เคียซ่าทำแสบ!มิลานบู่อีกแล้วพ่ายฟิออฯ 1-0 ไร้ชัย 4 เกมติด
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เอซี มิลานยังไม่ฟื้นสักทีเกมนี้อุตส่าห์มีโอกาสดีๆกว่าแต่จบไม่คมพอสุดท้ายเจอเฟเดริโก้ เคียซ่าลงโทษยิงตรงกรอบหนเดียวเป็นประตูชัย รอสโซเนรี่พ่ายต่อม่วงมหากาฬ 1-0 หาชัยไม่เจอ 4 เกมติดและหล่นลงมาอยู่ในอันดับ 5 ของตาราง
เอซี มิลาน
Starting Formation: 4-3-3
20.
อิกนาซิโอ อบาเต้
83'
6.0
4.
โฮเซ่ เมารี
67'
6.0
7.
ซามู กาสติเญโฆ่
68'
5.5
ตัวสำรอง
12.
อันเดรีย คอนติ
83'
-
93.
ดิเอโก้ ลาซาลท์
68'
5.5
63.
ปาทริค คูโตรเน่
67'
5.5
ฟุตบอลเซเรีย อา
สนาม ซาน ซิโร่
วันที่ 22 ธันวาคม 2561
กรรมการ เมาริซิโอ มาเรียนี่
เอซี มิลาน
0
1
ฟิออเรนติน่า
มิลานขาดกองกลางไปสองคนเลยต้องมีการปรับ ด้วยการดันคาลาเบรียมายืนขัดตาทัพร่วมกับเมารีและให้ชัลฮาโนกลูลงมาปั้นเกม ด้านปีกซ้ายเลยเป็นโอกาสของกาสติเญโฆ่ลงเล่น
ฝั่งฟิออเรนติน่าปรับมาใช้ระบบหลังสี่อีกครั้ง โดยมีมิเลนโควิชกับเวอเรอตูต์พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวจริง และมิราญาสได้เป็นตัวจริงต่ออีกนัด
ชัลฮาโนกลูมีโอกาสยิงสองหนต้นเกมยังไม่เป็นประตู
ต้นเกมมิลานหาโอกาสทักทายไปได้แล้ว จากจังหวะชัลฮาโนกลูยิงไกลทั้งสองทีแต่ก็โดนเซฟกับออกหลัง ส่วนฟิออเรนติน่าลองลุ้นจากบิรากี้ยิงนอกเขตโทษไม่เข้ากรอบ
ยังไม่เฮ!ชัลฮาโนกลูทำชิ่งมาได้ซัดหลุดกรอบ
มิลานมาหาโอกาสลุ้นได้อีกครั้งจากจังหวะชัลฮากโนกลูหน้าเขตโทษทำชิ่งกับซูโซ่เข้ามาในเขตโทษ ปั้มบอลผ่านกองหลังไปได้ก่อนจะสับไกส่งบอลหลุดกรอบไป
เบนาสซี่ลองยิงไกลก็ไม่ใกล้เคียง
ฟิออฯพยายามตอบโต้บ้างเมื่อเบนาสซี่รับบอลมาจากเวอเรอตูต์ สุดท้ายตัดสินใจลองยิงไกลแต่ก็ยังห่างจากปากประตูไปเยอะ
ยังไม่ผ่าน!โรดริเกซยิงอัดเต็มข้อเจอเซฟได้
มิลานดูทำได้ดีกว่าจังหวะนี้ขึ้นมาขึงที่เขตโทษฟิออฯเปิดไปสองทีโดนสกัดได้ สุดท้ายบอลออกมาหน้าเขตโทษเข้าทางโรดริเกซสับไกสวนมาติดเซฟลาฟงต์
เกมยังมีโอกาสจังๆไม่ค่อยมาก
ผ่านเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกแล้ว ในเกมเห็นมิลานทำเกมบุกมาเป็นระยะๆแต่จะฝั่งไหนก็ยังสร้างโอกาสยิงแบบจะๆจังๆไม่ค่อยได้
ชัลฮาโนกลูยิงผ่านลาฟงต์ไปแล้วแต่โดนเคลียร์หน้าประตู
ก่อนหมดครึ่งแรกมิลานหวิดได้ประตูนำในจังหวะทุ่มเข้าเขตโทษ แล้วมีคาลาเบรียสอดมาตวัดไปหน้าประตูไม่มีใครชาร์จได้แต่ยังหลุดมาถึงชัลฮาโนกลูว่างๆทางซ้าย จบด้วยการยิงผ่านลาฟงต์ไปแล้วแต่มีตัวคุมเส้นอยู่เตะทิ้งออกมา
คาลาเบรียลองยิงจากหน้าเขตโทษหลุดเสา
ครึ่งหลังลุยกันต่อมิลานเดินหน้าสร้างจังหวะยิงต่อไป คราวนี้อิกวาอินจ่ายมาให้คาลาเบรียหน้าเขตโทษได้ลองสับไกแต่ยังปลิ้นหลุดเสาออกหลัง
ฟิออฯมาลุ้นบ้างมิราญาสงัดข้ามคาน
ฟิออฯมาลุ้นบ้างด้วยการขึ้นเกมทางขวาเบนาสซี่เป็นคนเปิดเข้ามาในเขตโทษ มิราญาสโดนประกบแต่ยังจับบอลได้แล้วพยายามกลับตัวยิงยังงัดโด่งข้ามคาน
ยังไม่ผ่าน!ซูโซ่ล็อกหลบมาสองก่อนยิงติดเซฟเสาแรก
มิลานลุยกันมาอีกครั้งด้วยบอลที่มาอยู่กับซูโซ่ทางขวา ก่อนล็อกหลอกตัวประกบเข้าเขตโทษมาได้ตามด้วยล็อกหนีตัวสไลด์อีกทีนึงแล้วค่อยยิงอัดเสาแรกแต่ลาฟงต์ยืนปิดมุมเซฟไว้
ซูโซ่เปิดถึงอิกวาอินโหม่งเช็ดยังโดนลาฟงต์เซฟ
มิลานสร้างโอกาสดีๆได้อีกแล้ว เป็นซูโซ่คนเดิมที่หนนี้ลากตัดเข้ามาด้านในแล้วเปิดหยอดเข้าเขตโทษจบด้วยอิกวาอินขึ้นโหม่งเช็ดยังถูกลาฟงต์บินเซฟได้
ฟิออฯลองลุ้นจากฟรีคิกแต่อูโก้โหม่งไม่เข้า
ฟิออฯมาได้ลูกฟรีคิกพอเป็นโอกาสให้ลุ้นหน่อย เวอเรอตูต์รับหน้าที่เปิดแล้วมาถึงหัวของอูโก้แต่ก็โหม่งไม่เข้ากรอบ
มิลานปรับแนวรุกเอาลาซาลท์,คูโตรเน่ลงมาช่วย
มิลานพยายามปรับเกมรุกแล้วด้วยการถอดกาสติเญโฆ่และเมารีออก ก่อนจะส่งลาซาลท์มาทำหน้าที่กราบซ้ายและคูโตรเน่ลงมาเติมแดนหน้า
ตรงกรอบปุ๊ปตุงเลย!เคียซ่ามาเองส่องหน้าเขตโทษส่งฟิออฯนำ
แต่แล้วฟิออฯที่ก่อนหน้านี้ยิงไม่ตรงกรอบเลยกลับมาเอาประตูแรกสำเร็จ เมื่อเวอเรอตูต์ฝากบอลให้กับเคียซ่าทางซ้ายค่อยๆลากตัดเข้ามาถึงหน้าเขตโทษก่อนจะยิงส่งบอลกระดอนเสียบเสาไกล ฟิออฯนำเลย 1-0
มิลานท่าจะแย่เกมเหมือนช็อตหาโอกาสไม่ได้
เข้าท้ายเกมแล้วพอมิลานโดนนำก็เหมือนเกมของตัวเองช็อตไป แถมพอหันมาใช้กองหน้าสองคนแล้วจะเปิดบอลเข้าไปลุ้นก็ทำอะไรไมไ่ด้มาก
คอนติคัมแบ็คแล้วลงแทนอบาเต้
มิลานตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายด้วยการถอดอบาเต้ออก แล้วส่งคอนติที่หายจากการลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ไปนานลงมาทำหน้าที่แบ็คขวาแทน
ซูโซ่เปิดมาถึงโรดริเกซโหม่งยังถูกปัดข้ามคาน
มิลานกลับมามีลุ้นอีกรอบจากบอลครอสไปทีแรกไม่มีอะไร แต่จังหวะสองซูโซ่เปิดเฉือนๆเข้ามาแล้วโรดริเกซโหม่งได้ยังถูกลาฟงต์ปัดข้ามคานไปก่อน
จบเกมมิลานยังบู่เหมือนเดิมพ่ายต่อฟิออฯ 1-0 ทำให้ 4 เกมหลังสุดพวกเขาหาชัยชนะไม่เจอและหล่นลงมาเป็นอันดับ 5 ในตารางแล้วตามหลังลาซิโอแต้มนึง
ฟิออเรนติน่า
Starting Formation: 4-3-3
3.
คริสเตียโน่ บิรากี้
62'
6.0
26.
เอดิมิลสัน แฟร์นานเดส
6.0
24.
มาร์โก้ เบนาสซี่
87'
6.0
9.
โจวานนี่ ซิเมโอเน่
88'
6.0
ตัวสำรอง
2.
วินเซนต์ เลารินี่
87'
-
10.
มาร์โก้ เปียซ่า
88'
-
8.
เกร์สัน
62'
6.0
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Dec 23, 2018 07:12, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ