"อิสโก้-อเซนซิโอ"แค่ 2 คนก็เอาอยู่!"ราชัน"ถล่มรองบ่อน 6-1 ลิ่วเดลเรย์
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
อิสโก้ และมาร์โก อเซนซิโอ เป็นสองแข้งตัวหลักที่สร้างความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อช่วยกันทั้งยิงทั้งจ่าย นำน้องๆสายเลือดใหม่เรอัล มาดริด ไล่ยำใหญ่ เมลิญา กระเจิง 6-1 รวมผล 2 นัดผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โกปา เดล เรย์ ที่สกอร์รวม 10-1
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
2.
ดาเนี่ยล การ์บาฆาล
46'
18.
มาร์กอส ญอเรนเต้
46'
28.
วินิซิอุส จูเนียร์
79'
ตัวสำรอง
36.
อัลบาโร่ ฟิดัลโก้
79'
37.
ฟราน การ์เซีย
46'
24.
ดานี่ เซบาญอส
46'
ฟุตบอลโกปา เดล เรย์ รอบ 32 นัดสุดท้าย นัดสอง
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561
กรรมการ ฆาเบียร์ อัลเบโรล่า
เรอัล มาดริด
6
1
เมลิญา
ผล 2 นัด เรอัล มาดริด เข้ารอบเข้าประตูรวม 10-1
มาร์โก อเซนซิโอ 33'
มาร์โก อเซนซิโอ 35'
ฆาเบียร์ ซานเชซ 39'
อิสโก้ 48'
วินิซิอุส จูเนียร์ 75'
อิสโก้ 83'
ตามฟอร์ม เรอัล มาดริด ปรับเปลี่ยนทีมพอสมควร เมื่อนัดแรกบุกยิงเมลิญา สกอร์ขาดลอยมาแล้วถึง 4-0 ตัวหลักของทีมอย่าง เซร์คิโอ รามอส, ลูก้า โมดริช, คาริม เบนเซม่า, แกเร็ธ เบล, ธีโบต์ คูร์กตัวส์ ได้พักไม่มีชื่อแม้ในม้านั่งสำรอง ส่วน ราฟาเอล วาราน และลูคัส บาสเกซ มีชื่อสแตนด์บาย
อิสโก้ และมาร์โก อเซนซิโอ ได้รับโอกาสเป็นตัวจริง ทั้งคู่ถือเป็นตัวหลักประคองทีมร่วมกับ ดานี่ การ์บาฆาล และมาร์กอส ญอเรนเต้ สองตัวจริงจากเกมชนะบาเลนเซีย
วินิซิอุส จูเนียร์ และมาเรียโน่ ดิอาซ ได้รับโอกาสให้เป็นตัวจริงเกมนี้พร้อมกันดาวรุ่งอีกหลายรายด้วย
เมลิญามาสู้แม้สถานการณ์เป็นรองเยอะ
แม้จะชื่อชั้นห่างกันเยอะแถมสกอร์ก็ซัดกันมาซะขาดลอยไปแล้ว แต่ทีมเยือน เมลิญา ยังแสดงเห็นถึงความตั้งใจยังพยายามเพรสซิ่งสูง เปิดเกมรุกสู้กันเจ้าถิ่นเต็มที่ ซึ่งก็ทำออกมาได้ดี
วินิซิอุสถูกเบียดล้มไม่ได้จุดโทษ
มาดริดมีโอกาสดี จากลูกแทงทะลุช่องของ อิสโก้ ให้วินิชิอุส ถูกเบียดล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไรควักมือให้ลุกขึ้นมาเล่นต่อซะโดยดี
โอกาสทองเมลิญาแต่นาบาสเซฟเยี่ยม
ทีมเยือนทักทายน่ารักน่าลุ้นก่อนเลย จังหวะที่ ฆิลมาร์ ตอร์เรส ยิงไกล บอลไปเข้าทาง กาสมี่ ยิงตามน้ำเปลี่ยนทางเล็กน้อย แต่เคย์เลอร์ นาบาส ยังยอดเยี่ยมพุ่งปัดปลายมือที่โคนเสาได้ทันเวลา
อิสโก้ได้ซัดจ่อๆติดเซฟประตู
เจ้าถิ่นตอบโต้บ้างจากบอลสวนกลับเร็ว อเซนซิโอ หลุดโล่งทางขวา ก่อนจะบรรจงจ่ายเข้ากลางตั้งป้อมให้ อิสโก้ ตามขึ้นมาซัดเต็มข้อ โชคร้ายที่มันมุมไม่พอจะเอาชนะผู้รักษาประตูทีมเยือน
วินิซิอุสได้ลุ้นบ้างก็ติดเซฟอีก
มาดริด มีโอกาสอีกครั้ง เป็นบอลเติมสูงของการ์บาฆาล ก่อนจะจ่ายเข้าไปในเขตโทษให้ วินิซิอุส พลิกตัวหาจังหวะยิงแล้วหวดด้วยขวาเต็มๆ แต่เปโดร หลุยส์ ยังยอดเยี่ยมพุ่งปัดบอลทิ้งไว้ได้
มาเรียโน่จะยิงก็ยังไม่ได้ยิง
มาดริดพลาดโอกาสทองจะขึ้นนำอีกครั้ง เป็นบอลแทงตัดหลังแบ็กสุดสวยของอิสโก้ ให้วินิซิอุส ถึงสุดเส้นหลังแล้วจ่ายตัดไปที่เสาไกล มาเรียโน่ ดิอาซ ปุเลงๆลูปปากง้างเท้าเตรียมได้อัดโล่งๆอยู่แล้ว ที่ไหนได้ มาฮานาน เซ็นเตอร์ฯทีมเยือนยังตามมาทิ้งตัวสไลด์เคลียร์บอลทิ้งได้ทัน
วินิซิอุสซัดจ่อๆหลุดกรอบไปไกล
อิสโก้ โดดเด่น สร้างสรรค์เกมรุกให้ทีมได้มีโอกาสเยอะมาก จังหวะนี้ไหลบอลในเขตโทษออกซ้ายให้ วินิซิอุส ได้ยิงโล่งๆ ก็ดันยิงนกออกไปไกลอีก
อเซนซิโอปั้นเอง-ยิงเองยอดเยี่ยมมาก
อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนก็ไม่รอดถูกยิงนำ 1-0 อยู่ดี จากความยอดเยี่ยมของ อเซนซิโอ ไม่ซงไม่ส่งมันแล้ว รับบอลริมเส้นบริเวณกลางสนามฝั่งขวาแล้วลากลุยลากตัดเข้าในเขตโทษเข้าระยะทำการแต่งบอลเข้าขวาแล้วหวดหายเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบคม
อเซนซิโอคนเดมิเบิ้ล 2-0 อย่างไว
สกอร์ 2-0 ไหลมาอย่างไว คราวนี้เป็น วินิซิอุส ปั้นเกมขึ้นทางซ้าย เลี้ยงจี้เอาชนะกองหลังจนสุดเส้นหลังแล้วคัทแบ็กกลับคืนมาที่เสาไหล เป็นอเซนซิโอ คนเดิม อัดเต็มเหนี่ยวไม่เหลือซาก
สกอร์ไหล 3-0 ซานเชซยิงได้
จบแล้วทีมเยือน สกอร์ไหลเป็นนำ 3-0 เมื่อ อเซนซิโอ วางบอลยาวห้ามแนวรับให้ ฆาเบียร์ ซานเชซ เอาชนะกับดักล้ำหน้าเข้าไปกระดกบอลข้ามหัวเปโดร หลุยส์ ทำประตูที่สามให้เจ้าถิ่น
แค่ครึ่งแรกมาดริดรัวไม่รั้ง 3-0 เข้าไปแล้ว
จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ขึ้นนำห่าง 3-0 จากความยอดเยี่ยมของ อเซนซิโอ และอิสโก้ ที่่ช่วยกันสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในเกมนี้
แบ่งเพื่อนเล่นบ้าง,มาดริดเปลี่ยน2ตัวเลย
มาดริด นำขาดแล้วก็เลยเปิดโอกาสให้บรรดาดาวรุ่งตัวสำรองได้ลงมายืดเส้นยืดสายหาประสบการณ์บ้าง ด้วยการส่ง ดาเนียล เซบาญอส และฟรานซิสโก้ การ์เซีย ลงสนาม
อิสโก้เท้าชั่งทองยิงไกลคมมาก
สู้กันได้แปปเดียว มาดริด ก็หนีห่างเป็น 4-0 จากลูกยิงไกลอันยอดเยี่ยมของ อิสโก้ ที่ชั่งน้ำหนักและทิศทางเหมาะเจาะฮุคตกใต้คานพอดี สุดปัญญาที่เปโดร หลุยส์ จะป้องกัน
วินิซิอุสก็ยังหาประตูให้ตัวเองไม่เจอ
วินิซิอุส น่าจะบวกสกอร์เพิ่มได้ จากความผิดพลาดจากองหลังเมลิญา ที่เงอะงะออกบอลช้าเลยโดนแย่งบอลไปได้ที่หน้าเขตโทษตัวเอง แต่จังหวะสุดท้ายก็ต้องชมเปโดร หลุยส์ อีกที่ใช้มือปัดลูกยิงเผาขนของดาวรุ่งบราซิเลี่ยนได้ฉิวเฉียด
เจ้าถิ่นคอนโทรลเกมไว้ได้หมดแล้ว
เกมผ่านมาถึงกลางครึ่งหลัง มาดริด คุมเกมเอาไว้ได้หมดแล้ว ขึ้นอยู่แค่ว่าจะมีบวกเพิ่มได้อีกกี่ประตูเท่านั้น
เฮ!ดีใจด้วยวินิซิอุสยิงได้แล้ว
ในที่สุด วินิซิอุส ก็ยิงได้สักที จากเกมโต้กลับเร็ว บอลถูกถ่ายออกทางขวา วินิซิอุส ใช้ความคล่องตัวเลี้ยงตัดเข้าในได้ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟเปโดร หลุยส์ บอลกระเฉาะมาให้เขาแก้ตัวอีกครั้ง คราวนี้ไม่พลาด มาดริด ถล่มไป 5-0 แล้ว
นาบาสยอดเยี่ยมเซฟช่วยทีมเยี่ยม
เมลิญา นานๆได้ลุ้นสักครั้งจากลุกยิงไกลสุดคม แต่ต้องชม นาบาส ที่มาตรฐานเยี่ยมยังพุ่งปัดเซฟทีมเอาไว้ได้
เซ็งเลยมาดริดเสียจุดโทษ
มาดริด เสียงซิงท้ายเกม เมื่อ กาสมี่ สบโอกาสพาบอลเข้าไปลุ้นในเขตโทษแล้วโดนซานเชซเกี่ยวล้ม ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที
กาสมี่ซัดโทษตีไข่แตก 5-1
และก็เป็น กาสซี่ ที่ลุ้นขึ้นมาทำหน้าที่เอง ซึ่งก็ไม่พลาด ปล่อยให้นาบาส พุ่งผิดไปอีกทาง มาดริด นำ 5-1
อิสโก้ซัดคืนทันควัน,มาดริด 6-1
ดีใจได้แค่แปปเดียว มาดริดก็แก้คืนทันควัน เป็นบอลหลุดทางซ้าย และตัวสำรอง ฟราน การ์เซีย เปิดบอลเข้าในเขตโทษให้ อิสโก้ ซัดจ่อๆไร้ตัวประกบทำประตูที่ 2 ให้ตัวเอง และประตูที่ 6 ให้ทีม หนีห่าง 6-1
ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ เรอัล มาดริด ห่างชั้นกว่าไล่ถล่งเมลิญาเละเทะ 6-1 รวมนัดแรกอีก 4-0 เข้ารอบไปแบบสบายๆ
เมลิญา
Starting Formation: 4-4-2
11.
ฆวน รามอน รูอาโน่
56'
10.
ฆวน คาร์ลอส เมนูโด้
60'
8.
โมฮาเหม็ด มิซเซียน
46'
ตัวสำรอง
13.
ดานี่ บาร์ริโอ
60'
17.
บราฮิม อามาร์
56'
14.
อันโตนิโอ โอเตกี
46'
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Fri Dec 07, 2018 00:26, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ