Roberto Carlos แบ็กซ้ายในตำนาน
Roberto Carlos แบ็กซ้ายในตำนาน!!!
ประวัติ Roberto Carlos
ทีมชาติ : บราซิล
วันเกิด : 10 เมษายน ค.ศ. 1973
สูง : 168 เซนติเมตร
หนัก : 70 กิโลกรัม
ตำแหน่ง : กองหลัง
จุดเด่น : ความแข็งแกร่ง,ความเร็ว,ทักษะที่ดีเยี่ยมและพลังเตะอันมหาศาล
สโมสร : เรอัล มาดดริด 370 นัด 47 ประตู (1996 - 2007)
เล่นระดับสโมสรทั้งหมด 575 นัด 65 ประตู (ปัจจุบันแขวนสตั๊ตแล้วเมื่อ ปี 2015 )
ติดทีมชาติ : 125 นัด ยิงประตูในทีมชาติ : 11 ลูก
เกียรติประวัติกับทีมชาติ
- แชมป์ฟุตบอลโลก (2002)
- แชมป์โคปา อเมริกัน (1997, 1999)
- แชมป์คอนเฟเดอร์เรชั่น คัพ (1997)
เกียรติประวัติกับสโมสร
ชนะเลิศ
- ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยน ลีก (1998, 2000, 2002)
- สเปนนิช แชมเปี้ยน ชิพ (1997, 2001, 2003, 2007)
- ยูโรเปี้ยน ซุปเปอร์ คัพ (2002)
- อินเตอร์คอนติเน็นทอล คัพ (1998, 2002)
- เซา เปาโร แชมเปี้ยน ชิพ (1993, 1994)
- ริโอ แอนด์ เซา เปาโร สเตท แชมเปี้ยน ชิพ (1993)
- บราซิลเลียน แชมเปี้ยน ชิพ (1993, 1994)
- สเปนนิช ซุปเปอร์ คัพ (2003)
- ตุรกีส ซุปเปอร์ คัพ (2007)
เกียรติประวัติส่วนตัว
- Bola de Prata (3): 1993, 1994, 2010
- FIFA World Player of the Year: 1997 (Silver Award)
- ESM Team of the Year (7): 1996–97, 1997–98, 1999–00, 2000–01, 2001–02, 2002–03, 2003–04
- FIFA World Cup All-Star Team (2): 1998, 2002
- Trofeo EFE: 1997–98
- UEFA Club Defender of the Year (2): 2002, 2003
- UEFA Team of the Year (2): 2002, 2003
- Ballon d'Or: 2002 (Runner-up)
- Golden Foot: 2008
- Sports Illustrated Team of the Decade: 2009[95]
- ESPN World Team of the Decade: 2009[96]
- Campeonato Brasileiro Série A Team of the Year: 2010[97]
- Brazilian Football Museum Hall of Fame
ประวัติ
Roberto Carlos จัดได้ว่าเป็นแบ็กซ้ายที่ตัวเล็กมาก หากเทียบกับนักเตะคนอื่น ทว่าเขากลับมีลูกยิงฟรีคิกที่ทรงพลังอยางมากซึ่งเป็นฝันร้ายของนายทวารทั้งหลายที่เคยเห็นและเคยสัมผัสลูกยิงของเขามาแล้ว และหากสังเกตุดูที่ขาของเขาให้ดีๆก็จะหายสงสัยทันทีว่าพละกำลังอันมากมายของเขานั้นมาจากไหน

ประวัติโรแบร์โต คาร์ลอส
Roberto Carlos ผู้ซึ่งเป็นนักฟุตบอล ที่มีช่วงเวลาที่สุดยอดระหว่างปี 1997-2003 เมื่อเขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับ เรอัล มาดริด ต้นสังกัดของเขา และยังช่วยให้ บราซิล ทีมบ้านเกิดของเขา ประสบความยิ่งใหญ่ ระดับโลก อีกด้วย
เขาเกือบจะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างทุกวันนี้ เมื่อครอบครัวของเขาทำงานอยู่ในโรงงานเสื้อผ้า และเขาก็ต้องเข้าไปทำด้วย ตั้งแต่อายุ 12 ปี ทว่าความฝันของเขาคือการเล่นฟุตบอล
และเมื่อายุ 17 ปี เขาจึงตัดสินใจ ไปทดสอบฝีเท้ากับทีม ยูนิเอา เซา เจา ดี อราราส ทีมลูกหนังท้องถิ่น และนี่ที่ก็ช่วยสร้างให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ก่อนที่เขาจะได้ไปเซ็นสัญญากับ พัลไมรัส ทีมยักษ์ใหญ่ ในปี 1990

ใน ปี 1995 Roberto Carlos เกือบได้ย้ายไปค้าแข้งกับ เซา เปาโล ทว่าด้วยความเก่งกาจของเขา ทำให้ อินเตอร์ มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลี ทุ่มเงินซื้อเขาไปร่วมทัพ
เขาย้ายไปเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอล ทว่าเขากลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก เนื่องจากการเป็นโรคคิดถึงบ้าน อีกทั้ง เขายังได้เล่นในตำแหน่งที่เขาไม่ถนัด เขาจึงขอย้ายทีม จนกระทั่ง เรอัล มาดริด ได้ติดต่อดึงตัวเขาไปร่วมทีม และนี่คือการซื้อที่คุ้มค่าที่สุดในรอบหลายสิบปี ของ รีลมาดริด เลยก็ว่าได้

ด้วยรูปร่างที่แตกต่างจากนักเตะคนอื่น เขามีท่อนขาที่แข็งแกร่งดุจท่อนไม้ มีรูปร่างที่เตี้ย สั้น แถมยังหัวโล้น ทว่าสิ่งเหล่านั้น ไม่สามารถบดบังความเก่งกาจของเขาได้เลย เพราะเขาคือแบ็กซ้ายที่ทรงพลังที่สุด เขาสกัดแบบหนักหน่วง มีลูกยิงไกล และลูกฟรีคิก ที่จัดอยู่ในระดับขั้นเทพ ทำให้เขาโดดเด่นที่สุดในตำแหน่งแบ็กซ้ายของโลก
ลูกยิงของเขาเคยถูก บันทึกไว้ว่ามีความเร็วและแรง ถึง 120-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลยทีเดียว ซึ่งน้อยนักเตะนักที่จะทำได้ใกล้เคียงลูกยิงของเขา
ในปี 1997 คาร์ลอส ก็สามารถคว้าแชมป์ลีกสเปน เป็นครั้งแรกกับ เรอัล มาดริด ได้สำเร็จ แถมในปีเดียวกัน เขายังคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา เท่านั้นไม่พอ ในเดือนธันวาคม เขาและทีมชาติบราซิล ยังผงาดซิวแชมป์คอนเฟเดอร์เรชั่น คัพ อีกต่างหาก
ในซีซั่นถัดมา คาร์ลอส ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ เรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเฉือนเอาชนะ ยูเวนตุส 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ก่อนที่เขาจะเดินทาไปร่วมกับทีมชาติบราซิล เพื่อไปลุยศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส
ทีมชาติบราซิล ที่มี โรนัลโด้ ดาวเตะซูปเปอร์สตาร์ของ บาร์เซโลนา เป็นทีมเต็ง 1 ในการแข่งขันครั้งนี้ และ ทีมชาติบราซิล ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง จนทะยานเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ เพื่อป้องกันแชมป์
คาร์ลอส ได้รับเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ทว่าเขาคงไม่ค่อยดีใจนัก เมื่อ ทีมชาติบราซิล ที่ปราศจาก โรนัลโด้ ในรอบชิงชนะเลิศ ต้องพ่ายให้กับ ฝรั่งเศส ไปแบบหมดสภาพ 0-3 ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น
คาร์ลอส กลับมาเยือนสนาม สต๊าด เดอ ฟร้องค์ อีกครั้ง ในปี 2000 หลังจากต้องอกหักในศึกฟุตบอลโลก ครั้งนั้น เขา และ เรอัล มาดริด ต้องมาดวลกับ บาเลนเซีย ในรอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเขาก็พาทีมคว้าแชมป์ จากที่นี่ ได้สำเร็จ
ในปี 2001 คาร์ลอส ได้มีโอกาสร่วมงานกับซูปเปอร์สตาร์ของโลก อย่าง ซีเนดีน ซีดาน ที่ย้ายมาร่วมทัพ เขามาผนึกกำลัง กับ หลุยส์ ฟิโก้ และ ราอูล กอนซาเลซ ช่วยให้ทีม ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกครั้ง ในปี 2002 หลังเฉือนเอาชนะ เลเวอร์คูเซ่น 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ
ในปีเดียวกัน คาร์ลอส ก็ประสบความสำเร็จกับ ทีมชาติบราซิล อีกครั้ง เมื่อ สามารถเอาชนะ เยอรมัน ในรอบชิงชนะเลิศ 2-0 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกแบบยิ่งใหญ่


หลังจากนั้น Roberto Carlos ก็ได้รับการเลือกให้เป็น รองนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก
นอกจากนี้ คาร์ลอส ยังช่วยให้ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ได้อีกครั้ง ในปี 2003 ขณะที่ในศึกฟุตบอลโลก 2006 เขาและทีมชาติบราซิล ไปได้ไกลสุดแค่รอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น และต่อมาในปี 2007 เขาก็ได้โบกมือ เรอัล มาดริด ด้วยการคว้าแชมป์ ลีก สเปน เป็นการส่งท้าย เพื่อย้ายไปร่วมทัพ เฟเนร์บาห์เช่ ในลีกตุรกี และเขาก็ได้ประกาศเลิกเล่นให้ทีมชาติ หลังลงเล่นไปถึง 125 นัด
เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้ ของ โรแบร์โต คาร์ลอส
ฉายาของ โรแบร์โต คาร์ลอส

การที่นักเตะระดับโลกสักคนจะมี “ฉายา” แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใคร ๆ เขาก็มีกัน แต่เชื่อไหมว่าแทบไม่มีใครรู้เลยว่า ฉายาของ คาร์ลอส นั้นคืออะไร ?
เอาจริง ๆ ฉายาในภาษาไทยอย่างเป็นทางการของเขานั้นก็ไม่เคยมีใครตั้งไว้ให้เรียกเลยด้วยซ้ำ “แบ็คซ้ายตีนระเบิด” หรือก็ไม่น่าใช่ “แบ็คซ้ายมหาประลัย” หรือก็ไม่น่าใช่ เพราะแม้แต่คอวินนิ่งยังเรียกว่า คาร์ลอส กันเฉย ๆ เลย
ทีนี้เรามาพูดถึงฉายาของเขาที่สื่อในประเทศบราซิลตั้งให้จริง ๆ กันเลยดีกว่า ซึ่งนั่นก็คือ “El Hombre Bala” เอล ฮอมเบร บาลา หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “ไอ้มนุษย์กระสุน” โดยมีที่มาจากความเร็วในการวิ่งระดับสปีด 9 และพลังในการเตะอันหนักหน่วง ที่ซัลโวแต่ละทียังกับยิงปืนใส่คู่ต่อสู้นั่นแหละ
คู่แข่งที่เก่งสุด

แบ็คซ้ายอย่าง คาร์ลอส นั้นจะต้องรับมือกับคู่แข่งที่เก่งกาจมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะในยุคของเขานั้นมีปีกขวาเทพ ๆ อยู่เยอะ แต่ใครคือคนที่ถูกยอมรับว่าสู้ด้วยยากสุดในชีวิต ?
“ขอเฉลยแบบไม่ต้องคิดมากเลยว่าเป็น หลุยส์ ฟิโก้ สมัยเขาอยู่ บาร์เซโลนา คือแบบว่าเก่งมาก เอาอยู่บ้าง-ไม่อยู่บ้าง พอเขาย้ายมา มาดริด ก็นึกว่าจะสบายแล้วนะ แต่กลับต้องมาโดนเล่นงานในสนามซ้อมอีก บ่องตง เซ็งเวอร์ !” คาร์ลอส กล่าว
ไอดอล ในดวงใจ

ในสมัยที่ คาร์ลอส ยังเป็นเด็กอยู่นั้น หากจะให้นึกชื่อแบ็คซ้ายระดับตำนานที่รุ่นใหญ่พอจะเป็นไอดอลให้เขานั้นคงนึกแทบไม่ออก แต่ถึงกระนั้น พอเจ้าตัวเฉลยชื่อของขวัญใจในสมัยก่อนออกมาแล้วก็ต้องบอกว่า เซอร์ไพร์สเล็ก ๆ
“มาราโดนา คือไอดอลของผม ซึ่งแน่นอนทุกคนคิดว่าผมจะตอบชื่อ เปเล่ เพราะเขาคือตำนานชาวบราซิล” คาร์ลอส เกริ่น
“อย่างไรก็ตาม ผมเกิดไม่ทันดู เปเล ฉะนั้นตอนเด็ก ๆ จึงไม่ได้มีความประทับใจอะไรเป็นพิเศษ แต่กับ มาราโดนา เราเติบโตมากับเขา ฉะนั้นนี่คือเบอร์ 1 ในใจตลอดกาล ใครจะบอกว่า เห้ย เขาเป็นคน อาร์เจนไตน์ นะ ก็แล้วไงล่ะ ผมชอบอ่ะ คุณมีปัญหาหรือเปล่าล่ะ !?”
พูดถึง ฟรีคิก บันลือโลก

ในเกมอุ่นเครื่องระหว่าง บราซิล กับ ฝรั่งเศส เมื่อปี 1997 โรแบร์โต คาร์ลอส ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการยิงฟรีคิกระยะไกลด้วยหลังเท้าซ้ายส่งบอลโค้งอ้อมกำแพง เช็ดเสาเข้าไปเสียบตาข่ายอย่างไม่มีใครอยากเชื่อ และวันนี้เขามาเฉลยแล้วว่า นี่คือเรื่องบังเอิญหรือว่าตั้งใจ !
“สารภาพนะ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเข้าได้ไง เพราะลูกนี้ผมอัดเต็มหลังเท้าและวิถีบอลก็ไม่ได้ตรงกรอบอะไรเลย แต่แล้วจู่ ๆ มันก็เลี้ยวเข้าเสียบตาข่ายไปแบบสุดงง”
คาร์ลอส กล่าว
“ใช่เลย ผมเองยังไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นประตู เพราะนี่คือเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ และมันคือทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีวันเกิดขึ้นอีกชัวร์
ผมคอนเฟิร์ม ฮ่าๆๆๆๆ”
เปิดดูคลิปจากเว็บเฟสบุค
ถ้ารางวัลปุสกัส อวอด เริ่มจัดก่อน ช่วง คาร์ลอส
กำลังเล่นฟุตบอล ผมว่าลูกยิงของพี่แกติด แคนดิเดต ทุกปี
ดูพี่แกยิงแล้วมัน จริงๆ
ถ้าพูดคำว่า "แบ็คซ้าย" ขึ้นมาเฉยๆ ผมคิดถึงคนนนี้ก่อนเลย โรแบร์โต้ คาร์ลอส
โฆษณาแป๊บซี่ เมื่อก่อน
เด็กน้อย : ตะลึง!!! แล้วพูดว่า โรแบร์โต้ คาร์ลอสสสส
โรแบร์โต้ คาร์ลอส : ผมยิงเอง
เด็กน้อยอีกคน : ขาสั่น
ผมรู้จัก คาร์ลอส จากคลิปนี้ (พยายามหาแล้ว แต่หาไม่เจอ)
ข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Roberto_Carlos
https://footyhero.net/2018/05/31/8-stories-roberto-carlos/
http://scoretheball.blogspot.com/2011/04/roberto-carlos.html