1.ไม่เข้าใจหลักฮวงจุ้ยครับ ว่าเป็นกุศโลบายของคนรุ่นก่อนในการทำให้บ้านอยู่อย่างสงบสุขหรือเป็นความเชื่อที่งมงาย
สงสัยว่า ตามหลักฮวงจุ้ยที่สืบทอดกันมามีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์มากแค่ไหนครับ
เช่น ห้ามตั้งกระจกปลายเตียง เพราะ??
ห้ามหันเตียงนอนไปทางทิศตะวันตก?? และอื่นๆอีกมากมาย

ใครพอจะรู้เหตุผลมาช่วยอธิบายทีครับ มีอีกหลายข้อที่ผมยังนึกไม่ออก แต่เวลาได้ยินก็จะงงๆทุกครั้งว่าทำไม

2.ฮวงจุ้ยที่ดีทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างเป็นนัยสำคัญไหมครับ มีท่านไหนดวงแย่ๆ พอปรับฮวงจุ้ยแล้วชีวิตดีขึ้นมาบ้างครับ หรือใครรู้ว่าตัวเองฮวงจุ้ยแย่แต่ชีวิตดีมีความสุข มาเล่าให้ฟังกันหน่อยครับ

3.ฝรั่งชาวตะวันตกมีความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยไหมครับ บริษัทชั้นนำต่างชาติที่ประสบความสำเร็จ เวลาตั้งสำนักงานต้องดูฮวงจุ้ยไหมครับ

อยากถกกันด้วยเหตุผลแบบวิทยาศาสตร์นะครับ พอดีมีปัญหากับคนในครอบครัว
ตัวผมเองเลือกที่ๆสะดวกสบายเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของตัวเรามากกว่าฮวงจุ้ยที่เชื่อกันมาเลยค่อนข้างงงๆกับเหตุผลนิดนึง

ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เชื่อ (แบบฝังหัว) ว่าทิศตะวันตกไม่ดีห้ามนอน เมื่อไปลองนอนดูก็เกิดอาการทันที ซึ่งสันนิฐานว่า น่าจะเกิดจากภาวะอุปทานมากกว่า ผมเองลองค้นหาข้อมูลในเรื่องนี้ โดยหาตำราเก่าๆ ที่เกี่ยวกับความเชื่อของไทย ก็พบว่า มีพูดเอาไว้เหมือนกันเกี่ยวกับทิศตะวันตกที่ห้ามเอาหัวนอนหันไป แต่ตำราไม่มีคำอธิบายว่าเพราะอะไร

จนมาวันหนึ่งผมลองทดสอบกับตัวเอง ลองเอาหัวนอนหันไปทางทิศตะวันตก จะดูว่ามีผลเสียอย่างไร ปรากฏว่าพอตื่นนอนขึ้นมาผมก็ทราบคำถามทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเป็นสัปดาห์ จะไม่ให้ทราบได้อย่างไรล่ะครับ แค่ผมลืมตาก็ต้องรีบหลับตาทันที เพราะถ้าขืนไม่หลับตาก็มีหวังตาคงจะบอดแน่ๆ เพราะแสงพระอาทิตย์สาดเข้าเต็มหน้า ผมถึงบางอ้อ..ในบัดนั้น ตอนเช้าใครๆ ก็รู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก การนอนเอาหัวไปทางทิศตะวันตก ก็เท่ากับหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

อย่างที่พูดถึงเรื่องของบันได ที่ห้ามหันบันไดขึ้นทางทิศตะวันตก ก็คงมาจากผลกระทบของแสงอาทิตย์ นั่นเอง บันไดเป็นจุดอันตรายที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ถ้าคนเดินขึ้นบันไดแล้วมีแสงอาทิตย์มาแทงตา โอกาสที่จะเหยียบบันไดพลาดก็มีมาก คนโบราณจึงกล่าวห้ามเอาไว้ว่า อย่าสร้างบันไดหันขึ้นทางทิศตะวันตก ทิศตะวันตก กลายเป็นเจ้าตัวร้ายก็เพราะผลกระทบจากแสงแดด นี่เอง

ลองถามซินเเสที่เเนะนำ BG เปลี่ยนสีเสื้อเป็นสีน้ำเงินดูครับว่าฮวงจุ้ยช่วยได้มั๊ย

มันมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ครับ

มันทำให้บ้านเราน่าอยู่ พักผ่อนสบาย

สงสัยอะไรถามลุงเค้าได้ครับ

ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เชื่อ (แบบฝังหัว) ว่าทิศตะวันตกไม่ดีห้ามนอน เมื่อไปลองนอนดูก็เกิดอาการทันที ซึ่งสันนิฐานว่า น่าจะเกิดจากภาวะอุปทานมากกว่า ผมเองลองค้นหาข้อมูลในเรื่องนี้ โดยหาตำราเก่าๆ ที่เกี่ยวกับความเชื่อของไทย ก็พบว่า มีพูดเอาไว้เหมือนกันเกี่ยวกับทิศตะวันตกที่ห้ามเอาหัวนอนหันไป แต่ตำราไม่มีคำอธิบายว่าเพราะอะไร

จนมาวันหนึ่งผมลองทดสอบกับตัวเอง ลองเอาหัวนอนหันไปทางทิศตะวันตก จะดูว่ามีผลเสียอย่างไร ปรากฏว่าพอตื่นนอนขึ้นมาผมก็ทราบคำถามทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเป็นสัปดาห์ จะไม่ให้ทราบได้อย่างไรล่ะครับ แค่ผมลืมตาก็ต้องรีบหลับตาทันที เพราะถ้าขืนไม่หลับตาก็มีหวังตาคงจะบอดแน่ๆ เพราะแสงพระอาทิตย์สาดเข้าเต็มหน้า ผมถึงบางอ้อ..ในบัดนั้น ตอนเช้าใครๆ ก็รู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก การนอนเอาหัวไปทางทิศตะวันตก ก็เท่ากับหันหน้าไปทางทิศตะวันออก

อย่างที่พูดถึงเรื่องของบันได ที่ห้ามหันบันไดขึ้นทางทิศตะวันตก ก็คงมาจากผลกระทบของแสงอาทิตย์ นั่นเอง บันไดเป็นจุดอันตรายที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ถ้าคนเดินขึ้นบันไดแล้วมีแสงอาทิตย์มาแทงตา โอกาสที่จะเหยียบบันไดพลาดก็มีมาก คนโบราณจึงกล่าวห้ามเอาไว้ว่า อย่าสร้างบันไดหันขึ้นทางทิศตะวันตก ทิศตะวันตก กลายเป็นเจ้าตัวร้ายก็เพราะผลกระทบจากแสงแดด นี่เอง

1. บางส่วนสมเหตุสมผลที่จะทำอะคับเช่
ห้องทำงานต้องสะอาด ไฟสว่าง ไม่มีไรบังหน้าร้าน ทำเลที่ดีเหนชัดไรงี้ โต้ะทำงาน+เก้าอี้ทำงานต้องให้ใหญ่ คนมาติดต่อต้องเล้กกว่า เพื่อให้ดูภุมิฐาน

แต่ที่แปลกคือไฟต้องแปดดวง บางที่โต้ะเจ้าของหันหลังให้ประตูเข้า บางที่หันข้างให้ประตู แบบนี้ผมก้ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ

เล่นทายดักครึ่งหนึ่ง หกจากสิบสองงี้ ต่างอะไรกับโยนหัวก้อยหละ

คุณหมอวรพัฒน์ ได้เปิดคลินิคมั้ยครับ ตอนทำคลินิคได้ใช้หลักฮวงจุยด้วยป่าว
เค้าเตอร์จ่ายยาอยู่ฝั่งนั้น ห้องตรวจอยู่ตรงนี้ ไรประมาณนี้ มันช่วยให้เรารักษาคนได้ดีขึ้นมั้ยครับ

หลักวิทยาศาสตร์มันก็มาจากการทดลองการพิสูจน์ ผมว่าฮวงจุ้ยนี้เขาก็มีตำรามีการพิสูจน์จดบันทึกกันมาผมคิดว่ามันก็น่าจะมีความเป็นวิทยาศาสตร์อยู่พอสมควรนะครับ เพียงแต่มันอาจจะไม่ทีเทคโลยีหรือข้อมูลคำศัพท์หรืออะไรที่อธิบายได้แบบปัจจุบันเท่านั้นเองนะครับ ผมว่าถ้าไม่ลำบากก็ลองทำตามก่อนไม่เวิร์คก็เปลี่ยน ถ้าเขางมงายเราก็คุยกับเขาแบบวิทยาศาสตร์ คือการลองทำแบบที่เขาเชื่อๆแล้วก็แสดงหรือพิสูจน์ให้เห็นว่าเห้ยมันไม่ดีหรือดียังไง


จริงแล้ววิทยาศาสตร์ก็เป็นความเชื่อนะครับเราก็ไม่รู้ทั้งหมดอธิบายไม่ได้ แต่เป็นการเชื่อแบบที่มีเหตุและผลมีหลักการมีสถิติข้อมูลและทฤษฏีที่ส่งต่อกันมา

ส่วนตัวไม่เชื่อเลยครับ ลุงๆป้าๆผมเคยจะเอาพวกนี้มาจัดการด้วยนะ ผมไล่กลับไปหมด บอกเปลืองตังค่าเฟอร์นิเจอร์ผม จ่ายทำไมเป็นหมื่น การันตีผลงานไหมว่ารายได้จะได้เท่านี้จริง เงียบกริบไม่มาสักคน ทุกวันนี้ในใจนี่แทบจะเป็นคนไร้ศาสนาไปแล้วครับ เชื่อตามแค่เหตุและผล เข้าไปไหว้พระ ไหว้เจ้าเพื่อซื้อสถานะสังคมกับให้ครอบครัวสบายใจเท่านั้นละครับ มุมมองผมต่อเรื่องพวกนี้พอๆกับการที่คนเรากลัวผี คือ เค้าบอกให้กลัว ก็กลัวสิ เค้าบอกให้เชื่อ ก็เชื่อเถอะ มันตรรกกะประหลาดไงไม่รู้แต่ผมก็ยืนในจุดของผมนะ ถ้าไม่มากระทบงานหรือชีวิตผมผมก็ขี้เกียจเอาตัวไปยุ่ง

ผมเชื่อว่าการกระทำจะเป็นตัวกำหนดชีวิตมากกว่า

จริงๆฮวงจุ้ยคือวิทยาศาสตร์นะครับ
ส่วนตัวผมไม่เชื่อสิ่งงาย
แต่พอเอาตำรามาดู แล้วหาเหตุผลมาประกอบ
มันก็เปรียบเหมือนตำราสถาปัตยกรรมศาสตร์ย่อมๆ
ของทางฝั่งเอเชียได้เลยนะ
เพียงแต่การอธิบายความอาจจะใช้ชื่อเรียกต่างกัน

แต่เท่าที่ดูมา บ้านเราจะเน้นไปทางความเชื่อมากกว่า
ซินแสที่เห็นก็ไม่ได้มีความเข้าใจในศาสตร์ทางฮวงจุ้ยจริงๆ มีแค่ความรู้
เน้นอาศัยว่าตำราบอกมา ต้องเชื่อแบบนี้ถ้าทำแบบนี้แล้วจะดีอะไรแบบนี้มากกว่า

ถ้าศึกษาดูจริงๆแล้ว
ฮวงจุ้ยจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติเป็นหลัก
ทั้งเรื่องธาตุทั้งหลาย ดิน ฟ้า น้ำ อากาศ ทิศทาง
และพฤติกรรมตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต

อย่างเรื่องการเลือกทำเลในการประกอบธุรกิจ
ก็เป็นเรื่องพฤติกรรมมนุษย์ล้วนๆ
ว่าปกติมนุษย์มีพฤติกรรมแบบไหน
แล้วเอามาเลือกทำเลที่เหมาะกับธุรกิจ

การวางทิศของประตูหน้าต่าง
ก็เป็นเรื่องของการไหลเข้าออกของอากาศ
ดูทิศทางลม ทิศทางที่แสงจะตกกระทบ

แต่เราจะไปโฟกัสตรงเรื่องโชคลาภเป็นหลัก
ซึ่งก็ตามธรรมดาของมนุษย์ขี้เหม็น
ทุกคนล้วนมีความโลภ จะมากจะน้อยแตกต่างกันไป
เลยกลายเป็นว่าฮวงจุ้ยกลายเป็นเรื่องนี้ไปซะงั้น
ทั้งที่เอาจริงๆมันไม่ได้เป็นส่วนหลักในการวางฮวงจุ้ยเลย

เคยอ่านผ่านๆผมว่าเป็นวิทยาศาสตร์นะ แต่เป็นวิทย์เชิงพาณิชย์ ลูกค้าที่จ้างก็อยากได้สรรพคุณเวอร์ๆ คนรับวางก็เลยต้องโฆษณาเวอร์ๆ เหมือนพวกโฆษณาเครื่องดื่มคอลาเจน ก็มีจริงๆแต่มี 0.01 อะไรแบบนี้

ฮวงจุ้ย จริงๆรากฐานมันคือ การทำให้คนอยู่ อาศัยได้อย่างสบายนะ ไมไ่ด้แบบเลิศเลอเกินปรากฏการธรรมชาติ คล้ายสุดก็ วิทยาการก่อสร้าง ศิลปศาสตร์ จิตวิทยา สถาปัตยกรรม

ฮวง หรือ เฟิง แปลว่า ลม / จุ้ย หรือ สุ่ย แปลว่า น้ำ

แต่ถ้ามาแนว ทำอะไรแล้วจะรวยกว่าคนอื่น อะไรทำนองนั้นนี่ เลิกฟังได้เลย คนที่ทำตามคือคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองมากๆ เท่านั้น

ผมเคยเจอนะ แบบให้แก้บันไดเป็น 7 ขั้น สวรรค์ ชั้นเจ็ด อะไรนั่นน่ะ ตอนออกแบบเคยโดนอยู่

เขาอิงหลัก วิทยาศาสตร์จ้าา

เช่นทำไม เคาท์เตอร์เซเว่น ถึงอยู่ฝั่งขวา เช้ล ต่างๆทำไมถึงอยู่ตรงนั้นตรงนี้

เพราะเขาอิงจากพฤติกรรม มนุษย์ล้วนๆ