ลมแรงเล่นยาก...’มาเน่’ ซูเปอร์ซับ ‘หงส์’ เบียด 1-0 นำฝุ่นตลบ 25 แต้ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
นอริช ซิตี้ นึกว่าทีมนี้กำลังคั่วแชมป์หลังเล่นโคตรดีสู้กับ ลิเวอร์พูล สุดมันแต่สุดท้ายเจอทีเด็ด ซาดิโอ มาเน่ ตัวสำรองยิงประตูชัยนาที 78 พา “หงส์แดง” บุกเชือด 1-0 ท่ามกลางลมแรงบอลยาวบอลเปิดเพี้ยนทั้งเกมก่อนทิ้งที่ 2 แบบฝุ่นตลบ 25 แต้มขอชนะอีก 5 นัดแชมป์แน่นวล
นอริช ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
3.
แซม ไบแรม
25'
6
7.
ลูคัส รุปป์
83'
6
27.
อเล็กซานเดอร์ เท็ตเทย์
83'
6.5
ตัวสำรอง
12.
จามาล ลูอิส
25'
6
17.
เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย
83'
6
20.
โจซิป เดอร์มิช
83'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม แคร์โรว์ โร้ด
เสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563
กรรมการ สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์
นอริช ซิตี้
0
1
ลิเวอร์พูล
นอริชอันดับสุดท้ายบนตารางสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดี วันนี้ส่งออนเดรจ ดูด้านักเตะใหม่ลงสนามและให้ตีมู ปุ๊กกี้ยืนค้ำหอกเหมือนเดิม ด้านลิเวอร์พูลได้รับข่าวดีที่ซาดิโอ มาเน่และเจมส์ มิลเนอร์หายเจ็บกลับมาเป็นสำรอง โดยเป็นนาบี เกอิต้าและอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนที่ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง หากพวกเขาชนะจะนำโด่ง 25 คะแนน
OX ลองส่องไกลเบาเกิน
ลิเวอร์พูลครองบอลบุกตั้งแต่เริ่มต้นคราวนี้ซาลาห์พยายามทำชิ่งกับไวจ์นาลดุมก่อนบอลกระฉอกมาเข้าทางของแชมเบอร์เลนยิงไกลทันทีบอลพุ่งเรียดแต่เบาไปหน่อยครูลขยับไปรับเอาไว้สบาย
ฟีโน่จับอย่างงามแต่ไม่ได้ยิง
อาร์โนลด์โยนบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วฟิร์มิโน่เกี่ยวบอลลงอย่างสวยจะกลับมายิงแล้วแต่ยังโดนซิมเมอร์มันน์ตามมาแหย่ขาเตะบอลทิ้งไปนิดเดียว
ไบแรมเดี้ยงอย่างไว
เกมยังตื้อๆ นอริชต้องเปลี่ยนนักเตะคนแรกอย่างไวเมื่อไบแรมเจ็บแฮมสตริงตอนยืดขาเอาบอลเล่นต่อไม่ไหวต้องให้ทางจามาล ลูอิสลงสนามมาเจอกับซาลาห์แทน
เกอิต้ายิงไกลหลุดออกหลัง
หงส์แดง ยังบุกไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ โรเบิร์ตสันโขกสวนกลับมาให้เกอิต้าพักอกลงก่อนยิงด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลตกลงพื้นไม่ได้ลุ้นอะไร
อลิสซอนเซฟ!ชุ๊ปป์หลุดไม่ยิงก็อดยิง
นอริชอดได้ประตูขึ้นนำแบบไม่น่าเชื่อ เป็นการวางยาวของลูอิสจากแดนหลังแล้วชุ๊ปป์หลุดล้ำหน้าไปเกี่ยวบอลติดแล้วจะปล่อยให้ปุ๊กกี้เล่นทว่าอลิสซอนพุ่งไปปัดบอลทิ้งไม่งั้นโดนยิงเหน่งๆแน่นอน
TAA ลองส่องยังออกหลัง
จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุมด้านซ้ายของลิเวอร์พูล อาร์โนลด์เปิดมาสองทีโดนเคลียร์ทิ้งหมดก่อนที่โรเบิร์ตสันจะป้ายบอลมาให้แบ็คดาวรุ่งตัดสินใจส่องไกลทันทีบอลหลุดออกหลังไป
หงส์บ้อท่ายิงไม่ได้จบครึ่งแรก
ท้ายครึ่งแรกลิเวอร์พูลได้เตะมุมกันหลายหนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยทำให้จบเกมคล็อปป์ต้องกลับไปแก้เกมลงมาเจาะเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ได้มากกว่านี้
แคนท์เวลล์ยัดเสาแรกเข้าหน้าต่าง
นอริชทำชิ่งต่อบอลกันได้สวยเลยแล้วสุดท้ายเป็นชุ๊ปป์ที่จ่ายไปให้แคนท์เวลล์ลากเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแต่มุมแคบแล้วยิงยัดไปเข้าหน้าต่าง
เกอิต้าซัดไกลครูลปัดข้ามคาน
ลิเวอร์พูลต่อบอลกันอยู่นานแชมเบอร์เลนไหลเข้ากลางให้ซาลาห์จับได้แต่พลิกไม่ได้เลยต่อมาถึงเกอิต้าวิ่งเข้ามาตะบันด้วยขวาเต็มๆนอกกรอบเขตโทษทว่าครูลยังปัดข้ามคานได้ทัน
ครูลเซฟเบิ้ล!ซาลาห์, เกอิต้ากดไม่เข้า
ไม่น่าเชื่อว่าหงส์แดงไม่ได้ประตูขึ้นนำซาลาห์จับบอลลงก่อนพลิกอย่างสวยแล้วดีดด้วยขวาครูลล้มตัวปัดแล้วบอลมาตั้งให้เกอิต้าซ้ำจ่อๆในกรอบหกหลาทว่าครูลก็ยังตามมาเซฟเอาไว้อีก
ซาลาห์โฉบยิงติดบล็อค
เร่งเครื่องมาอีกหนสำหรับทีมเยือนมาเน่กระชากมาก่อนไหลให้โรเบิร์ตสันควบไปเปิดบอลจากด้านซ้ายมาถึงซาลาห์พุ่งเข้ายิงจังหวะเดียวก็ไปติดบล็อคของฮานลี่ย์จังหวะต่อมาไม่มีอะไรให้ลุ้น
เท็ตเตย์หลอกยิงชนเสาเต็ม
อลิสซอนเกือบเสียท่า นอริชสวนกลับขึ้นมาบอลมาถึงเท็ตเทย์ที่ปล่อยบอลแล้วเหมือนจะยิงไม่ได้แต่ตวัดซัดด้วยขวาจากนอกกรอบบอลพุ่งไปชนโคนเสาแรกอย่างจัง
หล่อฝุดๆ!มาเน่กลับตัวยิงยัดเสาแรก 1-0
หงส์แดงส่งบอลไปตุงตาข่ายจากจังหวะที่เฮนเดอร์สันยกบอลจากกลางสนามให้มาเน่เกี่ยวบอลด้วยขวาแล้วหมุนตัวมายิงบอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไปหมดจด แต่กรรมการขอดู VAR เช็คว่าฟาวล์หรือไม่ก่อนให้เป็นประตู 1-0!!!
ฟีโน่ชาร์จน่าผิดหวัง
ลิเวอร์พูลยังปิดเกมไม่ได้ อาร์โนลด์เปิดบอลเรียดนอกกรอบเขตโทษด้านขวาบอลพุ่งแรงไปทางเสาไกลฟิร์มิโน่พยายามพุ่งเข้าชาร์จบอลออกหลังไปเลย
ปุ๊กกี้ตะบันเต็มเข้าซองอลิสซอน
นอริชได้ลุ้นประตูตีเสมอเลยเมื่อได้จังหวะสวนกลับเร็วแล้วบอลมาเข้าทางของปุ๊กกี้ควบหนีโกเมซก่อนยิงด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งไปเข้าซองของอลิสซอน
หงส์นับถอยหลังขอชนะอีก 5
จบเกมลิเวอร์พูลเอาตัวรอดเบียดชนะนอริช ซิตี้หวุดหวิด 1-0 โดยมาได้ประตูชัยจากมาเน่ตัวสำรองพร้อมขยับหนีอันดับ 2 ถึง 25 แต้มและต้องการชัยชนะอีก 5 นัดเท่านั้น
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
7
5.
จอร์จินิโอ้ ไวจ์นาลดุม
60'
6
8.
นาบี เกอิต้า
84'
7
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
60'
6
ตัวสำรอง
3.
ฟาบินโญ่
60'
6
7.
เจมส์ มิลเนอร์
84'
6
10.
ซาดิโอ มาเน่
60'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Feb 16, 2020 06:27, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ