้นอันเนื่องมาจากดร.แบรนด์ต้องใช้เวลาปกปิดแผนการณ์ที่แท้จริงมาทั้งชีวิต ยอมให้ตัวเองโดนด่า แต่ใจของแกมีอุดมการณ์ที่จะมองอนาคตเพื่อมนุษยชาติ แต่เมิร์ฟในวัยสาวไม่ได้คิดเช่นนั้นเสียแล้ว เพราะเวลาในชีวิตของเมิร์ฟเองมันตรงกับช่วงอายุที่พ่อเธอได้จากไปแล้ว คำสัญญานั้นอาจเป็นเพียงความหวังลมๆแล้งๆงั้นหรือ?

ขณะเดียวกันทีมนักสำรวจก็ได้ไปพบกับดร.แมน นักวิทยาศาสตร์ผู้เก่งกาจที่เคยถูกส่งออกมาสำรวจดาวมาก่อน และกำลังส่งสัญญาณต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งพบว่าสุดท้ายมันเป็นแค่กลหลอกลวงที่เขาต้องการจะมาควบคุมอำนาจที่จะทะเยอทะยานไปต่อยอดเป้าหมายของเขาเสียเอง จึงเกิดมวยอวกาศขึ้นซึ่งฉากนี้ทำได้ดีมากๆ แสดงให้เห็นถึงว่ามนุษย์อยู่ที่ไหน สันดานในตัวมนุษย์ กิเลสต่างๆ ก็ยังตามไปได้อยู่ดี สุดท้ายก็เป็นการเอาชนะกัน ซึ่งท้ายที่สุด ธรรมชาติก็จะคัดเลือกผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นในด้านร่างกายหรือสติปัญญา ใครมีสูงกว่าผู้นั้นก็มักจะเป็นฝ่ายที่รอด

9. สละชีพทะลวง"หลุมดำ"
ทุกการเดินทางต้องมีผู้เสียสละเสมอ การเดินทางในครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะด้วยเชื้อเพลิงที่มีจำกัด มันเลยต้องบีบบังคับให้บางคนไม่อาจได้ไปต่อ เป้าหมายของนางเอกคือไปยังดาวเอ็ดมันท์ที่ซึ่งมีแฟนเธอได้ไปสำรวจ แต่สำหรับพระเอกแล้วสิ่งสำคัญที่สุดของเขาคือการได้กลับไปหาลูกเท่านั้น

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่เขาจะตัดสินใจ "ปล่อย" ได้ เพราะเขาต้องยอมรับว่าเชื้อเพลิงมีไม่มากพอที่จะกลับโลกแล้ว การที่เขาจะปล่อยให้เพื่อนร่วมทางของเขามีโอกาสได้เดินทางไปข้างหน้าเพื่อพบเจอกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้มันก็ยังดี เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้ความหวังตายไปจากหัวใจแบบที่เขาต้องพบเจอ

และในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว การเดินทางเข้าสู่หลุมดำจึงเป็นเหมือนกับการตัดซึ่งกิเลสทั้งปวง เสมือนกับเรากำลังเข้าสู่ปลายทาง จุดจบ หรือ "นิพพาน" บรรลุในสัจธรรมแห่งชีวิต นี่คือสถานที่ที่เหมือนกับได้ตายแล้วเกิดใหม่บนกลไกที่ซับซ้อนของกาลเวลา มันคือจุดจบที่นำพาไปยังจุดเริ่มต้น เหลือเพียงแค่รอให้ตัวเอกอย่างคูปเปอร์มาเป็นตัวเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกันอีกครั้ง





10. สิ่งลี้ลับในมิติที่ห้า
บนพื้นฐานความเข้าใจของคนเรา ยังมีมิติมากมายที่เรายังไม่เคยมองเห็น หรือมันยังอยู่ไกลกว่าที่เราจะเข้าใจ แต่เมื่อถึงเวลาเราอาจรับรู้ได้ บางคนอาจมองว่านี่คือผีหรือไม่ แต่ในมุมวิทยาศาสตร์นั้น สิ่งลี้ลับเหล่านี้อาจเป็นเสมือนผู้สร้างผู้บงการชีวิตเราอีกที เหมือนเป็นพระเจ้าที่คอยนำทางให้เรามาแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไป ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร รู้แต่ว่ามันคือผู้ที่นำทางเรา และทำให้เราได้พบเจอกับตัวเราในอนาคตที่เป็นเสมือนผี และไปนำทางตัวเราเองในอดีตอีกทีหนึ่ง เสมือนว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว อยู่ที่ว่ามันจะเดินไปตามครรลองของมันเมื่อไหร่ และเราจะเข้าใจมันเวลาไหนเท่านั้นเอง

และจุดนี้คือจุดที่ตัวเอกได้กำลังทำหน้าที่เป็น "ผู้สร้าง" อนาคต ผู้ชี้โชคชะตา จากการนำทางของ "ผู้สร้าง" ที่มาจากมิติที่ห้าอีกทีหนึ่ง ดังนั้นการที่เราเป็นผู้สร้างตัวเราในวันนี้ อาจเป็นเพราะมีอะไรบางอย่างที่เราไม่เข้าใจนำทางเราอยู่ก็เป็นได้ กลไกของชีวิตนั้นซับซ้อนยิ่งนัก ทั้งรูหนอนอวกาศที่มาอยู่ปรากฏให้เห็นโดยบังเอิญ การเอาชนะแรงโน้มถ่วง การเผชิญหน้ากับความจริงในหลุมดำ และที่สำคัญคือการถอดรหัสมอร์สและส่งผ่านกลับไปยังโลกนี่คือสิ่งที่เหนือความเข้าใจ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ไม่แพ้ไสยศาสตร์เลยทีเดียว

11. ความรักคือกุญแจที่อยู่เหนือสรรพสิ่งและกาลเวลา
- I love you 'FOREVER'
สิ่งเดียวที่เป็นจุดเชื่อมโยงให้ตัวเอกมีแรงผลักดัน มี Passionมาถึงในจุดนี้ได้ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เป็นเหมือนลูกกุญแจที่สามารถสะเดาะกลอนประตูของเวลาได้ลง นั่นคือ "ความรัก" ที่มาจากคำสัญญา

คำพูดที่ว่า I'm coming back. นั้น มาจากความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะทำ และต่อให้จะออกไปผจญอวกาศสุดขอบจักรวาลจนข้ามผ่านมิติและหลุมดำ คำตอบเดียวที่พระเอกต้องการการจะไปยังจุดหมายนั้นคือ กลับไปหา"ความรัก" เพียงเท่านั้นเอง และ "ความรัก" มันจึงเป็นเสมือนพันธนาการที่อยู่เพียงใกล้เอื้อมเหมือนชั้นหนังสือในห้องสมุดที่เต็มไปด้วยความรู้

แต่เมื่อมีความรัก มีความหวัง ก็ทำให้เกิดจินตนาการ นี่ล่ะมั้งคือที่มาของคำว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะถ้าเราจินตนาการได้ สิ่งที่ไม่มีอยู่ในหนังสือ ยังไม่ได้เป็นความรู้ ก็อาจสามารถเป็นไปและเกิดขึ้นมาจริงๆได้ อาทิปรากฏการณ์ถอดรหัสมอร์ส ซึ่งนางเอกเป็นผู้ทำสำเร็จ และสามารถทำให้โลกเปลี่ยนแปลง เอาชนะแรงโน้มถ่วงได้

แต่ท้ายที่สุดเธอก็รู้อยู่แก่ใจว่านั่นคือการบอกใบ้กระซิบจากพ่อ บุคคลที่เธอรอพบมาตลอดชีวิต และจินตนาการนอกจากจะทำให้เกิดความรู้แล้ว มันยังทำให้เกิดสิ่งที่น่าทึ่งถึงที่สุดได้อีกด้วย เพราะมันสามารถเนรมิตดลกใหม่ที่อัศจรรย์เกินกว่าจะคาดเดา และทำให้คนจากสองช่วงเวลาที่ไม่เท่ากัน กลับมาโคจรพบกันได้อีกครั้งก่อนจะหมดลมหายใจ

และจินตนาการที่งดงามที่สุดมันก็เกิดขึ้นมาจากความรัก ที่ต้องเสาะแสวงหาเส้นทางในขอบเขตของจักรวาลให้คนทั้งสองได้นำความรักมามอบให้แก่กันอีกครั้ง และความรักของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนโลกทั้งใบ และทำให้เกิดวิวัฒนาการใหม่ของมนุษยชาติ

นี่คือความยิ่งใหญ่ของความรักของพ่อลูกที่ถูกแสดงออกมาผ่านการกระทำด้วยน้ำพักน้ำแรงตลอดทั้งชีวิต ทั้งเมิร์ฟและคูปเปอร์ ผ่านการเฝ้ามองและอยู่ร่วมกับคนรอบข้างที่เฝ้าสังเกตุการณ์เติบโตของเราไปในเวลาเดียวกัน เป็นหนังพ่อลูกที่เล่าเรื่องความรักได้ทะเยอทะยานที่สุดแล้วจริงๆ นี่คือเหตุผลที่ว่าความรักคือกุญแจของสรรพสิ่ง และยิ่งใหญ่จริงๆ เพราะวงกตอวกาศแห่งนี้ ต่อให้ไปไกลแตะขอบจักรวาล ก็ยังไม่อาจทรงพลังมีอานุภาพเท่ากับความรักในใจมนุษย์เราได้เลย นี่คือความหมายของคำพูดที่คูปเปอร์เคยบอกไว้นั่นเอง

"I love you forever."





12. การหลุดพ้นจากโลกใบเก่าของนักสำรวจ
ทั้งสองเพียงได้พบเจอกันแม้เพียงแค่ครั้งเดียว นั่นก็ได้ถือว่าการเดินทางที่ยาวนานมาทั้งชีวิตของคนทั้งสองได้บรรลุจุดประสงค์แล้ว ที่สามารถสร้างโลกใบใหม่ให้พวกเขาได้มาเจอกันในที่ใดที่หนึ่งบนจักรวาล

หลังจากนี้โลกใบเก่าของเมิร์ฟผู้ซึ่งชราภาพก็ถึงคราวที่จะดับลงพร้อมๆกับการที่ได้สัมผัสความรักของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผีไปแล้วในเวลานี้ ส่วนคูปเปอร์แม้ว่าเวลาในการสำรวจยังคงทำให้เขาหนุ่มแน่น แต่ในรอบชั่วอายุคนแล้ว การที่เขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงตลอด122ปีและยังมีสังขารไปต่อ เขาจึงต้องหาทางหลุดพ้นตัวเองไปสู่ประตูใหม่อีกครั้ง วันนี้เขาไม่จำเป็นต้องแหงนหน้าลงมาดูเราในกองดินแล้ว แต่บนฟากฟ้าอันไกลโพ้น ที่ซึ่งเขายังไม่เคยไป ที่ซึ่งเพื่อนร่วมทางของเขาอาจกำลังโดดเดี่ยวอยู่ที่ดาวเอ็ดมันท์ที่ไกลลับตา ชีวิตของเขาในวันข้างหน้าไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่เขาก็ตัดสินใจทะยานออกไปหามัน ก้าวข้ามComfort Zoneของตัวเองอีกครั้ง เพื่อที่จะไปหาโลกใบใหม่ที่ดีกว่าเดิม

คราวนี้เขาไม่ต้องทำเพื่อหาโลกใหม่ให้คนทั้งโลกแล้ว แต่ถึงเวลาที่เขาต้องหาโลกใหม่ให้เหมาะกับ"นักสำรวจ"อย่างเขาให้ได้พักผ่อนอย่างสงบเสียที และนี่อาจเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายที่จะพาเขาไปสู่ห้วงนิพพานอย่างแท้จริง.

Do not go gentle into that goodnight.
Old age should burn and rage. Rage,rage against the dying of the light.

"ยุคเก่าเผาไหม้เป็นธุลีเมื่อถึงเวลา สู้สุดแรงแข่งกับแสงสุดท้ายของดวงตะวัน เพื่อให้เราได้พบกับยุคใหม่ในรุ่งอรุณที่สวยงาม"


.
.
สุดท้าย ฝากอีกรีวิวนึง เป็นหนังฮ่องกง
Still Human (10/10 A++++++)
"เปี่ยมด้วยหัวใจและความรู้สึกโคตรดีงาม สมคำร่ำลือ
เป็นหนังที่คุณภาพโหดหินอีกเรื่องของปีนี้"
.
.

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: GO HOME U DRUNK.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Oct 2010
ตอบ: 6555
ที่อยู่: DOG TOWN
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:11
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
คนอื่นว่าดี ผมดูแล้วหลับ 5555
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2612
ที่อยู่: ข้างข้างวิววิว
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:15
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
ผมต้องผ่านฉากแรกให้ได้ ดูแล้วเวียนหัวมาก

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2010
ตอบ: 10257
ที่อยู่: อยู่ในปาร์ตี้ร้อนดั่งกับไฟเยอร์
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:19
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
ดูเป็นสิบรอบละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: Dumb leaders. We'll all die.
: 2 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 13147
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:19
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
โคตรดีเรื่องนี้ ติดท็อปในดวงใจผมมาตลอด ถ้าคนชอบสายดาราศาสตร์มาจะอินเป็นพิเศษ(ผมก็หนึ่งในนั้น) ตอนสุดท้ายคนชอบบ่นว่าจบอะไรก็ไม่รู้ แต่ผมว่าหนังมันพยายามหาทางลงให้ง่ายที่สุดแล้วเพราะทั้งเรื่องมันคือทฤษฏีจักรวาลที่คนในปัจจุบันเองก็ยังไม่รู้ว่า บทสรุปในหลุมดำนั้นคืออะไร มันคือจินตนาการล้วนๆ ซึ่งผมโอเคกับมันนะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: อย่าลืมโต๊ด บน ล่าง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 8909
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:20
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
โคตรดีจริงๆนะ ในไอแมกซ์ เหมือนหลุดเข้าไปในอวกาศจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: เหรียญมันยังมีสองด้าน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jun 2007
ตอบ: 18159
ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น.....
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:24
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
ยังไม่ได้ดู
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
จะเพื่อนกิน..หรือเพื่อนตาย..ก็เพื่อนเรา..แล้วเราจะไม่เดินเดียวดาย....


ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 776
ที่อยู่: Thailand
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:29
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
ผมติดใจอยู่อย่างเดียว เวลาผ่านไป 25 ปีบนโลก นางเอกจากเด็กน้อยกลายเป็นศจ.ไปแล้ว
ทำไมยังใช้รถคันเก่าเมื่อ 25 ปีก่อน หมู่บ้านและไร่ข้าวโพด เหมือนเดิมเป๊ะเลย

แต่ที่เหลือถือว่าสุดยอด
ปล. ฮีโร่ตัวจริงของเรื่องนี้คือ TARS นะฮะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: Football without fans is nothing.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 2183
ที่อยู่: No One Like Us
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:31
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
ความรักอยู่เหนือกาลเวลาและสถานที่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2006
ตอบ: 2314
ที่อยู่: Blue planet
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:42
12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา
ฉากที่พ่อมาเจอลูก

น้ำตาร่วงกราว

ดูซ้ำไม่รู้กี่ครั้งแล้ว เวลาที่รู้สึกเหนื่อยในการทำงาน ดูเรื่องนี้แล้ว รู้สึกดีไม่ท้อแท้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Mar 2010
ตอบ: 1179
ที่อยู่: ศรีราชา
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 11:48
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
แฟนพันธ์แท้โนแลนด์จ้าชอบหนังโนแลนด์มากกก อินเซฟชั่นดูยากๆผมก็ชอบพอทำความเข้าใจ

แต่ อินเตสเตล่า กับ ดันเคิร์ก ผมไม่ไหวจริงๆ ไม่ชอบเลย ดูแล้วหลับตลอด ยิ่งอินเตสเตล่าผมโง่วิทด้วย พอมีทฤษฎีอะไรเยอะเยะมากมายเลยพาลไม่ชอบหนังเรื่องนี้เลย (แต่ฉากลาของพ่อลูกนี่คือที่สุด)

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 5308
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 12:04
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
ดูในโรงเกือบสิบรอบ นั่งน้ำตารื้นอยู่คนเดียวฉากพ่อลูกมาเจอกันช่วงท้าย...
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 729
ที่อยู่: เพลงๆนี้ที่ฉันฟังนั้น ฉันไม่ได้แต่ง
โพสเมื่อ: Tue Aug 11, 2020 17:08
[RE: 12 ความประทับใจที่ทำให้Interstellarเป็นหนังที่อยู่เหนือกาลเวลา]
เพิ่งไปดู IMAX มาอีกรอบ อลังการจริงๆ กับฉากบินเข้าเข้าสู่รูหนอนและหลุมดำ

เป็นหนังที่ทำให้คนดูต้องค้นหาคำตอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและแรงโน้มถ่วง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel