BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 3162
ที่อยู่: Secret Room
โพสเมื่อ: Mon Apr 08, 2019 07:14
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
แฟนท่านโชคดีมากที่ได้ท่านมาเป็นคู่ชีวิต

สู้ๆนะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jun 2008
ตอบ: 6325
ที่อยู่: สุพรรณบุรี
โพสเมื่อ: Mon Apr 08, 2019 09:22
เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)
มีลูกรึยังครับ ลองวางแผนชีวิตตัวเองดีๆนะครับ

เอาจริงๆตอนนี้ผมก็หนักเรื่องการจัดการชีวิตครอบครัวเหมือนกัน บางวันก็ได้แต่นั่งทบทวนว่าชีวิตมาถึงจุดนี้ได้ไง และจะเอายังไงต่อดี
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6412
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Mon Apr 08, 2019 12:12
[RE]เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)
ถ้าท่านเลิก ดูทรงแฟนท่านคงพยายามฆ่าตัวตายอีกแน่ๆ เพื่อนของแฟนผมก็มีคนเป็นโรคนี่ รายนั้นที่บ้านมีตังค์ด้วย แต่ดันเป็นโรคซึมเศร้า และไปคบกับแฟนเป็นไบโพล่า (หญิงเป็นซึมเศร้า ชายเป็นไบโพล่า) เลิกกัน3-4รอบ เลิกทีฝ่ายหญิงกินยาฆ่าตัวตายรัวๆ ลำบากพ่อแม่พาไปล้างท้อง อันนี้เอามาแชร์ให้ฟังเฉยๆครับ เอาจริงท่านทนมาถึงจุดนี้ได้ก็สุดๆแล้ว เป็นผมเองก็คงจะไม่ทน มันดูทำลายสภาพจิตใจมากเลย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: (^_^)b
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2007
ตอบ: 7490
ที่อยู่: โลก
โพสเมื่อ: Mon Apr 08, 2019 13:26
[RE]เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)
เคยผ่านช่วงแบบท่านมาเหมือนกันครับ
ต้องคุยกันจริงจังเลยนะ
ถ้ามีปัญหาเมื่อไรผมโทรหาพ่อแม่เธอตลอดเลยครับ
เผื่อเกิดอะไรขึ้นท่านจะได้รับทราบ
หลังๆมานี่แฟนทำตัวน่ารักขึ้นเยอะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
^_____^ ให้สิ่งใด ก็ได้สิ่งนั้น

ก่อนที่จะลงมือทำอะไร-เราควรรู้ว่าจะจบมันอย่างไร

“แผนอยู่ที่คน ผลอยู่ที่ฟ้า มิอาจบังคับ” ขงเบ้ง

เ อ า ที่ ส บ า ย ใ จ เ ล ย (แต่อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน)

ถ้า "ได้ยิน" จะ "ลืม"
ถ้า "เห็น" จะ "จำ"
ถ้า "ทำ" จะ "เข้าใจ"
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: Francis C.Xavier
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 May 2008
ตอบ: 11212
ที่อยู่: โรงเรียนสำหรับผู้มีพรสวรรค์
โพสเมื่อ: Mon Apr 08, 2019 14:10
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
Gothamneedsyou พิมพ์ว่า:
ด้วยความเคารพครับท่าน โรคซึมเศร้านี่เป็นเรื่องของความแข็งแกร่งของจิตใจและมุมมองล้วนๆครับ

ขออนุญาตแนะนำคร่าวๆนะครับ พื้นฐานคือเขาต้องเข้าใจคุณค่าในตัวเองก่อน คนทุกคนมีค่าครับ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณจะช่วยเขาได้ก็คือ ทำให้เขาหาคุณค่าในตัวเองให้เจอครับ จริงๆการที่เราเป็นมนุษย์ การที่ทำยิ้มได้ในทุกวันก็เป็นคุณค่าอย่างหนึ่งแล้วนะ แล้วยิ่งแฟนคุณมีโอกาสได้เรียนโทนี่คือเขาต้องเป็นคนที่มีคุณภาพระดับหนึ่งเลยนะครับ อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆไปครับ

สองคือเขาต้องยอมรับสิ่งแย่ๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ แล้วลองปรับมุมมองให้มัน ทุกอย่างบนโลกมีสองด้านเสมอครับ เมื่อมีด้านแย่ เราไม่จำเป็นต้องมองมุมแย่ๆของทุกอย่างนะครับ หันมุมดีๆแล้วมองมัน อย่างน้อยนะครับ เรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นมันเป็นบทเรียนให้ชีวิตได้อยู่แล้ว แล้วแต่ละเรื่องมันจะผ่านไปได้ครับ

ซึ่งสองอย่างนี้มันส่งผลซึ่งกันและกันครับ ถ้าคุณหามุมดีๆในเรื่องแย่ๆได้ คุณจะค่อยๆพบกับคุณค่าของโลกใบนี้และตัวเองครับ  


ขอโทษนะครับที่ต้อง Quote มา ถ้าผมใช้คำไม่สุภาพผมขออภัยท่านล่วงหน้า
แต่ผมเจตนาเตือนและชี้แนะอย่างกัลยาณมิตร
--------------------------------------------------

ผมเป็นห่วงเรื่องความเข้าใจคลาดเคลื่อนบางอย่าง

"โรคซึมเศร้านี่เป็นเรื่องของความแข็งแกร่งของจิตใจและมุมมองล้วนๆครับ"

ไม่ได้มีแค่ท่านคนเดียวนะ ผมเห็นทั่วไปๆก็ยังมีความเข้าใจผิดๆกับประเด็นนี้อยู่
ผมขอขอบคุณล่วงหน้าถ้าหากท่านเปิดใจรับข้อมูลเพิ่ม
ท่านไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับ แต่ลองไปศึกษาค้นคว้าดู แค่นี้ผมก็ขอบคุณแล้วครับ

*อยากยกตัวอย่าง ดราม่าเคสของคุณพล่ากุ้ง ที่โพสต์เกี่ยวกับ Chester

ที่ต้อง "เตือน" เพราะความเข้าใจในลักษณะดังกล่าว ฟังเผินๆเหมือนจะดี
แต่จริงๆ มันไม่ใช่ (เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยเยียวยาได้บางส่วน)
ซึ่งมันอาจจะส่งผลด้านลบกับบางท่าน หรือผู้อ่านบางคนได้
ที่เลวร้ายที่สุด มันเหยียบซ้ำคนที่เป็นโรคนี้เข้าไปอีก

เพราะคนจำนวนไม่น้อย "ยึด" เอาวิธีคิดแบบนั้น
เป็นต้นเหตุ เป็นหนทางหรือทางออกในการรักษา"โรคซึมเศร้า"(และโรคทางจิตอื่นๆ)
คือมองว่า ถ้าใจเข้มแข็ง ปรับมุมมอง ก็หายได้ (ที่เอ็งเป็น เพราะเอ็งอ่อนแอ)

เท่าที่ผมเห็นๆมา คนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ทุกคนต้องใช้ยาเข้าช่วยทั้งนั้นครับ
(มีผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้ยาเลยหรือเปล่า ผมเองไม่ทราบนะครับ ไม่เคยเห็น)

คิดง่ายๆก็ได้นะครับ ในโลกเรา มีวิชาชีพ "จิตแพทย์"
ซึ่งไม่ใช่นักจิตวิทยา แต่เป็น "จิตแพทย์" (คนที่เรียนแพทย์มาถึง 6 ปี + เฉพาะทาง)

ถ้าหากว่าโรคทางจิตเช่นโรคซึมเศร้า มันรักษาหายด้วยการแก้ที่มุมมอง ความเข้มแข็ง
โลกเราไม่จำเป็นต้องมีจิตแพทย์เลยครับ ให้ Life Coach ที่ไหนช่วยก็ได้
ไม่จำเป็นต้องมีงานวิจัยเกี่ยวกับสารเคมีในสมอง หรือลักษณะทางกายภายของสมอง
เพราะทุกอย่างหายได้แค่ "ใช้จิตใจเข้มแข็ง"

---------------------------------------------------------

ผมเห็นด้วยกับส่วนอื่นๆที่ท่านคอมเม้นต์มา มันเป็นเรื่องที่ดีมาก ไม่ผิดเลย
ในเรื่องของการเคารพตัวเอง มุมมองแง่บวก การมี Self Esteem ต่างๆนานา
แล้วผมก็เชื่อว่ามันช่วยรักษาผู้ป่วยได้ในระดับหนึ่ง

แต่.. อย่ายึดเอาว่า ขอแค่นั้น แล้วจะหายจากโรคทางจิตได้

ถ้าเกิดจิตใจมันไม่ปกติ จนกระทบชีวิต นอนไม่หลับ กินผิดปกติ ขาดสมาธิ เบื่อหนัก
การไปปรึกษาจิตแพทย์ เป็นทางเลือกแรกครับ
ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของจิตแพทย์วินิจฉัย

-------------------------------------------------------

"ดังนั้น การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก หรือเป็นคนไม่สู้ปัญหา เอาแต่ท้อแท้ ซึมเซา แต่ที่เขาเป็นนั้นเป็นเพราะตัวโรค กล่าวได้ว่าถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โรคก็จะทุเลาลง เขาก็จะกลับมาเป็นผู้ทีจิตใจแจ่มใส พร้อมจะทำกิจวัตรต่างๆ ดังเดิม"

Quoteท่อนนี้ โดยศาสตราจารย์(จิตแพทย์) จากคณะแพทย์รามา ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย ศาสตราจารย์ เมื่อ Mon Apr 08, 2019 14:15, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 2677
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Apr 08, 2019 14:30
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
Spoil
ศาสตราจารย์ พิมพ์ว่า:
Gothamneedsyou พิมพ์ว่า:
ด้วยความเคารพครับท่าน โรคซึมเศร้านี่เป็นเรื่องของความแข็งแกร่งของจิตใจและมุมมองล้วนๆครับ

ขออนุญาตแนะนำคร่าวๆนะครับ พื้นฐานคือเขาต้องเข้าใจคุณค่าในตัวเองก่อน คนทุกคนมีค่าครับ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณจะช่วยเขาได้ก็คือ ทำให้เขาหาคุณค่าในตัวเองให้เจอครับ จริงๆการที่เราเป็นมนุษย์ การที่ทำยิ้มได้ในทุกวันก็เป็นคุณค่าอย่างหนึ่งแล้วนะ แล้วยิ่งแฟนคุณมีโอกาสได้เรียนโทนี่คือเขาต้องเป็นคนที่มีคุณภาพระดับหนึ่งเลยนะครับ อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆไปครับ

สองคือเขาต้องยอมรับสิ่งแย่ๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ แล้วลองปรับมุมมองให้มัน ทุกอย่างบนโลกมีสองด้านเสมอครับ เมื่อมีด้านแย่ เราไม่จำเป็นต้องมองมุมแย่ๆของทุกอย่างนะครับ หันมุมดีๆแล้วมองมัน อย่างน้อยนะครับ เรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นมันเป็นบทเรียนให้ชีวิตได้อยู่แล้ว แล้วแต่ละเรื่องมันจะผ่านไปได้ครับ

ซึ่งสองอย่างนี้มันส่งผลซึ่งกันและกันครับ ถ้าคุณหามุมดีๆในเรื่องแย่ๆได้ คุณจะค่อยๆพบกับคุณค่าของโลกใบนี้และตัวเองครับ  


ขอโทษนะครับที่ต้อง Quote มา ถ้าผมใช้คำไม่สุภาพผมขออภัยท่านล่วงหน้า
แต่ผมเจตนาเตือนและชี้แนะอย่างกัลยาณมิตร
--------------------------------------------------

ผมเป็นห่วงเรื่องความเข้าใจคลาดเคลื่อนบางอย่าง

"โรคซึมเศร้านี่เป็นเรื่องของความแข็งแกร่งของจิตใจและมุมมองล้วนๆครับ"

ไม่ได้มีแค่ท่านคนเดียวนะ ผมเห็นทั่วไปๆก็ยังมีความเข้าใจผิดๆกับประเด็นนี้อยู่
ผมขอขอบคุณล่วงหน้าถ้าหากท่านเปิดใจรับข้อมูลเพิ่ม
ท่านไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับ แต่ลองไปศึกษาค้นคว้าดู แค่นี้ผมก็ขอบคุณแล้วครับ

*อยากยกตัวอย่าง ดราม่าเคสของคุณพล่ากุ้ง ที่โพสต์เกี่ยวกับ Chester

ที่ต้อง "เตือน" เพราะความเข้าใจในลักษณะดังกล่าว ฟังเผินๆเหมือนจะดี
แต่จริงๆ มันไม่ใช่ (เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยเยียวยาได้บางส่วน)
ซึ่งมันอาจจะส่งผลด้านลบกับบางท่าน หรือผู้อ่านบางคนได้
ที่เลวร้ายที่สุด มันเหยียบซ้ำคนที่เป็นโรคนี้เข้าไปอีก

เพราะคนจำนวนไม่น้อย "ยึด" เอาวิธีคิดแบบนั้น
เป็นต้นเหตุ เป็นหนทางหรือทางออกในการรักษา"โรคซึมเศร้า"(และโรคทางจิตอื่นๆ)
คือมองว่า ถ้าใจเข้มแข็ง ปรับมุมมอง ก็หายได้ (ที่เอ็งเป็น เพราะเอ็งอ่อนแอ)

เท่าที่ผมเห็นๆมา คนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ทุกคนต้องใช้ยาเข้าช่วยทั้งนั้นครับ
(มีผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้ยาเลยหรือเปล่า ผมเองไม่ทราบนะครับ ไม่เคยเห็น)

คิดง่ายๆก็ได้นะครับ ในโลกเรา มีวิชาชีพ "จิตแพทย์"
ซึ่งไม่ใช่นักจิตวิทยา แต่เป็น "จิตแพทย์" (คนที่เรียนแพทย์มาถึง 6 ปี + เฉพาะทาง)

ถ้าหากว่าโรคทางจิตเช่นโรคซึมเศร้า มันรักษาหายด้วยการแก้ที่มุมมอง ความเข้มแข็ง
โลกเราไม่จำเป็นต้องมีจิตแพทย์เลยครับ ให้ Life Coach ที่ไหนช่วยก็ได้
ไม่จำเป็นต้องมีงานวิจัยเกี่ยวกับสารเคมีในสมอง หรือลักษณะทางกายภายของสมอง
เพราะทุกอย่างหายได้แค่ "ใช้จิตใจเข้มแข็ง"

---------------------------------------------------------

ผมเห็นด้วยกับส่วนอื่นๆที่ท่านคอมเม้นต์มา มันเป็นเรื่องที่ดีมาก ไม่ผิดเลย
ในเรื่องของการเคารพตัวเอง มุมมองแง่บวก การมี Self Esteem ต่างๆนานา
แล้วผมก็เชื่อว่ามันช่วยรักษาผู้ป่วยได้ในระดับหนึ่ง

แต่.. อย่ายึดเอาว่า ขอแค่นั้น แล้วจะหายจากโรคทางจิตได้

ถ้าเกิดจิตใจมันไม่ปกติ จนกระทบชีวิต นอนไม่หลับ กินผิดปกติ ขาดสมาธิ เบื่อหนัก
การไปปรึกษาจิตแพทย์ เป็นทางเลือกแรกครับ
ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของจิตแพทย์วินิจฉัย

-------------------------------------------------------

"ดังนั้น การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก หรือเป็นคนไม่สู้ปัญหา เอาแต่ท้อแท้ ซึมเซา แต่ที่เขาเป็นนั้นเป็นเพราะตัวโรค กล่าวได้ว่าถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม โรคก็จะทุเลาลง เขาก็จะกลับมาเป็นผู้ทีจิตใจแจ่มใส พร้อมจะทำกิจวัตรต่างๆ ดังเดิม"

Quoteท่อนนี้ โดยศาสตราจารย์(จิตแพทย์) จากคณะแพทย์รามา ครับ
 
 
ขอบคุณท่านมากๆเลยสำหรับการชี้แจงครับ ครั้งต่อไปสำหรับการโพสต์ผมจะเอาให้แน่ใจเรื่องข้อมูลก่อนครับ อาจต้องไปอีดิตเพื่อกันการเข้าใจผิดแล้วครับผม ขอบคุณมากครับท่าน  
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 5305
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 09, 2019 08:32
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
โชคดีที่ยังไม่มีลูกนะครับ

ทำประกันชีวิตแฟนท่านด้วยป่าวคับ? กรณีฆ่าตัวตายจะได้รับเงินประกันไหม?
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel