BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2013
ตอบ: 2286
ที่อยู่: Emirate Stadium, Hornsey Rd, London N7 7AJ, United Kingdom ★★★★★
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:30
เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)
ก่อนอื่น หลายคนในนี้เคยคุยกันในประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้ากันมาก็หลายครั้ง ผมเลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ ยาวหน่อยครับ



ผมไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า แต่คนใกล้ชิดผมต่างหากที่เป็น (แฟน)

ปล. แฟนผมเค้าเป็นไบโพล่าด้วยนะ อิอิ

ผมคบกับแฟนคนนี้มาราวๆ เข้าปีที่ 5 ละ และรู้ด้วยว่าเค้าเป็นโรคซึมเศร้าก่อนหน้าจะคบกัน ตอนแรกผมคิดเสมอว่ามันจะไปยากอะไรว่ะ ก็แค่ปรับความเข้าใจกัน ช่วยกันไป

แต่ปรากฏว่าในชีวิตจริงแม่งโคตรยากกกกกกก ณ ตอนนั้นผมลืมคิดไปว่า เราไม่ได้รับภาระอันหนักอึ้งจากการเข้าใจคนเป็นโรคซึมเศร้าแต่เพียงอย่างเดียว ไหนจะหนี้สิน ค่าใช้จ่าย ครอบครัว(เรา) เยอะแยะไปหมด

Phase 1
จะเป็นช่วงปี 2 ปีแรก ผมเคยนั่งคุยกับตัวเองว่า ทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้น ทำไมไม่คิดแบบเรา พูดง่ายๆ เอาเราเป็นที่ตั้ง (คือคิดว่าเราเนี่ยละธรรมดา ตรงกลางที่สุด เพราะเราเหมือนคนส่วนใหญ่) เลยพยายามจะใช้ความคิดของเราเป็นตัวควบคุม หรือปรับให้เค้าเข้ามาตรงกลางให้ได้ พยายามอยู่หลายครั้ง สอนเค้าอยู่หลายที ปรากฏว่าไม่เป็นผล สรุปทะเลาะหนักกว่าเดิม จนทะเลาะๆ ไปเรื่อยๆ (ผมก็เริ่มหมดความอดทนไปเรื่อยๆ) จนเกิดระเบิดครั้งแรก แฟนผมเค้าก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพยายาม ผมก็ไม่เข้าใจเค้า สรุป แฟนผมเค้าเอาเชือกมารัดคอตัวเองในห้องนอน (ตอนนั้นอยู่คอนโดฯ) กลับมาตกใจมาก แต่ไม่ตาย

*ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมไม่มีภาระหนี้สินอะไรเยอะแยะ เลยไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ระดับความเครียด 2/10


Phase 2
ช่วงปีก่อน หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมเริ่มคิดหาวิธีการใหม่ๆ ประมาณว่าเปลี่ยนเค้ายาก ลองเปลี่ยนเราดูดิ๊ ผมเริ่มเข้าไปหาหมอ (คือแฟนผมเค้ารักษาทุกเดือนอยู่แล้ว กับหมอจิตเวช ตอน Phase 1 คือผมไม่ไปด้วยเลยนะ คิดว่าเป็นเรื่องปรกติ) ผมก็เริ่มเข้าไปปรึกษา หมอเค้าก็แนะนำวิธีช่วยเหลือต่างๆ เช่นการพาไปในที่ๆ เค้าชอบ การส่งเสิรมความคิดในด้านบวก การทำให้อารมณ์เค้า Up ตลอดเวลา (คือไม่มีเรื่องแย่ๆ เข้ามาก่อกวน)

ฟังจบก็ "เย้" แต่ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความเป็นจริงยากชิบหาย... เพราะนอกจากการที่จะต้องประคองจิตใจแฟนผม ยังต้องประคับประคองการงาน, การใช้ชีวิต หนี้สิน ที่แม่งก็เลือกเวลาถาโถมเข้ามาจริงๆ ช่วงนี้ช่วงหนักสุดเลยมั้ง เช่น รถชนใหญ่ (ซ่อมหลักแสนอ่ะ) เริ่มต้องมีประกันชีวิต เปลี่ยนงาน แฟนผมก็ทำงานได้บ้างไม่ได้บ้าง ย้ายงานบ้าง คือแบบเยอะแยะมาก ทำให้สิ่งที่หมอบอกมันแม่งโคตรยากเลยว่ะครับ มันเหมือนเราแบกอะไรหนักๆ แต่ต้องยิ้มและบอกแฟนว่า "ไม่เหนื่อยอะไรเลย ไม่ต้องห่วง"

ซึ่งมันบวกกับที่เค้าเป็นไบโพลา ด้วยเลยหนักชิบหายครับ เพราะปัญหาเยอะแยะเข้ามากวน จนมีปัญหาทำให้แฟนผมที่กำลังเรียนโท ต้องหยุดเรียน (คือไม่มีตังค่าเทอมว่างั้นเหอะ) เค้าเสียใจมากๆ และคนเป็นโรคพวกนี้เวลาดาวน์ แม่งดาวน์ยาวๆ + ครอบครัวเค้าไม่เข้าใจสิ่งที่เค้าเป็น พอปัญหาเกิดทุกคนก็เบลมเค้า (สาเหตุมาจากเค้าก็จริง แต่หมอแนะนำให้กำลังใจ) ซึ่งผมยอมรับเลยว่าผมก็มีส่วนในการเบลมเค้าระดับนึง หนักมากๆ จนแฟนผมเค้าเอามีดกรีดข้อมือตัวเอง (คิดสภาพกลับบ้านมาเจอเมียตัวเองนั่งกรีดข้อมือตัวเอง เลือดไหลติ๋งๆ) โคตรหลอนเลย - - คือโหดมาก

อีกเหตุการณ์นึงไม่หนักที่โรค แต่หนักที่ผม คือ แฟนได้ที่ทำงานดีมาก เงินเดือนราวๆ 25-27k และเราก็มีกำลังพอจะซื้อบ้านซักหลังนึง เลยตัดสินใจซื้อบ้าน ราคา 4 ล้าน (ตั้งใจว่าจะกู้ร่วม และช่วยกันผ่อน คำนวนแล้วว่าไหวแน่ๆ) เลยตกลงมัดจำบ้านไป 300k จนทำเรื่องจบ กู้ผ่านจ้าาาาาา แต่เรื่องราวดีๆ มักจะมีแค่ช่วงต้นเรื่อง ด้วยความที่แฟนผมเค้าเป็นไบโพล่า ยับยังอารมณ์ไม่ค่อยได้ คือไม่โอเค(เพื่อนร่วมงาน) Deadair เลยจ้า ออกงานแบบทั้งๆ ที่พึ่งกู้บ้านผ่าน ละเข้าใจโมเม้นปะ กว่าจะหางานเงินเดือนขนาดนี้ได้บางคนทำทั้งชีวิตยังไม่แตะอ่ะ ผมนี่คิดไม่ตกเลยเอาไงต่อไปป เพราะกำลังเราตอนนั้น ก็ใช่ว่าจะไหว ตอนนั้นถ้ายกเลิกคือเสีย 300k แน่นอน

สุดท้ายผมก็คุยกับทางบ้านแฟน, บ้านผม ว่าเอาว่ะ สู้ตายไหนๆ ก็ได้ละ ลุยเอาให้รอด เลยตัดใจเอาแล้วก็ถูลู่ถูกังกันมาเป็นปี จนได้อยู่บ้าน...

*ช่วงนี้ภาระเริ่มเข้ามาถาโถม แต่โชคดีได้งานดีช่วยไว้ ครอบครัวอุปถัมป์เลยค่อนข้างถือว่าโชคดี ระดับความเครียด 6/10


Phase 3
แล้วก็ขอต้อนรับเข้าสู้ปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งภูมิใจ มีความสุข และมีความทุกข์ ไปพร้อมๆ กัน ช่วงนี้ทะเลาะกับแฟนบ่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตั้งแต่เรื่องนิสัยส่วนตัวที่ไม่เข้ากัน ปรับกันเหนื่อยมากกว่าจะลงตัว เรื่องการประหยัด การต่อเติมบ้าน หนี้บัตรเครดิต เยอะแยะไปหมด หลายอย่างเค้าก็ปรับเข้าหาเราไม่ได้ บางอย่างหนี้สินก็ค้ำคอ ซึ่งช่วงนี้ผมนี่ต้องบอกว่าสาหัสสากรรจ์มาก ทั้งแบกค่าบ้าน (ค่าบ้านเดือนๆ นึงราวๆ 22k ผมออก 12k แฟนผมออก 10k) และค่าใช้จ่ายในบ้าน "ทั้งหมด" แต่เพียงผู้เดียว ใช่ครับอ่านไม่ผิด ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั้งแต่ค่ากิน ค่าน้ำมันรถยนต์ ค่าเลี้ยงดูแมว ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าประกันชีวิต บลาๆๆๆๆๆๆ เยอะแยะไปหมด

ปล. แฟนผมขับรถยนต์ ผมใช้เวสป้าน้อยๆ

ซึ่งปัญหาช่วงนี้ส่วนใหญ่ ก็จะคือเรื่องเงิน (ใครบอกว่าเงินไม่สำคัญ คือ effect กับทุกอย่างรอบๆ ตัว) การที่เราต้องแบกหนี้สิน ค่าใช้จ่ายเยอะแยะไปหมด ผมก็จะคาดหวังอะไรที่มันมีความมั่นคงเสมอๆ (เพื่อลดความเสี่ยง) เช่นการงานที่ต้องมั่นคง การซื้อของต้องคิดถึงความคุ้มค่า แต่แฟนผมเค้าจะไม่เข้าใจ เค้าจะทำอะไรอย่างที่ใจเค้าอยากทำ อยากได้ในสิ่งที่อยากได้ พอไม่ได้ก็จะฟีลดาวน์ แล้วก็พูดถึงเรื่องฆ่าตัวตัว วนลูปไป

ช่วงนี้ก็จะแบบเดิม ปัญหาทางด้านมุมมองความคิด การใช้ชีวิตจะมีปัญหาหนักมาก ความอดทนผมมันก็ถึงขั้นสุด ถึงขั้นคุยเรื่องหย่าร้าง 2 - 3 ครั้งแล้วในรอบปีนี้...

หลายๆ ครั้งผมก็ลองปรับตัวเองให้มาเข้าใจแฟนมากขึ้น เช่นคุยกันมากขึ้น พูดกันด้วยหลักการและเหตุผลมากขึ้น และหลายๆ ครั้งแฟนผมเค้าก็จะแก้ปัญหาด้วยการกินยา (ที่หมอให้ มันคือยากล่อมประสาท) แต่กินทีนึง ก็ 7-10 เม็ด คือกะว่ากินเอาตาย

หลายปีที่ผ่านมาผมพยายามที่จะทำให้แฟนผมเค้าหายจากโรคนี้ พยายามทุกหนทาง แต่วันนี้ผมได้รู้แล้วว่ามันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย โรคนี้มันต้องเป็นคนที่เข้าใจเพียงไหน คนที่เค้าทำให้คนเป็นโรคนี้กลับมาหายได้ต้องเข้มแข็ง และแข็งแกร่งขนาดไหน

*ในหลายๆ ครั้งผมรู้สึกแย่มาก มากถึงมากที่สุด แต่ก็คุยกับใครไม่ได้ ได้แต่หาวิธีแก้ไขเรื่องภายในครอบครัวต่อไป ระดับความเครียด 9/10

ซึ่งช่วงนี้ผมต้องยอมรับจริงๆ ว่าความอดทนมันลดน้อยลงในระดับนึง ผมต้องวางแผนกรณีแฟนผมเค้าเกิดคิดทำอะไรเลยเถอดไป... ผมคุยกับทางบ้านแฟนไว้เรียบร้อย วางแผนหรือทำใจกันไว้แล้วส่วนนึง

ร่ายมายืดยาวไม่มีอะไรครับ แค่หาที่เล่าสิ่งที่อยู่ในใจออกไปเท่านั้นครับ ขอบคุณครับ

ปล. ขอยืนยันว่านี่คือ "เรื่องจริง" จากชีวิตผมเองครับ
127
0
หากโดน 216 เรื้อน จะถูกแบน
RavageS , -=adventure time=- , memorandum , twentyfourseven , EL_CID , ✪ Saitama サイタマ , Riyah , fw_converse , Barcelonistu , Aucifef , lagunahaze , akepora , ฟรุกโตส , ฮิป สะ เตอร์ นะ จ้ะ , mediocre , scveffilo , devilrider , testy , artofthedevil , codenameq , พยายาม ๑๙ , extinction , Ozil69Arsenal , Plapong_48 , คุโรชิโร่คุง , worm , Arsenyo , BBE , Sukishi , popoing , AGGLE , Taker , chin_no_suke , kidorange41 , -Impulse , mOunii , Lowlite , judeh , ซั่MMAN_69/96 , Scenesters , คนเสพบอร์ด , owentwo , ปมต. , LoversMoon , Cerebral Cortex , sasuke2u , M I L D , Agent 13 , Rustey , Skyscraper , O___o , Engine45 , nutvarot , Michael Connelly , BOHICA , notetie , pohihi188 , อาจารย์มาวิน , Debuto , thedreamer010 , จอห์นชาวไร่ , Operator , Nova_tai , Qseries1 , ballsaxmanbegins , ศาสตราจารย์ , Pilot , Rewrite , BeeValentine , Humnoi17 , Badz , mawnoy , T.pop , zarthdevil , stereoman , Maamiint , ตถตา , fincher , ไม่อยากกินต้มไก่ , มายมินมินมินมิน , IamLegend , Bankkikkok , Lukacool , ซาบุสะ , PunPunUdomsil , Lolitas , co2netto , CrespALm , comcom014 , popopoioioio , Marchmanlo , SาพณาสูS , Gygeeเด็กดื้อนาโน๊ะ , PopPuLar , Axl Rose , KDB , รักเมีย รุ่น 1 , oattdropp , JSC1989 , biabalor , Gameyz , เงาของเธอ , nakata2009 , Ashes , J.Hernandez , danizola , เรื่อยเปื่อย , ERO-TIC , chocolate14 , MasterReedX , ArTaNawut , อ.คง , ผมเป็นคนชอบJET , neil legstrong , st_barc , jiroh , sheepanda10 , Luxxusjr , BarceloZa , k-wiiTz , samhuahin , WazZa27 , ไซมึ้งชวยเซาะ , imop28 , เสือปืนไว , Oh! แม่สาวน้อย , Ps_Oscar11
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 27218
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:35
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
ผมถามหน่อยสิครับ

ถ้าบอกว่าโรคซึมเศร้ากับคนเศร้านี่มันคนละอย่าง

แบบคนเป็นโรคซึมเศร้านี่มันเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ

ทีนี้ผมเลยสงสัยว่าคนที่ร่าเริงปกติ ชีวิตดีสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่เคยเครียดอะไรเลย

แบบนี้วันนึงจะโชคร้ายอยู่ดีๆเป็นโรคซึมเศร้าได้มั้ยครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
สสจ ที่ย่อมาจาก สะใจจัง

ออฟไลน์
อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 226
ที่อยู่: stamford bridge
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:39
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
อยากจะบอกว่า เป็นกำลังใจให้ เท่าที่อ่านปัญหาความเครียดท่านมาจากเรื่องเงินเป็นหลักเพราะหนี้สิน อยากให้ลองหา job เสริม ทำควบคู่ แต่ก็จะเบียดเบียนเวลาที่ต้องดูแลแฟนอีก งั้นเปลี่ยนเป็นการลงทุนพวกหุ้นพวกอะไรแทนที่มีเงินงอกเงยโดยไม่กระทบเวลาส่วนตัวดูดีมั๊ยครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ เดี๋ยวทุกอย่างจะต้องดีขึ้นถ้าเราวางแผนดีพอ
แก้ไขล่าสุดโดย nongmillza เมื่อ Sun Apr 07, 2019 19:41, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2013
ตอบ: 2286
ที่อยู่: Emirate Stadium, Hornsey Rd, London N7 7AJ, United Kingdom ★★★★★
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:40
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
blackhunter พิมพ์ว่า:
ผมถามหน่อยสิครับ

ถ้าบอกว่าโรคซึมเศร้ากับคนเศร้านี่มันคนละอย่าง

แบบคนเป็นโรคซึมเศร้านี่มันเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ

ทีนี้ผมเลยสงสัยว่าคนที่ร่าเริงปกติ ชีวิตดีสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่เคยเครียดอะไรเลย

แบบนี้วันนึงจะโชคร้ายอยู่ดีๆเป็นโรคซึมเศร้าได้มั้ยครับ  


คนละอย่างกันครับ คนเศร้า(คือคนปรกติที่มีอาการเศร้า) จะยังมีจุดที่ยับยั้งชั่งใจได้ ว่าตรงไหนควรพอ

แต่คนเป็นโรคซึมเศร้า หมออธิบายไว้ว่ามีสารเคมี + ความคิดทำให้เกิดอาการดาวน์ลงเรื่อยๆ และดำดิ่ง ต้องวัดกันที่มุมมองครับ อย่างแฟนผมเนี่ย ถ้าเมื่อไหร่ที่เค้าผิด เค้าจะคิดว่าตัวเองแย่ ไร้ค่า ไร้สมอง ไม่สมควรมีชีวิต เป็นแบบนี้ตลอด แล้วบางทีดาวน์ที 3-5 วันเลยนะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Feb 2011
ตอบ: 1064
ที่อยู่: ใกล้ๆหัวใจเธอ
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:40
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
สู้ๆครับท่าน อ่านจบแล้วผมยังเครียดแทนเลย

ผมเป็นกำลังใจให้ครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: แง้นๆๆ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 9121
ที่อยู่: ที่นี่แหละ
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:41
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
เป็นกำลังใจให้ครับ มาระบายในนี้ได้ตลอดนะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jul 2010
ตอบ: 40454
ที่อยู่: DD จงเจริ้ญ!!!
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:43
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
สู้ๆครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 27218
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:45
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
shinobu22 พิมพ์ว่า:
blackhunter พิมพ์ว่า:
ผมถามหน่อยสิครับ

ถ้าบอกว่าโรคซึมเศร้ากับคนเศร้านี่มันคนละอย่าง

แบบคนเป็นโรคซึมเศร้านี่มันเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ

ทีนี้ผมเลยสงสัยว่าคนที่ร่าเริงปกติ ชีวิตดีสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่เคยเครียดอะไรเลย

แบบนี้วันนึงจะโชคร้ายอยู่ดีๆเป็นโรคซึมเศร้าได้มั้ยครับ  


คนละอย่างกันครับ คนเศร้า(คือคนปรกติที่มีอาการเศร้า) จะยังมีจุดที่ยับยั้งชั่งใจได้ ว่าตรงไหนควรพอ

แต่คนเป็นโรคซึมเศร้า หมออธิบายไว้ว่ามีสารเคมี + ความคิดทำให้เกิดอาการดาวน์ลงเรื่อยๆ และดำดิ่ง ต้องวัดกันที่มุมมองครับ อย่างแฟนผมเนี่ย ถ้าเมื่อไหร่ที่เค้าผิด เค้าจะคิดว่าตัวเองแย่ ไร้ค่า ไร้สมอง ไม่สมควรมีชีวิต เป็นแบบนี้ตลอด แล้วบางทีดาวน์ที 3-5 วันเลยนะครับ  


แล้วก่อนจะเป็นนี่ชีวิตเค้าดีปกติมั้ยครับ

หรือชีวิตเค้าค่อนข้างมีความกดดัน เป็นคนเครียดมากมาก่อน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
สสจ ที่ย่อมาจาก สะใจจัง

ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2013
ตอบ: 2286
ที่อยู่: Emirate Stadium, Hornsey Rd, London N7 7AJ, United Kingdom ★★★★★
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:47
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
blackhunter พิมพ์ว่า:
shinobu22 พิมพ์ว่า:
blackhunter พิมพ์ว่า:
ผมถามหน่อยสิครับ

ถ้าบอกว่าโรคซึมเศร้ากับคนเศร้านี่มันคนละอย่าง

แบบคนเป็นโรคซึมเศร้านี่มันเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ

ทีนี้ผมเลยสงสัยว่าคนที่ร่าเริงปกติ ชีวิตดีสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่เคยเครียดอะไรเลย

แบบนี้วันนึงจะโชคร้ายอยู่ดีๆเป็นโรคซึมเศร้าได้มั้ยครับ  


คนละอย่างกันครับ คนเศร้า(คือคนปรกติที่มีอาการเศร้า) จะยังมีจุดที่ยับยั้งชั่งใจได้ ว่าตรงไหนควรพอ

แต่คนเป็นโรคซึมเศร้า หมออธิบายไว้ว่ามีสารเคมี + ความคิดทำให้เกิดอาการดาวน์ลงเรื่อยๆ และดำดิ่ง ต้องวัดกันที่มุมมองครับ อย่างแฟนผมเนี่ย ถ้าเมื่อไหร่ที่เค้าผิด เค้าจะคิดว่าตัวเองแย่ ไร้ค่า ไร้สมอง ไม่สมควรมีชีวิต เป็นแบบนี้ตลอด แล้วบางทีดาวน์ที 3-5 วันเลยนะครับ  


แล้วก่อนจะเป็นนี่ชีวิตเค้าดีปกติมั้ยครับ

หรือชีวิตเค้าค่อนข้างมีความกดดัน เป็นคนเครียดมากมาก่อน  


ถ้าพูดถึงชีวิตวัยเด็ก ค่อนข้างมีผลนะครับ แฟนผมนี่ชีวิตวัยเด็กไม่ได้สวยหรู พ่อแม่หย่าร้าง แม่ไม่เลี้ยง(ให้ตายายเลี้ยง) ตาแฟนก็ ข้าราชการ ย้ายที่ประจำการบ่อย (ย้ายจังหวัดบ่อย)

ผมคุยกับหมอ หมอก็บอกว่ามีส่วนมากๆ (น่าจะ 70%) ที่ทำให้แฟนผมเป็นโรคนี้ขึ้นมา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2013
ตอบ: 2286
ที่อยู่: Emirate Stadium, Hornsey Rd, London N7 7AJ, United Kingdom ★★★★★
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:49
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
nongmillza พิมพ์ว่า:
อยากจะบอกว่า เป็นกำลังใจให้ เท่าที่อ่านปัญหาความเครียดท่านมาจากเรื่องเงินเป็นหลักเพราะหนี้สิน อยากให้ลองหา job เสริม ทำควบคู่ แต่ก็จะเบียดเบียนเวลาที่ต้องดูแลแฟนอีก งั้นเปลี่ยนเป็นการลงทุนพวกหุ้นพวกอะไรแทนที่มีเงินงอกเงยโดยไม่กระทบเวลาส่วนตัวดูดีมั๊ยครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ เดี๋ยวทุกอย่างจะต้องดีขึ้นถ้าเราวางแผนดีพอ  


ต้องยอมรับคับ ว่าตอนนี้ขยับขยายอะไรยากมากๆ (หนี้มันก้อนโตไปหน่อย) ทำให้หายใจหายคอยากมากๆ ส่วนตัวมีแผนอยากทำแบบนั้นมากๆ ครับ ถ้าภาระลดน้อยลงอีกนิด ผมทำแน่นอนครับ ขอบคุ๕รับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
Engineer
Status: #ความรักก็เช่นกัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jan 2015
ตอบ: 36306
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีผู้หญิง
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 19:50
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
ท่านรักแฟนท่านด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ ผมนับถือมากครับ

เป็นกำลังใจให้ อ่านจบผมยังคิดเลยว่าผมจะทนมาถึงจุดนี้ได้ไหม

แต่ท่านรู้ว่าเค้าเป็นโรคมาก่อนแล้ว ยังสู้ไปพร้อมกับเค้าจนุถึงตอนนี้ นับถือครับ
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Manchester United Fan since 2002
Heat Fan sice 2006-2013 Wade win a Ring
Nuggets Fan Since draft Jamal Murray y2016

ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: Condition Red
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 16914
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 20:04
เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)
เจอมากับตัวเองเหมือนกันเพื่อนสองคน คนแรก ซึมเศร้า คนที่สอง ไบโพล่าร์ เหมือนคนที่สองรับฟังคนแรกมาเยอะจน คิดเยอะ ผมคอยรับฟังปัญหาของเพื่อนทีละอย่างๆ บอกเลย ถึงเราจะพูดอะไรไป ไม่ได้ช่วยเค้าเลย ต้องคอยรับฟังอย่างเดียว

ทางเดียวที่ช่วยได้คือหาหมอ กินยาปรับสารเคมีในสมอง สาเหตุของเพื่อนผม สารเคมีในสมองผิดปกติ เล่นยาเยอะ พวกไอซ ยาบ้า ยาอี เค นี่ตัวดีทั้งนั้น เตือนคนที่เล่นหนักๆระวังจะเป็นโรคพวกนี้

ส่วนเรื่องของจขกท. ผมยอมรับใจของท่านเลย สู้ถึงที่สุดจริงๆ แฟนท่านโชคดีมาก ที่มีท่านอยู่

ขอให้อยู่กับแฟนอยู่ข้่างๆเค้าไปนาน เรื่องแบบนี้สังคมไทย แอนตี้ นัก ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของใครเลย ว่าเป็นโรคแบยนี้แล้วบ้า ไม่รู้เมื่อไรค่านิยมผิดๆนี้จะหมดไปสักที คนที่เป็นโรคพวกนี้ต้องการคนข้างๆ ที่เข้าใจและรับฟังปัญหาของเค้า
ไม่ใช่ว่า ด่า ไม่เข้าใจพวกเค้าอีก เหมือนคนรอบครัวแฟนท่าน

สู้ๆครับ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น ฟ้าหลังฝน งดงามเสมอครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 41986
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 20:10
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
สู้ๆ ครับ มีอะไรก็ระบายมาครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2014
ตอบ: 9056
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 20:13
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]
blackhunter พิมพ์ว่า:
ผมถามหน่อยสิครับ

ถ้าบอกว่าโรคซึมเศร้ากับคนเศร้านี่มันคนละอย่าง

แบบคนเป็นโรคซึมเศร้านี่มันเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ

ทีนี้ผมเลยสงสัยว่าคนที่ร่าเริงปกติ ชีวิตดีสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่เคยเครียดอะไรเลย

แบบนี้วันนึงจะโชคร้ายอยู่ดีๆเป็นโรคซึมเศร้าได้มั้ยครับ  

โรคซึมเศร้าเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ ดังนั้นมีความสุขมาทั้งชีวิต อยู่ดีๆเจอเหตุการณ์กระทบก็เป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายถ้ามีพ่อหรือแม่มีประวัติ



ถึง จขกท ผมแนะนำว่าถ้ารักษาที่เดิมแล้วอาการไม่ดีขึ้นก็เปลี่ยนที่ เห็นบอกว่าพยายามทุกทางแล้วให้แฟนหาย ทำอะไรไปบ้างแล้วครับ(มันไม่หายนะโรคนี้) ผมไม่รู้ว่าแฟนคุณรักษาด้วยวิธีไหนอยู่บ้าง ดูแลกันระดับไหน อ่านที่เล่ามาไม่ได้รายละเอียดเลยนอกจากความเครียด ไบโพลาร์ต้องรักษาแบบเคสบายเคส จริงๆก็โรคจิตเวชทุกโรคนั่นแหละต้องรักษาตามอาการ

ลองพิจารณาดูว่า 5 ปีที่ผ่านมาที่ว่าเนี่ย ไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งเราทำอะไรบ้าง แพทย์มีการติดตามอาการคนไข้ดีแค่ไหน มีการเปลี่ยนยากี่รอบ อาการตั้งแต่ 5 ปีก่อนจนถึงตอนนี้เปลี่ยนไปแค่ไหน

อย่างการสังเกตุและบันทึกอาการนี่ก็สำคัญต่อการรักษานะ ไม่รู้ว่าหมอเคยแนะนำหรือยัง ตอนผมเรียนอาจารย์เน้นมากว่าต้องแนะนำให้คนไข้หรือผู้ปกครองสังเกตุและบันทึกอาการเป็น เราปรับตัวตามอาการอย่างเดียวไม่ได้หรอก ต้องรู้จักวิธีควบคุมสิ่งเร้าด้วย ซึ่งถ้าเราสังเกตุและบันทึกเป็นจะช่วยได้มาก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 2677
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 07, 2019 20:17
[RE: เมื่อเราต้องอยู่กับแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้า (+ไบโพ)]


ขออนุญาตแนะนำคร่าวๆนะครับ พื้นฐานคือเขาต้องเข้าใจคุณค่าในตัวเองก่อน คนทุกคนมีค่าครับ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณจะช่วยเขาได้ก็คือ ทำให้เขาหาคุณค่าในตัวเองให้เจอครับ จริงๆการที่เราเป็นมนุษย์ การที่ทำยิ้มได้ในทุกวันก็เป็นคุณค่าอย่างหนึ่งแล้วนะ แล้วยิ่งแฟนคุณมีโอกาสได้เรียนโทนี่คือเขาต้องเป็นคนที่มีคุณภาพระดับหนึ่งเลยนะครับ อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆไปครับ

สองคือเขาต้องยอมรับสิ่งแย่ๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ แล้วลองปรับมุมมองให้มัน ทุกอย่างบนโลกมีสองด้านเสมอครับ เมื่อมีด้านแย่ เราไม่จำเป็นต้องมองมุมแย่ๆของทุกอย่างนะครับ หันมุมดีๆแล้วมองมัน อย่างน้อยนะครับ เรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นมันเป็นบทเรียนให้ชีวิตได้อยู่แล้ว แล้วแต่ละเรื่องมันจะผ่านไปได้ครับ

#อีดิตข้อความออกบางส่วนเนื่องจากความเข้าใจผิดของผมเองครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Gothamneedsyou เมื่อ Mon Apr 08, 2019 14:31, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel