อิคาร์ดี้กู้คืน!งูน้ำตาร่วงคาบ้านไล่พีเอสวี 1-1 หล่นCL
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เมาโร อิคาร์ดี้ โคตรเพชฌฆาตทีมอินเตอร์ มิลานอุตส่าห์โหม่งช่วยตีเสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 1-1 แต่สุดท้ายแพ้ภัยตัวเองกระเด็นตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีกแม้มีแต้มเท่า สเปอร์ส แต่ตกรอบด้วยเฮด-ทู-เฮดอเวย์โกลได้ไปเล่นยูโรป้า ลีกปลอบใจ
อินเตอร์ มิลาน
Starting Formation: 4-2-3-1
18.
ควาดโว่ อซาโมอาห์
69'
87.
อันโตนิโอ คันเดรว่า
56'
16.
มัตเตโอ โปลิตาโน่
83'
ตัวสำรอง
2.
ซิม เวอร์ซัลโก้
83'
11.
เกต้า บัลเด้
56'
10.
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
69'
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม บี
สนาม จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า
วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561
กรรมการ เฟลิกซ์ ซอว์เยอร์
อินเตอร์ มิลาน
1
1
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
0-1 เออร์วิ่ง โลซาโน่ 13'
อิคาร์ดี้ล่าสกอร์
ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือทีมอินเตอร์ มิลานไม่เสี่ยงใช้ ราดย่า เนียงโกลัน มิดฟิลด์ขาบู๊ฟิตไม่เต็มร้อยส่วน เจา มาริโอ มิดฟิลด์ตัวรุกบาดเจ็บดังนั้นจึงเป็นโอกาส มัตเตโอ โปลิตาโน่ เล่นสามประสานร่วมกับ อิวาน เปริซิช ห้อย เมาโร อิคาร์ดี้ ค้ำหน้า
มาร์ค ฟาน บอมเมล เฮดโค้ชพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นจำยอมพัก มักซิมิเลียโน่ โรเมโร่ ดาวยิงไว้ข้างสนามปล่อยให้ ลุค เดอ ยอง ค้ำหอกเดี่ยว
งูใหญ่ไร้ดวง...เปริซิชโขกชนเสา
เปิดฉากแค่ 5 นาทีเศษๆเท่านั้น งูใหญ่ เกือบพลิกขึ้นนำเร็วจากจังหวะ อิคาร์ดี้ ลงมาล้วงลึกก่อนโยนไปยังเสาสองเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย เปริซิช วิ่งเติมจากแถวสองทะลุขึ้นมาโหม่งเหน่งๆชนเสาเหลี่ยมนอกกระดอนออกหลัง
งูงานเข้า...โลซาโน่โขกพลิกนำ 1-0
หลังจากนั้น อินเตอร์ ครองเกมบุกไว้ได้แทบทั้งหมดแต่แล้วนาที 13 พีเอสวีบุกครั้งแรกขึ้นนำทันทีจากความผิดพลาดของ อซาโมอาห์ เสียท่าโดน เบิร์กไวจ์น วิ่งมาจากข้างหลังขโมยบอลหลุดเขตโทษฝั่งขวาก่อนโยนไปเสาสอง โลซาโน่ ตั้งคอรอโหม่งเผาขนไม่เหลือ
หวิด 0-2...เดอ ยองหลุดเดี่ยวแล้ว
เสียประตูแบบไม่คาดฝันแนวรับอินเตอร์ปั่นป่วนอีก 2 นาทีต่อมาเกือบหนีเป็น 2-0 จาก อซาโมอาห์ ผิดพลาดอีกแล้วพยายามล้มตัวสกัดไม่ดีกลายเป็นส่งให้ เดอ ยอง หลุดเดี่ยวยิงล่อเป้าต้องชม ฮันดาโนวิช นายทวารออกมาไวบล็อคเอาไว้
งูรวมสติ...อิคารดี้โขกว่าว
หลังป่วนอยู่พักนึง งูใหญ่ พยายามรวบรวมสติกลับมานาที 17 เปริซิช ได้บอลทางซ้ายก่อนบรรจงโยนไปหน้าปากประตู อิคาร์ดี้ เทคตัวโหม่งไม่โดน
งูรุกหนัก...อิคาร์ดี้แถวสอง
เกมดำเนินมาถึงครึ่งชั่วโมงแรกยังเป็น อินเตอร์ โหมลุยอย่างหนักเพื่อตามตีเสมอ อิคาร์ดี้ ทำชิ่งหนึ่ง-สองกับ เปริซิช กระชากหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจ่ายย้อนหักกลับมาแถวสอง อิคาร์ดี้ วางเท้ายิงเน้นๆหลุดออกนอกกรอบ
งูเสียดาย...เปริซิชเข้าไม่ถึง
เกมยังเป็นของ งูใหญ่ ต้องการประตูตีเสมอให้ได้ โปลิตาโน่ กระชากลากตะลุยมาทางขวาก่อนผ่านไปหน้าปากประตู เปริชิช พยายามวิ่งเข้าหาบอลเข้าไม่ถึง
งูหวิดเงิบอีก...ฮันดาฯเซฟช่วยชีวิต
เข้าสู่ท้ายครึ่งแรกก่อนหมดเวลา 5 นาที อินเตอร์ บุกเพลินๆเจอสวนกลับ เบิร์กไวจ์น กระชากแหวกผ่ากลางก่อนสับไก 25 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดจะมุดเสียบใต้คานยังดี ฮันดาโนวิช นายทวารมือไวปัดปลายนิ้วจบครึ่งแรก งูใหญ่ ตามหลัง 1 ลูก
งูโคตรเสียดาย...อิคาร์ดี้เจอซูเปอร์เซฟ
กลับมาเริ่่มต้นกันใหม่ผ่านไปไม่ถึง 2 นาทีเท่านั้น อินเตอร์ ใกล้เคียงตีเสมอมากที่สุด บาเลโร่ ไหลไปทางซ้ายให้ อิคาร์ดี้ หลุดเข้าไปยิงด้วยอีซ้ายเน้นๆติดซูเปอร์เซฟนายด่านพีเอสวีปัดปลายมือ
โปลิฯเลื้อยมัน
อีก 5 นาทีต่อมา โปลิตาโน่ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวกระชากลากเลื้อยมาทางขวาล็อคหลบกองหลังก่อนยิงยัดเสาแรกนายด่านพีเอสวีรับกระฉอกยังดีบอลหลุดออกหลัง
งูยังเจาะไม่เข้า...บาเลโร่ติดเซฟ
เกมดำเนินครบ 1 ชั่วโมงแรกยังเป็น งูใหญ่ พับสนามบุกหวังทวงคืน อซาโมอาห์ กระชากลากเลื้อยทางซ้ายก่อนโยนเข้าเขตโทษ อิคาร์ดี้ เจอประกบติดโขกชงให้ บาเลโร่ เอี้ยวตัวยิงเข้ามือนายด่านพีเอสวี
เอาคืนได้แล้วเว้ย...อิคาร์ดี้โขก 1-1
แต่แล้วความพยายามของ งูใหญ่ สัมฤทธิ์ผลตามตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 โปลิตาโน่ ขึ้นเกมทางขวาบรรจงหยอดเข้าเขตโทษข้ามฝั่งซ้าย อิคาร์ดี้ ฉีกหนีตัวประกบโขกเบียดเสาแรกเข้าไป
งูประคองเกม...มาร์ติเนซเจอบล็อค
ได้ประตูที่ต้องการแล้ว อินเตอร์ หันมาเน้นรัดกุมยิ่งขึ้นไม่บุกผลีผลามกระทั่งเหลือ 10 นาทีสุดท้ายเล่นสวนกลับ ดัมโบรซิโอ เติมเกมรุกทางขวาก่อนโยนเข้าหัว มาร์ติเนซ ตัวสำรองโหม่งติดบล็อค
เสียดาย...อิคาร์ดี้อดเบิ้ล
แต่แล้วผลการแข่งขันอีกคู่ไม่เป็นใจซะแล้วเพราะ สเปอร์ส ตีเสมอทำให้ อินเตอร์ ต้องเปิดเกมบุกต่อเพื่อทวงคืนให้ได้ทดเจ็บ มาร์ติเนซ แทงทะลุช่องให้ อิคาร์ดี้ กำลังจะหลุดไปยิงล่อเป้าเจอสกัดเส้นยาแดง จบเกมเสมอ 1-1
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
Starting Formation: 4-2-3-1
11.
เออร์วิ่ง โลซาโน่
90'
25.
เอริค กูเตียร์เรซ
65'
17.
สตีเฟ่น เบิร์กไวจน์
71'
ตัวสำรอง
32.
ไมชาล ซาดิเล็ค
65'
14.
ดอนเยลล์ มาเลน
71'
7.
แกสตัน เปไรโร่
90'
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Dec 12, 2018 06:25, ทั้งหมด 16 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ