คือบ้านผมตอนนี้ที่จอดรถมันไม่พอ ต้องจอดซ้อนคันกัน แล้วเวลาคันข้างในจะออก ต้องถอยยาวเลย 3 คัน

กว่าจะได้ออก ทีนี้ตัวผมเองก็เลยจะทำที่จอดรถแยกออกมาจากบ้านพ่อ เป็นที่จอดส่วนตัวไปเลย

ก็เลยจะใช้ที่ตากผ้าของบ้านมาทำ แล้วจะทำแบบเดินขึ้นไปตากผ้าข้างบนเอา

แล้วทีนี้ตรงนั้นมันเป็นกำแพงก็จะเจาะกำแพงทำประตูเข้าออกไปเลย รถจะได้ออกสะดวก

ส่วนพื้นที่มันก็คือพื้นที่เท่ากับตัวรถแระครับ เป็นรถขนาด e-class 2คัน ด้านบนเป็นด่านฟ้าเดินขึ้นไปตากผ้าโล่งๆ

คิดว่ายุ่งยากไหมครับ ไม่ได้เน้นดีไซน์หรูหราอะไรมาก คิดว่างบ 2แสน รวมประตูด้วยแล้ว

คิดว่าจะพอไหมครับ ยังไม่ได้ปรึกษาช่างครับเพราะว่าติดโควิดกันอยู่ ตอนนี้อยู่ในช่วงดูแบบเรื่อยๆอยู่ครับ

ปล.ที่จอดไม่ต้องทำเชื่อมต่อกับตัวบ้านนะครับ





ประมาณนี้ครับ แต่ว่าด้านบนไม่ต้องมีหลังคานะครับ เพราะจะเอาไว้ใช้ตากผ้า

แล้วก็ด้านหลังไม่ต้องมีห้องครับ ทำเป็นที่จอดรถ2คันเลย

เอาขนาดหน่วยเปนเมตร มาคูณกัน แล้ว คูณด้วย 8พัน

ลองคูณเล่นๆประมาณ 240000

อันนี้รวมหมดทุกอย่างแล้วใช่ไหมครับ เป็นวิธีคิดของช่างหรอครับ ผมเพิ่งรู้เลย

ถ้าเอาขนาดลานจอดมาตรฐานคือ 5.0 - 5.4 + ทางเดิน 0.4 = ด้านยาว ~5.8m
ด้านกว้าง ปกติควรจะเหลือข้างละ 0.7m รถแบบ e-Class 2 คัน ก็คิดว่าประมาณ 5.9 m
เท่ากับว่า 5.8*5.9m = 34.22 ตรม.

ค่าก่อสร้างตีไว้ได้ตั้งแต่ 8,000 - 10,000 บาท/ตรม = 273,760 - 342,200 บาทครับ

อันนี้ขึ้นอยู่ดินแถวบ้าน ลงเสาลึกเท่าไหร่ สูงเท่าไหร่ ฯลฯ ด้วยนะครับ ตีไว้คร่าวๆเฉยๆครับ

ถ้าเป็นผม ผมไม่ทำชั้นบนไว้เป็นที่ตากผ้านะฮะ (นอกเหนือจากว่ามันไม่สวยด้วยแล้วนะฮะ)

เพราะมันทำให้ต้นทุนเพิ่มโดยใช่เหตุ..แทนที่จะสร้างแค่เพื่อเป็นหลังคากันแดดกันฝน ต้องมาเผื่อรับน้ำหนักคนเดินขึ้นไปด้วย

คือนอกเหนือจากพื้นชั้น 2 ตรงนั้น มันยังลามมาถึง cost โครงสร้างเสารับน้ำหนักเลยนะฮะ เผลอๆช่างจะแนะนำให้ตีเสาเข็มด้วย

(โรงจอดรถปกติ บางที่ก็อยากให้ตีเข็มเผื่อกันทรุด..แต่บางที่ก็บอกไม่ต้อง เพราะคิดว่าแค่หลังคาอย่างเดียวคงไม่หนักเท่าไหร่)

นี่ยังไม่รวม cost บันไดปีนขึ้นไปอีกนะฮะ...ทั้งหมดแลกกับพิ้นที่ตากผ้า ไม่น่าจะคุ้มฮะ

เป็นวิธีประเมินราคาคร่าวๆครับ พื้นที่แต่ละแบบก็จะคำนวนต่างกันครับ ตัวอาคาร พื้นที่จอดรถ พื้นที่นอกบ้าน วัสดุที่เลือกใช้ ความแน่นของดิน ต้องลงอะไรเท่าไหร่ยังไง จังหวัดที่ก่อสร้าง (มีผลต่อค่าแรง) ฯลฯ

เช่นตัวบ้านปกติที่ผมเจอตีถูกสุดคือ 12,000 ไปจนถึง 19,000 บาทต่อตารางเมตรครับ ลองดูใบเสนอราคาที่แนบมาครับ อันนี้สถาปนิกผมเพิ่งตีราคามาให้เลยเมื่อตอนเดือนสองครับ

แต่มันไม่เหลือที่แล้วจริงๆ เพราะข้างๆก็เป็นห้องนอนของพี่คนงานในบ้าน

ไม่งั้นต้องลามไปซื้อที่หลังบ้าน (ซึ่งจริงๆคาดว่าจะซื้อแต่ยังไม่ใช่ในเร็วๆนี้)

น่าจะบานปลาย ปรึกษากันหลายคนแล้ว มันมีวิธีเดียวเลยครับ

อันนี้คือยังไม่รวมประตูใช่ไหมครับ ได้เรื่องเหมือนกันนะครับ 5555

สงสัยต้องไปเรียกลุงกับป้ามาช่วยกันออกละ เพราะตากผ้าก็ตากด้วยกัน

ใช่ครับ ตอนแรกผมให้เค้าออกแบบเผื่อไว้จอดรถตู้ด้วยเพราะไม่ทราบราคา ไปๆมาๆก็ลดขนาดลงครับ แอบแพง ฮ่าาา

ซื้อเครื่องอบผ้าสิครับ จะมัวตากอยู่ทำไม

เดี๋ยวนี้อบได้เหมือนเราตากผ้าเลยไหมครับ

เพราะว่าบ้านผมครอบครัวใหญ่ อยู่กัน 3 ครอบครัวใหญ่

แต่ก็ผลัดกันซักครอบครัวละวันแระ เดี๋ยวผมลองศึกษาดูครับ

อย่าทำที่ตากข้างบนเลยครับ เพราะการออกแบบคนละเรื่องเลย ต้องทำกันซึมอีก ไม่งั้นน้ำรั่วลงโรงรถแน่นอน อีกประการคือใครจะอยากเดินขึ้นครับ ขนผ้ามาหนักๆ แล้วให้เดินขึ้นบันได ขนาดเราอายุน้อยยังไม่อยากเดินเลย แล้วคนมีอายุอีกละ

ถ้าให้แนะนำนะครับ ทำโรงรถแล้วไปตากผ้าที่อื่น ในบ้านน่าจะยังพอมีที่อยู่นะครับ ไม่งั้นก็ใช้ราวตากผ้าที่มีล้ออะ เข็นมาไว้หน้ารถเลย ถ้าจะเอารถออกก็ลากราวไปหลบ

ปล. ถ้าอยากได้แบบประหยัดพื้นที่แต่งบไม่เกี่ยง แนะนำขุดลงใต้ดินครับ

เถียงกับคนในบ้านนี่สุดๆครับ เมื่อกี้เดินไปคุยเรื่องที่อบผ้า ก็โดนปฏิเสธมาเรียบร้อยครับ

เพราะเขาบอกว่า ไอโครงสร้างทำแบบมีดาดฟ้า กับไม่มี มันต่างกันนิดเดียว ไม่เท่าไหร่หรอก

ทำแบบมีดาดฟ้าไปเลย จะไปเสียเงินค่าไฟอบผ้าทำไม

ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาเข้าใจ

แล้วสิ่งที่ท่านพูดมาคือเป็นสิ่งที่ถูกต้องเลยใช่ไหมครับ เพราะผมจะได้เอาไปพูดกับเขาได้ ว่ามันจะเกิดปัญหาอะไร

งบจะบานปลายไหม จะได้บอกเขาถูก

ทำที่จอดรถไว้ด้านบน แล้วที่ตากผ้าอยู่ด้านล่างครับ ไม่ต้องเหนื่อยขนผ้า