KDB รีเทิร์นยิง!"เรือ"นำก่อนเจ๊า 1-1 ดวลโทษดับจิ้งจอก 3-1 ลิ่วตัดเชือก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแบบชุดผสมก่อนบุกไปออกนำก่อน 1-0 จาก เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ แต่ครึ่งหลังโดน เลสเตอร์ ซิตี้ ตีเสมอ 1-1 จาก มาร์ค อัลไบรท์ตัน สุดท้ายต้องตัดสินกันด้วยจุดโทษและเป็นเรือใบสีฟ้าที่แม่นกว่าเอาชนะไป 3-1 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปป้องกันแชมป์คาราบาว คัพต่อไป
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-5-1
21.
บิเซนเต้ อิบอร์ร่า
61'
8.
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
80'
31.
ราชิด เกซซาล
53'
ตัวสำรอง
11.
มาร์ค อัลไบรท์ตัน
61'
14.
ริคาร์โด้ เปเรย์ร่า
80'
10.
เจมส์ แมดดิสัน
53'
คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
สนาม คิง เพาเวอร์
อังคารที่ 18 ธันวาคม 2561
กรรมการ ลี เมสัน
เลสเตอร์ ซิตี้
1
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบรองชนะเลิศด้วยการดวลจุดโทษ 3-1
1-1 มาร์ค อัลไบรท์ตัน 73'
จิ้งจอกมาเน้น,กุนยืนหอกเรือ-KDB หวนตัวจริง
เลสเตอร์ฟอร์มหลังไม่ดีแพ้มา 2 นัดติดและไม่ชนะใมนลีกมา 3 นัดติด วันนี้ได้โอกาสเล่นในบ้านปูแอลก็เน้นพอสมควรโดยส่งอิเฮียนาโช่ค้ำหน้าและมีเกรย์,เกซซาลป่วนริมเส้น ฝั่งซิตี้มาแบบชุดผสมแต่ยังมีอเกวโร่ค้ำหน้า ดิอาซ,มาห์เรซขนาบ และเดอ บรอยน์คุมกลาง
- เจอกัน 5 นัดหลัง ซิตี้ชนะ 3 เสมอ 1 เลสเตอร์ชนพ 1
หมดจรด!KDB ตะบันเสียบเสาแรกเรื่อแล่น 1-0
แล้วเล่นไปไม่นานซิตี้ที่มาดีกว่าก็ได้ประตูออกนำไปก่อนเลย จังหวะที่เหมือนไม่มีอะไรเดอ บรอยน์รับบอลจากโอตาเมนด้หน้ากรอบฝั่งซ้ายและมีผู้เล่นเลสเตอร์ยืนขวางอยู่ เขาเลือกไขว้หลบเชาดูรี่เข้าขวาแล้วซัดทันที บอลพุ่งเรียดเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม 1-0 เลย เป็นประตูแรกของเขาในฤดูกาลนี้ด้วย
มาห์เรซวอลเลย์หลุดคาน
เรือใบยังบุกต่อเนื่อง จังหวะนี้โฟเด้นโผล่ไปเอาบอลลงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เขาแต่งปั่นด้วยขวาแล้วบอลไปแฉลบซิมพ์สันกระดอนไปเสาสองเข้าทางมาห์เรซที่ง้างวอลเลย์ด้วยซ้ายข้ามคาน
เกรย์ซัดแฉลบเจ้าถิ่นเกือบเฮ
เลสเตอร์สวนขึ้นมาและน่าได้ประตูตีเสมอ จังหวะที่เกรย์รับบอลจากฟุคส์ทางหน้ากรอบฝั่งซ้ายเขาเลี้ยงตัดเข้าขวาแล้วซัดไปแฉลบเอริคทำให้บอลพุ่งเรียดไปทางเสาสอง ทำให้มูริชต้องล้มตัวปัดเป็นลูกเตะมุม
จิ้งจอกสวนอิเฮีนาโช่ปั่นข้ามคาน
เลสเตอร์เล่นเกมสวนกลับเร็ว เกรย์ได้บอลกลางสนามก่อนแทงให้อิเฮียนาโช่ทางกรอบฝั่งขวา เขาเลือกล็อคตัดเข้าซ้ายแล้วปั่นทันทีแต่บอลก็พุ่งโค้งข้ามคานไป
KDฺB ซัดลูกแรกของซีซั่นพาเรือแล่นนำ
ซิตี้ได้ประตูนำเร็วจากเดอ บรอยน์นาที 14 ทำให้พวกเขาเล่นง่ายครองบอลบุกไปเรื่อยๆ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบครึ่งแรกและเป็นฝั่งเลสเตอร์ที่เสียเปรียบในครึ่งหลัง
กุนได้ซัดติดเซฟวอร์ด
เริ่มครึ่งหลังมาเป็นเรือใบที่ได้ลุ้นเอาประตูหนีห่าง จังหวะที่มาห์เรซแทงบอลให้อเกวโร่หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลพุ่งติดเซฟวอร์ดเสียได้
แม็กไกวร์ได้โขกแต่ก็เบาเกิน
เลสเตอร์พยายามเปิดเกมบุกเพื่อเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้แมดดิสันได้วางเท้าเปิดบอลจากริมเส้้นฝั่งขวาเข้าไปตรงกลางให้แม็กไกวร์เทคโหม่งไม่ถนัดก่อนที่บอลจะเด้งไปเข้ามือมูริชสบาย
มาห์เรซปั่นด้วยซ้ายหลุดสามเหลี่ยม
ซิตี้เกือบได้ประตูทีสองเหมือนกันจังหวะต่อบอลกันเป็นทอดๆ เริ่มจากสเตอร์ลิงที่แทงให้อเกวโร่ในกรอบฝั่งซ้ายก่อนที่เขาจะปาดกลับไปหน้าประตูให้โฟเด้นป้ายต่อให้มาห์เรซวิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งหลุดสามเหลี่ยมไปแบบได้ลุ้น เกือบซัดทีมเก่าได้อีกหน
ทีเด็ด!อัลไบรท์ตันสำรองตะบันเจ๊า 1-1
แล้วความพยายามของเลสเตอร์ก็เป็นผลจนได้ จังหวะที่เอ็นดิดี้วางบอลจากวงกลมกลางสนามข้ามแผงหลังซิตี้ให้อัลไบรท์ตันหลุดเข้าไปเอาลงในกรอบฝั่งขวาก่อนตะบันเต็มข้อสวนมูริชตุงตาข่ายอย่างมันส์ 1-1 ไปเลย
มาห์เรซเอียงแปแต่ไม่คมพอ
ซิตี้สวนขึ้นมาเป็นแผงน่ากลัว โฟเด้นกระชากมาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงออกขวาให้มาห์เรซแต่งแล้วเอียงตัวแปด้วยซ้ายบอลลอดขาโซยุนชูก่อนจะพุ่งหลุดเสาสองออกหลังไป
โฟเด้นได้ซัดแต่หลุดกรอบ
กุนโดกันแทงบอลให้โฟเด้นหลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษแต่เขาก็ยิงไม่ดีหลุดกรอบออกหลังไป
เรือแม่นเป้าดับจิ้งจอกลิ่วตัดเชือก
สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่มทำให้จบเกมเสมอกันไป 1-1 ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ โดยเป็นฝั่งเลสเตอร์ที่ได้ยิงก่อน
คนแรก
- แม็กไกวร์ (เข้า)
- กุนโดกัน (เข้า)
คนที่สอง
- ฟุคส์ (ไม่เข้า,ข้ามคาน)
- สเตอร์ลิง (ไม่เข้า,ข้ามคาน)
คนที่สาม
- แมดดิสัน (ไม่เข้า,ติดเซฟ)
- เชซุส (เข้า)
คนที่สี่
- โซยุนชู (ไม่เข้า,ติดเซฟ)
- ซินเชนโก้ (เข้า)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
17.
เควิน เดอ บรอยน์
71'
10.
แซร์กิโอ อเกวโร่
75'
55.
บราฮิม ดิอาซ
66'
ตัวสำรอง
8.
อิลคาย กุนโดกัน
71'
7.
ราฮีม สเตอร์ลิง
66'
33.
กาเบรียล เชซุส
75'
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Dec 19, 2018 06:38, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
ดิอาซยังต้องพัฒนาเรื่องการตัดสินใจอีกเยอะเลย ยังหวงบอล หวงยิงอยู่ เห้อผ่านเข้าไปจนได้ ขอบใจมูริซจริง ๆ 
My Locker
