ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าทำไมฟรีคิกต้องมีกำแพง

ถ้าไม่มีกำแพง คนยิงไม่ต้องคิดมาก กดเต็มข้อ ลูกพุ่งตรง ยังไงก็จบ

เผลอๆจ่ายตัววิ่งเอาบอลไปยิงจ่อๆ แล้วพอมีกำแพง ทำไมโกลต้องยืนอีกฝั่ง

ก็เพราะมันไม่เห็นบอล ถ้าไปยืนหลังกำแพง กว่าจะรู้ว่าบอลมาทางไหน

บอลก็ข้ามกำแพงมาละ บางทีอ้อมมาเลย ยังไม่ทันก้าวเท้า บอลก็หายไปกองตาข่ายละ

เหมือนยิงจุดโทษแต่ปิดตาโกลอ่ะ เพราะงั้นป้องกันฟรีคิกมันก็ทำได้เท่านี้แหละ

ถ้าคนยิงเลือกยิงสามเหลี่ยมบนแล้วแม่น จะมุมซ้ายจะขวาก็หมดสิทธิ์ทั้งนั้นถ้าอ่านทิศทางลูกผิด

ระยะห่างระหว่างสองเสา 7 เมตรกว่าๆ ถ้าท่านไม่เคยเห็นเสาประตูจริงลองขีดเล่นๆก็ได้นะ มันบินไม่ทันจริงๆอะถ้ายืนกลางประตูแล้วหลอกยิงเสาไกลนี่ไก่เลยนะ

ในเอเชียนคัพ ศิวรักษ์ตั้งกำแพง 2 คน แหว่งกลางด้วย เพราะอยากให้เขายิงมากกว่า มุมนั้นถ้าเปิดเข้ามาน่ากลัวมาก ที่เล่าคือจะบอกว่า โกลเป็นตัวหลัก

1. บีบให้ยิงไปฝั่งที่กว้างกว่า

เพราะฝั่งที่แคบกว่ามีโอกาสโดนเซฟสูง แต่จะยิงฝั่งที่กว้างกว่าก็ต้องข้ามกำแพง ซึ่งไม่ค่อยสามารถยิงเต็มข้อได้ พอต้องปั่นความเร็วก็น้อยลงจนโกลด์พอพุ่งทันได้ถ้าไม่คมจริงๆ และมันไม่ได้ยิงได้ง่ายๆ คนที่ยิงฟรีคิกเทพๆยังยิงได้ไม่เข้าทุกลูกเลย

2. ถ้ายืนตรงกลาง ฝั่งที่ไม่มีกำแพงก็โอกาสประตูแทบจะ 100%

เพราะแค่ยิงไปแรงๆก็พอ ประตูโล่งๆ ยังไงก็มาเซฟไม่ทัน

3. ถ้ายืนตรงกลางจะมองเห็นลูกได้ยากกว่า

ทีนี้ต้องเดาไม่ก็รอดูว่าบอลมายังไง ซึ่งก็คงขยับไม่ทันแล้ว

4. มันไม่ใช่หน้าที่ของประตูคนเดียว

กำแพงและคนอื่นๆก็ต้องช่วยด้วย เขาก็ทำหน้าที่อยู่ ไม่ใช่ไม้ประดับ

ป.ล.ไม่นับพวกยิงเลียดลอดกำแพง

ยืนตรงกลางก็ไม่ใช่ว่าจะพุ่งปัดตรงสามเหลี่ยมถึงนะครับ

แล้วนักบอลอาชีพยิงแม่นด้วย เล็งสามเหลี่ยมชิวๆคับ

นี่ยังไม่รวมถึงมองไม่เห็นกำแพงบังด้วยนะ