หนังขึ้นหิ้งสำหรับผมดูเกิน 10 รอบละ สุดยอดไอเดียเลยยอมใจโนแลนจริงๆ.......

ความบังเอิญครับ

รูหนอนกับหลุมดำเป็นคนละอย่างกันครับ
ให้นึกภาพว่ากาลอวกาศที่เราอยู่กันในปัจจุบัน (โลกสามมิติของเรานี่แหละ) เป็นแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งครับ
การที่เราจะเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เราต้องลากเส้นไปตามแผ่นกระดาษ ซึ่งมันก็ต้องกินระยะทาง กินเวลายาวนานกว่าจะไปถึง
ถ้าเราอยากสร้างทางลัด ไปให้เร็วๆ ก็มีอยู่ทางเดียว คือต้องพับกระดาษ เอาจุดเริ่มกับปลายทางมาทบกัน บรรจบกัน แล้วก็เอาดินสอเจาะรูแทงทะลุไป เราก็จะได้รูที่ทะลุจากต้นทางไปปลายทางได้ นั่นแหละคือรูหนอนครับ
ซึ่งเรายังไม่มีหนทางสร้างขึ้นจริงได้ เนื่องจากยังไม่มีวิธีไหนที่จะบิดกาลอวกาศให้มาบรรจบกันแบบนั้นได้

ส่วนการเดินทางผ่านรูหนอน เนื่องจากมันต้องทะลุรูของกาลอวกาศ (รูกระดาษ) ดังนั้น ระหว่างเดินทางผ่านรูหนอน จะเท่ากับว่าหลุดออกไปจากโลกสามมิติของเราแล้วครับ ไปอยู่ใน bulk ที่สูงกว่ามิติของเรา ซึ่งในมิตินั้นจะไม่มีอดีต ไม่มีปัจจุบัน ไม่มีอนาคตแล้วครับ เพราะเวลาจะไม่ได้เดินไปข้างหน้า แต่จะเป็นเหมือนความกว้าง ความยาวทั่วๆ ไป (แบบเดียวกับที่เราเห็นพระเอกส่องดูตอนอยู่ในเทสเซอแรกต์ ภายในหลุมดำนั่นแหละ)

ส่วนหลุมดำนั้น ผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ แต่ถ้าจำไม่ผิด ก็คือมันเกิดจากดาวฤกษ์ที่หมดอายุ แล้วเข้าเงื่อนไขวิกฤติสักอย่างหนึ่ง ทำให้มวลยุบตัวลง อารมณ์เหมือนอัดมวลเท่าดาวดวงหนึ่ง ให้มีขนาดเท่าลูกบอลลูกหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดแรงโน้มถ่วงขนาดมหาศาล บิดเบี้ยวกาลอวกาศรอบข้างกลายเป็นหลุมลึกลงไป แล้ววัตถุที่ตกลงไปจะออกมาไม่ได้อีกเลย แม้แต่แสง (เพราะจะออกมาได้ต้องเร็วกว่าแสง ซึ่งไม่มีสิ่งใดในจักรวาลทำได้)
ภายในหลุมดำเป็นปริศนาลึกลับที่ยังศึกษาและถกเถียงกันอยู่ ทำให้เป็นช่องว่างที่เอาจินตนาการบางส่วนใส่เข้าไปในหนังได้ครับ

ผมว่า Interstellar เป็นหนังที่ดีนะเพราะเอาประเด็นฟิสิกส์ดาราศาสตร์มาตีเเผ่สร้างเป็นหนัง
เเต่ผมไม่ค่อยเเปลกใจกับประเด็นความเลื่อมล่ำของเวลาเพราะว่าผมชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับฟิสิกส์ จักรวาลวิทยามาก่อน ผมว่าคนไทยไม่ค่อยสนใจพวกจักรวาลวิทยาหรือฟิสิกส์ดาราศาสตร์เท่าไหร่ ยกตัวอย่างจะมีเม้นประมาณว่า เวลาช้าลงจริงๆไหม หรือ ภาพถ่ายที่เห็นเป็นภาพของอดีต ผมคิดว่าประเด็นพวกนี้เขาไม่พูดกันเเล้ว

ที่คนอยู่ที่สถานีได้เพราะ

แอนดรอยวิเคราะห์ข้อมูลแรงโน้มถ่วง ควอนตัม ที่จะทำให้สถานีอวกาศมันเกิดขึ้นได้และพระเอกส่งข้อมูลสมการไปทางแรงโน้มถ่วงอีกที

ผมไม่ชอบตอนจบเลย ที่เหลือชอบหมด

หลุมดำคือดาวที่มีแรงโน้มถ่วงสูง แค่นั้นละครับ มันไม่ได้วิเศษอะไรขนาดนั้น
ที่เล่นๆก็จะเป็นเรื่องเวลาของผู้สังเกตุการณ์
เช่น เวลาใน 1 วัน ที่ขอบหลุมดำ เท่ากับ 500 ปีที่ เวลาบนโลก (สุดท้าย ก็ขึ้นอยู่กับคนสังเกตุการณ์อยู่ดี)

ส่วนไอ้รูหนอนนี้ เท่าที่ผมจำได้เกิดจากการบิดตัวของอวกาศเนื่องจากแรงโน้มถ่วง
จนทำให้ตรงกลางเกิดเป็นอุโมง แล้วสามารถเคลื่อนที่ในอุโมงได้เร็วกว่าปกติ
เหมือนๆกับ เราใช้แรงเหวี่ยงของดาวต่างๆ เหวี่ยงให้ยานอวกาศเคลื่อนที่ไปได้ไกลกว่าเดิม
แต่รูหนอนเราใช้แรงโน้มถ่วงที่มากกว่านั้น มาบิดให้เป็นรูปอุโมง แล้วเดินทางในนั้น

ประมาณนี้มั้ง

นอกเรื่องหน่อยผมอ่านมาผ่านๆจากที่ไหนซักที่ น่าจะเซียนอวกาศพันทิปแหละ
เอาแค่เวลาที่สถานีอวกาศกับบนโลกก็ไม่เท่ากันแล้วครับ
โคตรน่าตื่นตาตื่นใจเลย ไหนจะคลื้นความโน้มถ่วงอีก
หนังเรื่องนี้สุดจริงๆยอมโนแลนเลย

ในหนังนั้นไม่ได้เล่นแค่ 5 มิติครับ อาจเล่นไปถึง 6และ7 เลย

พ่อนางเอกบอกว่าผีไม่มีอยู่จริง

สุดท้ายเสียงนั้นคือพ่อตัวเอง(น่าจะเสียงหลังตู้เสื้อผ้า)