อันนี้มุมมองด้านของทอมด้านเดียว เห็นใจที่ต้องทำแบบนี้
แต่ก็อยากฟังมุมของทั้ง 2 คนนั้นบ้าง ไม่รู้มีอธิบายไว้หรือป่าว

ผิดหวังกับทอมนะ ที่พิมพ์แก้ต่างโทษทั้งคู่ออกสื่อแบบนี้
ถึงทั้งคู่อาจจะผิดจริงหรือไม่ แต่จะไม่มีเยื้อใยที่เคยร่วมงานกันมาเลยหรือยังไง
ความเป็นพี่น้องมันหมดไปแล้วใช่ไหมเนี่ย

วงนี้ฟังตั้งแต่ cover เพลงกันเองลง youtube
ชอบสุดก็เพลง ของขวัญ

ผิดประเด็นป่าว พ่อทอมยังไม่ตายนะครับ เขาบอกอยู่ว่าแอดมิตอยู่ รพ. ระยะสุดท้าย

คนตายกับคนป่วยมันไม่เหมือนกันนะ ถ้าสนิทกันผมก็ถามอ่ะเพราะเป็นห่วงเพื่อนเหมือนกัน(ท่านอาจจะไม่ถาม ถ้าผมย้ำเลยนะว่าถ้าเพื่อนสนิทผมจะถามมันนะ แต่ไม่สนิทมากก็ไม่ไปยุ่งถามมันหรอก)

แบบอาการพ่อดีขึ้นยังเป็นไงบ้าง มึงพักไปดูพ่อไหม กูจัดการเอง

แต่เวลาพ่อเพื่อนตาย ผมก็ไม่ไปนั่งถามหรอก ว่าเป็นอะไร ทำไม

เทียบกันโคตรผิดประเด็น

ปล. ผมว่าเรื่องเงินทองๆด้วยแหละ ออกไปทำคนเดียวจัดการเวลาได้ดีกว่า ไม่ต้องเดินทางมีเวลาให้ครอบครัว มันก็เ็นงี้แหละ อีกสองคนก็ต้องพึ่งงานวงเป็นหลัก หลายได้ด้านอื่นไม่ได้มีเหมือนทอม มันก็เลยมองคนละด้าน
ผมชอบที่แว่นใหญ่ออกมาทำเอง เพลงเพราะทุกเพลง

ผมว่าทอมโกหก ข้อสังเกตุ
1. ถ้าตะบี้ตะบันทัวร์ งานวงในช่วงนั้นต้องเยอะมากๆ แต่ช่วงนั้นผมแทบไม่เห็น วงมีงานออกสื่อเลย แต่กลับกันงานเดี่ยวทอม
นี่เข้ารัวๆ ออกสื่อเห็นหน้าจนเบื่อ ถ้าข้ออ้างพ่อป่วย งานเดี่ยวก็ต้องไม่รับด้วย(รับงานอื่นเยอะได้ แต่งานวงบอกพ่อป่วยมันย้อนแย้ง)

2. ข้ออ้างไม่ให้กำลังใจ ผมว่ามันดูเด็กน้อยเกินไป เรื่องแบบนี้มันไม่สะดวกใจจะถามกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เค้าจะรอให้เล่าเองมากกว่า
บางคนก็ไม่ชอบให้ถามเรื่องแบบนี้ ผมก็คนนึงถ้าอยากเล่ากุเล่าเอง

เรื่องเค้าแยกวงหรือทะเลาะกันเรื่องอะไรอย่าไปตัดสินเลยว่าใครผิด เพราะเราไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง

ที่แว่นใหญ่โพสผ่านเพจ room39 ผมว่าเป็นสัญญาณที่ดี เหมือนแย็บ ๆ ชวนคุยกับทอมทางอ้อม

แต่ในมุมของทอม พอมีประเด็นเกี่ยวกับวงจะโดนมองเป็นตัวร้ายตลอด พอสะสมมาก ๆ เข้าเลยระเบิดออกมา

พอแว่นใหญ่เห็นโพสของทอมแบบนั้นคงจะกลับมารวมวงกันยากแล้ว

ผมก็คิดว่ามันแปลกๆเหมือนกันนะครับ เดิมทีผมไม่ได้อคติอะไรกับใครนะ ก็ติดตามผลงานของทุกคนต่อ เพราะคิดว่าเหตุผลที่แยกกันมันก็เรื่องส่วนตัวกันน่ะแหละ ไม่ว่าจะอะไรผมไม่ว่าใครผิดเท่าไร

แต่เรื่องที่ท่านว่ามาข้อ 1 . อันนี้ช่วงนั้นผมไม่ได้ตามข่าวเท่าไร เรื่องงานวง / งานเดี่ยว แต่ได้ยินดราม่าว่ารับงานเดี่ยวรัวๆ ไม่รู้จริงแค่ไหน แต่เห็นหลายเม้นบอกตรงกันเลยคาดว่าน่าจะจริง

2. เรื่องนี้ผมสงสัยมากที่สุดว่าพูดออกมาทำไม เหมือนโยนให้อีกสองท่านดูเลวจริงๆ เหมือนตัวเองถูกกระทำเสียมากกว่า

ข้อนี้ผมมีการคาดเดาสองอย่างคือ อย่างแรกหากความสัมพันธ์ช่วงนั้นยังปกติกันดี ผมว่ายังไงๆคนสนิทกันต้องมีการพูดถึง หรือถามไถ่ เล่าสู่หรือระบายต่อกันอยู่แล้ว เพื่อนพี่น้องกันทำงานด้วยกัน สนิทกันปกติยังไงก็น่าจะมีบ้างแหละ

อย่างที่สองก็คือช่วงนั้นมันมีความสัมพันธ์กันที่ไม่ดีมากๆอยู่ก่อนแล้วอาจจะมาจากข้อ 1. ก็เป็นไปได้ ฉะนั้นการที่จะไม่ถามอะไรเลยก็ฟังดูไม่แปลก เพราะเรากับเพื่อนที่เกลียดขี้หน้ามันอยู่จากเรื่องต่างๆ เป็นไปได้เราก็ไม่ได้อยากยุ่งอะไรกับมัน หากเป็นอย่างนี้ก็พอเข้าทางได้ก็คือ ทอมก็ไม่ได้พูด "โกหก" หรอกครับ แต่สำหรับผมเพียงแค่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง

เดี๋ยวนะครับ ปกตินักร้องเค้ามีผู้จัดการวงนะครับ นักร้องมีเวลารับงานเองที่ไหนครับ ถ้าไร้สังกัดอันนั้นน่ะใช่ครับ แต่ในเมื่อมีสังกัด ถ้านักร้องออกแต่อีเว้น ไม่ออกทัวร์ค่ายเอาอะไรกินครับ

ผมเป็นคนนึงที่ชอบคิดว่าเพื่อนมันคงไม่ต้องการให้เราสงสาร ขอแค่เราเข้าใจหรืออยู่กับมันก็พอ เวลาเพื่อนผมมีเรื่องอะไรผมก็จะทำตัวปกติกับมัน มันเองก็ทำแบบนี่กับผม แต่มองตาผมก็รู้ว่ามันมีปัญหารึอะไร ผมว่าบางทีอาจจะเป็นแบบนี้แว่นใหญ่อาจจะรู้ แต่แค่ไม่ได้พูดเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ใันเดิดขึ้นได้นะกับบางรูปแบบความสัมพันธ์ แต่ทอมคือคิดอีกแบบ บทสรุปของเรื่องนี้ก็คือการไม่พูดกันนั่นแหละ เหมือนวงบิ๊กแอสเปี๊ยบเลย

เหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจ

ผมอิงจากวงดังๆบางวง เขาฟิกวันได้เช่น วันพฤหัสศุกร์ไม่รับ ที่เหลือรับปกติไม่ว่างวันไหนก็บอกผู้จัดการวง

ไม่ใช่จัดมาวันไหนก็ต้องไปเล่น ผมก็เสริมคุณว่า นักร้องสามคนของห้อง39ก็ต้องโอเครกับตารางงานแหละ ถ้างงก็ข้ามไปเลย ไม่ได้จะบอกนักร้องรับงานเอง

ผมสรุปสั้นๆเลยนะ

เพราะเมียเสี้ยม (เมียเป็น ผจก)


ในวงการเอเจ้นเค้ารู้กันดีว่าเมียทอมเป็นยังไง

ผมไม่อะไรกับติ่งที่ไปก่อหวอดนะ เพราะมันหาเหตุผลดี ๆ จากคนพวกนั้นไม่ได้อยู่แล้ว
เสียเวลา

ในกรณีกระทู้นี้ ผม focus ที่การพาดพิงไปยังเรื่องในอดีตแลวกระทบชิ่งไปยังอดีตเพื่อนร่วมงานมากกว่าไง

ถึงได้ย้ำในประเด็นว่า "หากทอมมีวุฒิภาวะพอ"

เรื่อง พี่น้อง ยกยกกรณีมาว่า
หากทอมเป็นคนอ่อนไหวเรื่องพวกนี้จริง ๆ
ในภาวะของพี่น้องที่มี มันต้องช่วยกันดูแลพ่อแม่บ้างแหล่ะ

เหตุใด เพราะอะไร ทอม จึงแสดงออกเหมือนตัวเองดูแล พ่อแม่อยู่คนเดียว
ในขณะที่พาดพิงไปยังเพื่อนร่วมงาน ประมาณว่า ไม่ห่วงกูเลย

สับสนมั้ยครับ
มันไม่เมคเซนส์

ถ้าไม่อยากขยายความต่อ ก็ให้จบกันที่ ทอม มันไม่มีวุฒิภาวะพอ
แต่ถ้ายังพยายามแถต่อ
สุดท้าย คนที่เน่าในก็กลายเป็น ทอม และอาจจะ (อดีต) เพื่อนร่วมงาน ทอม นั่นแล

พ่อคุณป่วยหนัก คุณก็ควรลดงานที่เป็นงานเดี่ยวซิ ไม่ใช่มาเหมางานรวมด้วย บ้านทอมก็ไม่ใช่ไม่มีเงิน แต่เห็นรับงานตอนเป็นหน้ากากทุเรียนหนักกว่าอีกนะ แล้วแต่จะมาโทษว่าไม่มีเวลาดูแลพ่อ หรือ คนอื่นไม่มาห่วงพ่อตัวเอง มันดูไม่เมคเซ้นอะ

มันแล้วแต่นิสัยส่วนตัวนะครับ

อย่างผมเอง ถ้าเพื่อนสนิทที่สุดมากแค่ไหนก็ตาม ถ้าพ่อป่วยระยะสุดท้าย ผมคงไม่มานั่งถามบ่อยๆหรอกครับว่าเป็นไงมั่ง นอกจากเพื่อนจะเกริ่นพูดให้ฟังก่อน เพราะบางทีเราก็ไม่รู้ว่าเพื่อนมันอยากจะพูดเรื่องนี้ไหม หรืออยากให้พูดให้กำลังใจไหม คนบางคนก็ต้องการเก็บเงียบไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวก็มีครับ

มันไม่เกี่ยวเลยครับว่า ถ้าไม่พูดถึงถามถึงว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง = ไม่ใส่ใจ ไม่รู้สึก ไม่ใช่เพื่อนแท้ อย่างที่คุณทอมเอามาเป็นประเด็นในครั้งนี้

ทีม แว่นใหญ่ครับ

ลิปตานี่ผมว่ายากครับ มีแต่จะขยายวงเป็น ลิปตา+เสือร้องไห้ พี่แนตกีตาร์ พี่เอ็ดกลอง พี่โค้ดเขย่าไข่