นอกบ้าน 3 นัด 0 แต้ม!! หงส์ต้านไม่ไหว PSG จิ้ม 2-1 วัดดวงนัดท้าย
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ผู้ใหญ่ใจดีออกนอกบ้านขอแค่มาทัวร์เมื่อ ลิเวอร์พูล ตกที่นั่งลำบากจากการบุกมาพ่ายให้ปารีส แซง แชร์กแมง 2-1 ทำสถิติแพ้รวดนัดเยือนทั้ง 3 นัดร่วงไปอยู่ที่ 3 และนัดสุดท้ายต้องชนะ นาโปลี ในแอนฟิลด์ด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งจะทำให้ประตูได้เสียเท่ากันแต่ลูกยิงมากกว่าจึงเข้ารอบน็อกเอาท์แต่ถ้าชนะ 2-1 จะเป็นตัวแทนจากอิตาลีเข้าแทนด้วยกฏอเวย์โกล์จาก H2H
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
Starting Formation: 4-4-2
9.
เอดินสัน คาวานี่
65'
6
11.
อังเคล ดิ มาเรีย
65'
6
7.
คิลิยัน เอ็มบาปเป้
85'
6.5
ตัวสำรอง
13.
ดานี่ อัลเวส
65'
6
17.
มักซีม ชูโป-โมติง
65'
6
25.
อาเดรียน ราบิโอต์
85'
6
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี
สนาม ปาร์ค เดส์ แพรงส์
พุธที่ 28 พฤศจิกายน 2561
กรรมการ ซีม่อน มาร์ซิเนียค
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
2
1
ลิเวอร์พูล
1-0 ฮวน แบร์นาต 13'
2-0 เนย์มาร์ 37'
2-1 เจมส์ มิลเนอร์ 45+1' (Pen.)
เกมสำคัญของทั้งสองทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมงได้ข่าวดีเมื่อสตาร์อย่างเนย์มาร์และคิลิยัน เอ็มบาปเป้หายเจ็บกลับมาเป็นตัวจริงได้ทำเกมรุกกับอังเคล ดิ มาเรียโดยมีติอาโก้ ซิลวากับจานลุยจิ บุฟฟ่อนเป็นหลักในแนวรุกโดยพวกเขาห้ามแพ้หากหวังเข้ารอบต่อไป ด้านลิเวอร์พูลใส่นักเตะชุดใหญ่เช่นกันโดยมีการปรับโจ โกเมซลงมายืนแบ็คขวาขณะที่จอร์แดน เฮนเดอร์สันปักหลักคุมแดนกลางแล้วเจมส์ มิลเนอร์ลงมาไล่บอลอีกคนส่วนแดนหน้าเป็นสามประสานเหมือนเดิม
เนย์มาร์ได้ส่องเข้ามืออลิสซอน
ปารีสเปิดเกมบุกตั้งแต่แรกเลยแล้วจังหวะนี้มาได้จบเมื่อเอ็มบาปเป้ไหลบอลต่อไปให้เนย์มาร์แต่งบอลจนหาช่องเจอแล้วส่องด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแต่ไม่ผ่านอลิสซอนที่ปักหลักรับเอาไว้ทัน
หงส์งานเข้า!VvD สกัดเข้าตีนแบร์นาตยิง 1-0
เปแอสเชได้ประตูขึ้นนำแล้วจากจังหวะทะลุขึ้นมากลางสนามของแวร์รัตติแล้วทะลุช่องไปให้เอ็มบาปเป้ยัดบอลเข้ากลางฟาน ไดจ์คเคลียร์ไม่ดีบอลไปเข้าทางแบร์นาตจับบอลได้ก่อนหลอกยิงทางเสาแรกอลิสซอนได้แต่ยืนมองบอลเข้าไปตุงตาข่าย
ซาลาห์ได้ยิงหลุดกรอบ
ลิเวอร์พูลมีโอกาสลุ้นบ้างเมื่อมิลเนอร์ได้บอลริมเส้นด้านขวาแล้วตวัดเรียดกลับมาให้ซาลาห์จับบอลได้แล้วตัดสินใจยิงไปที่เสาแรกทันทีแต่มุมบีบเกินไปบอลหลุดออกหลังไปเท่านั้น
ปารีสสวนได้เสียว
ปารีสสวนกลับได้สวยอีกแล้วเนย์มาร์กระชากบอลทะลุตรงกลางขึ้นมาแล้วไหลออกซ้ายให้เอ็มบาปเป้พยายามตบเข้ากลางให้คาวานี่แต่อลิสซอนอ่านเกมออกมาปัดบอลเอาไว้ได้ก่อนแล้วโรเบิร์ตสันช่วยเคลียร์ทิ้งอีกที
หงส์แย่แล้ว!เนย์มาร์ซ้ำไม่เหลือ 2-0
ความเร็วของแนวรุกของเปแอสเชทำให้ได้ประตูอีกแล้วเป็นเอ็มบาปเป้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วตบเข้ากลางคาวานี่เข้าชาร์จไปติดเซฟอลิสซอนบอลกระดอนมาเข้าทางของเนย์มาร์แปซ้ำเข้าไปเสียบเสาไม่พลาด 2-0 ลิเวอร์พูลลำบากหนักแล้ว
หงส์บุกไม่ได้ลุ้น
จนถึงตอนนี้หงส์แดงยังยิงไม่ตรงกรอบเลยคราวนี้เป็นการเปิดบอลยาวมาให้ซาลาห์พยายามพุ่งเข้าชาร์ตแต่ไม่โดนบอลออกหลังไปเลยแล้ว
มาเน่เรียกโทษ!มิลเนอร์กดตาม 1-2
จังหวะต่อมา มาเน่กระชากเข้ากรอบเขตโทษก่อนโดนดิ มาเรียเสียบล้มลงไปตอนแรกกรรมการเป่าเป็นออกหลังแต่เปลี่ยนใจกลับมาให้จุดโทษ โดยที่มิลเนอร์รับหน้าที่สังหารผ่านบุฟฟ่อนที่พุ่งผิดทางเข้าไปตามมาเป็น 1-2
มาร์ควินญอสชาร์จตุงโดนจับล้ำก่อน
ปารีสลงสนามมาไม่ทันไรส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายก่อนเลยจากฟรีคิกริมเส้นด้านซ้ายเนย์มาร์เปิดบอลเข้ากลางให้มาร์ควินญอสโฉบมาจิ้มบอลตุงตาข่ายแต่ไลน์แมนยกธงว่าเขาล้ำหน้าไปแล้ว
ฟีโน่โขกหายออกหลัง
ลงมาครึ่งหลังลิเวอร์พูลบีบเอาบอลมาบุกได้ตลอดคราวนี้มาได้ลุ้นเมื่อโรเบิร์ตสันเปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายไปทางเสาแรกให้ฟิร์เมียโน่พยายามสะบัดโขกแต่บอลก็หลุดกรอบไปไกลทีเดียว
อลิสซอนเซฟ!มาร์ควินญอสโขกเต็มหัว
ปารีสเกือบได้ประตูอีกแล้วจากจังหวะเปิดบอลมาจากริมเส้นด้านขวามาเข้าหัวของมาร์ควินญอสกระโดดมาโขกเต็มหัวเลยแต่ต้องชมอลิสซอนที่ยืนตำแหน่งดีปัดบอลทิ้งไปได้ก่อนไม่งั้นเข้าประตูแน่นอน
JK เปิดหน้าส่งชากิรี่เติมเกมบุก
เกมเข้าสู่ช่วงท้ายแล้วคล็อปป์ไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมบุกมากขึ้นจัดการเปลี่ยนเซอร์ดาน ชากิรี่ลงไปเพิ่มออปชั่นในเกมบุกแทนตำแหน่งของเจมส์ มิลเนอร์ที่ออกมาพักก่อน
ทูเคิ่ลหัวร้อน!เนย์มาร์ร่วงจะเอาโทษ
แฟนลิเวอร์พูลใจหายวาบเลยเมื่อเนย์มาร์กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วล็อคหลอกโดนฟาน ไดจ์คเข้ามาปั๊มบอลสตาร์แซมบ้าล้มลงไปแต่กรรมการชี้ไปที่บอลไม่ได้เป็นการฟาวล์แต่อย่างใด
น้องเป้หลุดไม่ผ่านโรเบิร์ต สายควัน
เฮนเดอร์สันเปิดบอลเข้ากลางเบาเกินไปทำให้โดนปารีสตัดบอลสวนกลับเร็วเป็นทางแวร์รัตติแทงบอลไปให้เอ็มบาปเป้กระชากเข้ากรอบเขตโทษแต่ต้องชมโรเบิร์ตสันไม่เข้าพรวดพยายามบังทางเอาไว้ก่อนดาวยิงน้ำหอมซัดออกหลังไปเอง
หงส์ฟรีคิกเสียของ
หงส์แดงได้ลุ้นอีกทีจากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะ 23 หลาเยื้องไปทางขวาเข้าทางของชากิรี่เล่นสูตรโยนไปทางเสาไกลให้ลอฟเรนโขกแต่กรรมการเป่าแล้วว่าเป็นการฟาวล์ฟาน ไดจ์คไปเหนี่ยวติอาโก้เอาไว้
หงส์พ่ายต้องวัดดวงเกมชี้ชะตา
หมดเวลาการแข่งขันปารีสทำได้ตามเป้าเอาชนะเพิ่มขึ้นมาเป็น 8 คะแนนโดยพวกเขาจะพบเร้ดสตาร์ เบลเกรดที่เซอร์เบียในนัดสุดท้ายขณะที่ลิเวอร์พูลต้องไปดวลนาโปลีในเกมตัดสินเรียกได้ว่ายังมีลุ้นเข้ารอบตกรอบกันหมด
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
5.
จอร์จินิโอ้ ไวจ์นาลดุม
66'
6
7.
เจมส์ มิลเนอร์
76'
6.5
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่
71'
5
ตัวสำรอง
15.
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
71'
6
23.
เซอร์ดาน ชากิรี่
76'
6
8.
นาบี เกอิต้า
66'
6
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Thu Nov 29, 2018 06:49, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ