สวัสดีครับ สมาชิกทุกท่าน เนื่องจากผมได้กลับมาจากอังกฤษเมื่อประมานวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา

เพราะนโยบายอังกฤษคือ ใครป่วยเอ็งอยู่บ้านไปซะ ไม่ตรวจ covid ให้ละ ไม่หาย ก็ตายก่อนได้เข้า รพ ล่ะ

แถมผู้คนที่นั่น ก็เหยียดเอเชีย และคนที่ใส่ mask หนักมากๆด้วย ว่าเอ็งใส่ mask หรอ เอ็งมีเชื้อมาแพร่แน่ๆ ยี้ ไอ้พวกคนจีน (ใครหน้าเอเชีย มันก็เหมาว่าจีนหมด)

เรียกได้ว่า ผมเดินผ่านบนถนน จะต้องทำใจว่าจะโดนตะโกนใส่หน้าแน่ๆ ว่า corona

แถมหน้ากาก หาซื้อไม่ได้เลยครับ สั่งซื้อก็เจอกับของปลอม บางเฉียบดุจผ้าอนามัย 50 ชิ้น แถมของปลอมแล้วยังราคาตกอยู่ที่ 1,600 บาท ครับ

โชคดี โวยวายจนขอ refund มาได้เต็มจำนวนครับ โดยคนขายก็อ้าง supplier ส่งมาแบบนี้



เลยตัดสินใจกลับมาไทยครับ อย่างน้อยก็สบายใจ ได้รับการรักษาแน่ๆ ระบบ สธ บ้านเราดีกว่ามากๆ และไม่โดนเหยียด หรือกลัวว่าจะโดนทำร้ายแน่ๆ

ตอนกลับมาเลยได้กักตัวอยู่บ้านคนเดียว แยกกับครอบครัวที่อยู่อีกที่ ราวๆ 14 วัน แล้วไปรับการตรวจแบบ drive thru เลยอยากมารีวิวให้ฟังครับ

ส่วนตัวผมมีอาการไอแบบมีเสมหะเล็กน้อย แบบนานๆจะไอที อย่างเดียว ไม่มีไข้ ตั้งแต่ก่อนกลับมาราวๆอาทิตย์กว่าได้แล้วครับ

ก็แอบกังวลเล็กน้อย แต่ไม่คิดว่าเป็นอะไร เพราะป้องกันตัวเองดี ไม่ออกไปที่เสี่ยง

คิดว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงก่อนกลับ ซัดแอลกอฮอลล์หนักไปหน่อยครับ อาการไอเลยไม่ค่อยดีขึ้นเท่าที่ควร

ช่วงกลับมาไทย ก็ชุลมุนพอสมควรครับ เพราะวันที่ 20-21 มีนา นี่ล่ะ ทางรัฐเขาจะเริ่มใช้มาตรการให้ขอใบ fit to fly มาจากสถานฑูตไทย ก่อนกลับ

ซึ่งผมโชคดี เป็นไฟลท์ท้ายๆ ที่ไม่ต้องใช้ใบ จะได้ไม่ต้องไปรวมตัวที่สถานฑูตให้เสี่ยงรับเชื้อด้วยครับ

ตอนไปที่สนามบินก็แอบหวั่นๆนะครับ เพราะคนเริ่มฮิตแต่งแบบทางซ้ายในรูป กันเพียบ เราก็ใส่แค่ mask คาดปากไปเฉยๆ



แต่สุดท้ายตอนขึ้นเครื่องไป คนก็ไม่แน่นมากครับ นั่งแบบที่เว้นที่ แถมอาหมวยคนจีน ที่นั่งข้างๆน่ารักมากครับ เลยเป็นไฟลท์ที่ค่อนข้างจะสบายๆ

แต่พอมาถึงไทย ก็เริ่มวุ่นๆหน่อยครับ เพราะตอนนั้น ต้องกรอกอะไรต่างๆทาง app AOT ครับ

ซึ่งก่อนหน้านั้นตามกฎระเบียบจำเป็นต้องกรอกเฉพาะผู้ป่วยมาจากประเทศระบาดหนัก อย่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อิหร่าน อิตาลี่ ณ ตอนวันที่ 20 มีนา

แต่ผมไม่ได้มาจากประเทศเหล่านั้น มาจากประเทศที่ระบาดต่อเนื่อง เลยไม่ได้กรอกมา แต่สุดท้ายก็ต้องกรอกอยู่ดี

เจ้าหน้าที่กับผู้โดยสารก็ ออๆกันอยู่ตรงหน้าด่านตรวจวัดไข้นี่ล่ะครับ ใช้เวลานานมากกว่าจะให้ผู้โดยสารกรอกกันเสร็จ

แต่ผมก็กรอกไวๆ เลยผ่านได้ครับ พอมาด่านตรวจวัดไข้ ผมรู้ตัวแหละ ว่าไม่มีไข้ ที่ด่านเขาถาม คนไทยใช่มั้ยคะ มีไข้มั้ยคะ? ถ้าไม่มีเชิญผ่านได้เลยค่ะ

ผมก็งงๆ เอ๊อะ ตอนแรกก็กะจะให้เขาวัดหน่อยแหละ แต่โอเค ถ้าให้ผ่านได้ผมก็ไม่อะไร ก็ออกไป ตม แบบ งงๆ

ยื่น passport กับในแอพที่กรอก แล้วต้องแคป screen ไว้ โชว์เจ้าหน้าที่ครับ เสร็จปุ้บ ผมก็รับกระเป๋ากลับได้เลย

ผมก็เลยกลับมาอยู่บ้านอย่างเดียวตลอด 14 วัน ลงทะเบียนรับของ CP มา ก็ได้อาหารมาพอสมควร

กับ Sim card สำหรับกักตัวครับ net unlimited 10 MB ใช้งานได้ 30 วันครับ



สุดท้ายผมกลับมากักตัวได้ครบ 14 วัน ก็ไม่มีอาการอะไร เรื่องไอก็ดีขึ้นแล้ว แต่ทางที่บ้านก็ไม่ค่อยสบายใจ หลังได้ยินข่าวเรื่อง ระยะฟักตัวนานขึ้น

หรือเรื่องที่มีข่าวว่า ผู้ติดเชื้ออาจจะไม่แสดงอาการ คือมีเชื้อไวรัสอยู่ในตัว ไม่ป่วย แต่แพร่เชื้อได้

เลยตัดสินใจให้ผมมาเข้าตรวจ drive thru test ที่ รพ วิภาวดีเมื่อวานครับ โดนไปเหนาะๆ 6,500 บาท

แต่เอาเถอะ เพื่อให้ที่บ้านสบายใจ เพราะผมก็กลับมาจากยุโรปที่เริ่มระบาดหนักพอดี



ขับเข้าไปแบบ walk in เลยครับ คนไม่เยอะ เจ้าหน้าที่ก็น่ารักดีครับ สอบถามอาการ เหตุผลที่มาตรวจ และให้คำแนะนำ หากเจอโรคหรือไม่เจอก็ตาม

หากเจอโรคก็ต้อง admit แต่ถ้าหากไม่เจอ ก็ไม่ได้แปลว่าจะปล่อยปละละเลยได้นะ ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสติดในอนาคต ต้องสวม mask

ล้างมือบ่อยๆ ห้ามสัมผัสหน้า พยายามหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

มีเจ้าหน้าที่คนนึง เขาเห็นว่าผมกักตัวครบหลังกลับมา แล้วค่อยมาตรวจ เขาบอก "ขอขอบคุณเลยค่ะ ที่ช่วยกักตัวเอง หลังจากกลับมาจากประเทศเสี่ยง"

ผมก็อึ้งๆไปเลย ต้องถึงขั้นเจ้าหน้าที่ขอขอบคุณเลยหรอ

ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาแค่ประมาณ 15 นาทีครับ เร็วมาก แค่แยงจมูก 2 ข้าง (เสียวซ่านน้ำตาไหลมากครับอันนี้) และในคอเสร็จ

แปปเดียวกลับได้เลย รอผลทาง SMS ภายใน 1-3 วัน หรือหากติดเชื้อจะมีเจ้าหน้าที่โทรมาให้คำแนะนำเพื่อเข้า admit

พอมาวันนี้ ลุ้นรอผลเลยครับ 24 ชม ประมานช่วง 10 โมง SMS มา ผมก็รีบเปิดโทรศัพท์ดูเลย



เอ๊ะ ทำไมมันมีประกัน covid-19 มาวะ เราก็ไม่เคยไปทำนี่หว่า

เห้ย หรือมันเป็น package เดียวกันกับที่ไปตรวจมาหว่า ตายห่าล่ะ ใจไม่ค่อยดีละ หรือเราจะมีเชื้อ ประกันถึงส่งมา เพื่อให้ใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล

สุดท้าย โทรไปหา เทเวศครับ จนสุดท้ายได้เรื่องคือ คนอื่นที่สมัคร ใส่เบอร์ผิด พลาดมาใส่เบอร์ผม

แม่งเอ้ย ใจหายใจคว่ำหมด กำลังลุ้นๆผลอยู่แท้ๆ

สุดท้ายช่วงเที่ยงๆ ผลจาก รพ ก็มาครับ



โล่งอกเป็นปลิดทิ้งครับ เลยได้กลับไปอยู่กับครอบครัวได้แบบสบายใจสักที

จากช่วงที่ผ่านมา อ่านข่าวทุกวัน ก็ถามตัวเอง กูติดยังวะ

รอดแล้วครับ ดูแลรักษาตัวเองต่อไปนะครับบบ

ดีใจด้วยครับ

ดีใจด้วยครับ แล้วขอชื่นชมครับที่กักตัวเองเป็นอย่างดี
ถ้าคนมาจาก ตปท เค้าให้ความร่วมมือแบบท่านทุกคนก็ดีสิ่นะ

นับถือ รับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบสังคม

ขอรูปอาหมวยจีนที่นั่งข้างด้วยครับ

ยินดีด้วยครับ ขอให้ปลอดภัยนะครับ

ยินดีด้วยครับ

ยินดีด้วยและขอชื่นชมในความอดทนของท่านมาก ๆ ครับ
อยากให้ประเทศไทยมีคนที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมแบบท่านเยอะ ๆ ครับ

ไปตรวจเสียกี่บาทครับ

ขออนุญาตเซนเซอร์รอบข้างครับ เห็นหน้าด้านข้างแค่นิดเดียว ไม่น่าเป็นไรมั้งครับ

บังเอิญถ่ายติดตอนถ่ายบรรยากาศรอบๆเครื่องพอดี

ถ้าย้อนเวลาไปได้ จะ google translate ไปก่อนขึ้นเครื่อง

แล้วบอกนางว่า หนี เหิ่น เขออ้าย (เธอน่ารักอิ๊บอ๋ายเลย)

6500 บาทครับ

แต่หากตรวจพบเชื้อ จะคืนค่าตรวจให้ครับ

แต่เคสนี้อยากจะเสียตังมากกว่า

คือผมเริ่มไม่สบายเหมือนเป็นไข้หวัดอยากไปตรวจ แต่รอดูอาการอยู่

เดาว่าสาเหตุเพราะแฟนไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วเป็นหวัด ผมคิดว่าผมคงติดจากแฟนมา ตอนนี้หลอนไปหมดแล้วครับ อยากไปตรวจเงินก็ไม่พอ จะร้องไห้

ไม่ได้ไปเสี่ยงที่ไหนไปอย่างดีก็ซื้อข้าว เข้าเซเว่นที่เหลือเก็บตัวมาสามอาทิตย์ได้แล้ว

ขอโทษท่านใช่คนที่ตั้งมู้ปรึกษาว่าจะกลับไทยเมื่อช่วงที่อังกฤษระบาดใหม่ๆ แล้วนายกเค้าบอกจะใช้วิธีภูมิคุ้มกันหมู่หรือเปล่าครับ

คนนั้นน่าจะอีกท่านนึงครับ ถ้าจำไม่ผิด ใช้รูป nesta เป็นโปรไฟล์

ผมอ่านกระทู้เขาอยู่เหมือนกันครับ เพราะก็เริ่มมาตัดสินใจช่วงที่บอริสประกาศเรื่อง ภูมิคุ้มกันหมู่พอดี