ทำใจเผื่อไว้ก็ดีครับ เพราะสิ่งที่คุณทำ มันคือการดูถูก และไปทำลาย mind set ความคิดในด้านการเลือกคุณมาเป็นแฟนเลยนะครับ เป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่มาก สำหรับคนที่อ่อนไหวเรื่องแบบนี้

และถึงต่อให้ง้อกลับมาได้ ก็อาจจะไม่สามารถสลัดความคิดที่คุณเพิ่งใส่ให้เธอได้ง่ายๆ ก็ดูท่าจะเป็นปัญหาระยะยาวด้วย ถ้าเธอมีพวกมีความคิดแบบฝังใจ

เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ใครรับผิดแล้วก็จบเรื่องครับ ผมรู้และเข้าใจดี เพราะผมก็อยู่ในคนกลุ่มนี้

"เมื่อไหร่ก็ตามมีคนมาสะกิดว่าความคิดที่เราทำอยู่นี้เป็นความคิดที่ผิด แล้วคนๆนั้นมีความสำคัญมากๆด้วย กระบวนการความคิดจะถูกดึงมาคิดใหม่..." ซึ่งผลลัพธ์อาจจะไม่ใช่เหมือนวันแรกที่ตัดสินใจครับ

ผมขอให้ง้อสำเร็จแล้วกันครับ แต่กลับมาแล้ว ไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีทางเหมือนเดิมแน่ๆครับ

จากประสบการณ์ตรง

เดี๋ยวมาอ่าน

อ่านละเรามองว่า วันนั้นถ้า จขกท ไม่พูดมาวันข้างหน้าก็พูดอยู่ดีเรามองว่า จขกท ดูอึดอัดที่เห็นเค้าสูงกว่าแล้วมองตัวเองเป็นแบบ loser



เราว่า จขกท ควรปรับมุมมองใหม่นะแล้วอะไรจะดีขึ้น ถ้าเราปรับเราเปลี่ยนมุมมองใหม่อ่ะการชีวิตมันจะไม่เหมือนเดิมละ ถ้าเราคิดแต่ว่าเรามันไม่มีไรดีเงี้ย ไม่ได้ทำอะไรกันพอดีหรอก

ในมุมมองผมนะ

1.ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่พ่อหนุ่มทำพลาด ผมว่ามันไม่น่าสมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่แม่หญิงจะโกรธขนาดไม่อยากเจอหน้า
2.เท่าที่ดูจากโปรไฟล์ของแม่หญิง เหมือนจะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ผ่านโลกมาพอสมควร เจออะไรๆในเรื่องที่เกี่ยวกับความรักมาเยอะ รักจริงรักลวง รักปอกลอก เลยทำให้เธอเป็นคนแบบนี้
3.เลิกเถอะถึงมันจะทำใจยาก แต่ให้จำไว้ ความรักของคนสองคนมันอยู่ที่ว่าให้อภัยได้ เรื่องบางเรื่องยอมได้ควรยอม อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ชีวิตคู่ชื่อมันก็บอกอยู่เเล้ว อย่าเยอะ เอาใจเขามาใส่ใจเรา มันถึงจะรอด

ผมเคยเจอ เคยผ่านแม่หญิงมาพอสมควร สิ่งเดียวที่ผมทำคือ เอาเหตุผลมาคุย ไม่ใช่อดีต หรืออนาคตที่วาดฝันไว้สวยหรู เเต่ปัจจุปันวันนี้ไม่เคยสร้างความเข้าใจกันก่อน มันไม่มีประโยชน์

ตาม คหสต ผม คุณ จะชนะใจเธอได้หรือไม่ ก็ขึ้นกับส่วนนี้ ส่วนตัวผมไม่คิดว่าเธอจะโกรธ หรือโมโห อะไร เพียงแต่คนแบบนี้ ต้องทำให้เห็นว่าคุณมีดีกว่าที่คุณกังวล ถึงจะเป็นหัวหน้าครอบครัวเธอได้ ปรกติ ผญ แบบนี้ค่อนข้างต้องการคนที่เป็นที่พึ่ง เป็นหัวหน้าครอบครัว และเป็นผู้นำเธอ ดังนั้น ผมว่าคุณมีโอกาสที่ดีแล้ว ส่วนตัวถ้าเป็นผม จะไปส่งเธอที่สนามบิน และเอาของเช่น สร้อยคอ, สร้ายข้อมือ หรืออะไร ให้เธอ จะในฐานะอะไรก็แล้วแต่ มันคือความห่วงใย แล้วเดินออกมาให้เธอคิดถึง ปล. บอกเธอว่าอย่าลืมของฝากผมด้วยนะ

จะไปง้อมันทำไม ท่านดููถูกตัวเองในวันนี้ไม่ได้แปลว่าในอนาคตท่านจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ไม่ได้ซะหน่อย ชีวิตคนเราย่อมมีช่วงที่รู้สึกเฟล คนใกล้ตัวที่รักท่านจริงๆต่างหากที่จะเข้าใจความรู้สึกท่าน อย่าคิดว่าเธอจะแคร์ความรู้สึกคุณอะไรขนาดนั้น ผมถือคติพลาดแล้วพลาดเลยว่ะ จะทำตัวเองให้ดีขึ้น และไม่มองกลับไปที่เดิม

เธอย้ำกับแม่ผม และย้ำกับผม (โทร) ว่าไม่ต้องมาสนามบิน ถ้าเห็นเธอจะโกรธ และหนีครับ

ผมผิดเองครับเรื่องนี้

แล้วตอนนี้ โกรธไหมละครับ ก็โกรธอยู่นิ และการที่คุณไป ไม่ได้แสดงอะไรมากกว่าความห่วงใย เธออาจทำท่า รัวเกียจคุณแต่เชื่อเหอะ ช่วงที่ไปเที่ยวเธอจะต้องแอบหยิบของที่คุณให้มาดูแน่นวลลล

ของที่ผมให้ไปเธอไปคือกระเป๋าเดินทางที่ผมเพิ่งซื้อให้เธอครับ
หนังสือไว้อ่านเล่มนึง”บันทึกนึกขึ้นได้”
และผ้าพันคอที่ผมซื้อและซักเก็บไว้

ผมก็แอบหวังว่าเธอจะใจเย็นลงครับ

ผมคิดต่าง.. ผมคิดว่า จขม. มีเหตุผล หรืออาจเป็นบางอารมณ์ ถึงได้พูดแบบนั้นออกไป เราเองต้องรู้สึกสิครับ ว่ามันก็มีเล็กๆ สิ่งที่ จขม. ต้องการ คือ ผญ. ตอบมาว่าไม่เป็นไร ไม่สำคัญ แต่ผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้าม

ในฐานะที่มีครอบครัวแล้ว เจอผู้หญิงแบบบอกให้โอกาสครั้งเดียว จขม. พยายามไปครับ ถ้าไม่ได้ ก็ตัดใจซะ เพราะชีวิตคู่มีเรื่องให้คิดอีกเยอะ มีเรื่องให้ทะเลาะ ไม่เข้าใจอีกเยอะ แต่ใครล่ะที่จะให้อภัยกัน ฝ่าฝันกันไปจนถึงวันแต่งงาน? ผมว่า ผญ. แบบนี้ เขาก็ถือตัวว่ามีดี และพร้อมที่จะไปเช่นกัน (เป็นแบบที่ จขม. ว่า เขาเองก็ต้องรู้สึก แต่อาจมีความคิดที่ว่า ตอนนี้ก็ให้โอกาสแล้วไง ปีนขึ้นมาสิ อย่าท้อกลางคัน มาท้อแบบนี้ ฉันให้โอกาสคนอื่นดีกว่า เลยเป็นที่มาของ "การให้โอกาสครั้งเดียว")

เห็นผลที่ผมส่งข้อความไปจริงๆแล้วอยากได้คำตอบว่า คิดมากน่า เราไม่เคยคิดแบบนั้นกับเธอ
แต่คำตอบมันตรงกันข้ามแบบที่ท่านว่านั่นแหล่ะครับ
และเธอบอกกับผมว่า ทุกคนที่เคยคบกับเธอมีโอกาสแค่ครั้งเดียว
โอกาสสำหรับผมมันจบแล้ว เค้าบอกเค้าขอโทษ เค้าไม่ให้โอกาสอีก

เอาตรงๆนะ ผมว่าเขาไม่ได้รักคุณจริงๆครับ เขายังกั๊กไว้อยู่ แบบมีอะไรผิดแล้วเลิกแน่ คนโปรไฟล์แบบนั้นถ้าจะมีคนเข้ามาเยอะแน่ ถ้าเขารักคุณจริงเรื่องแบบนี้เล็กน้อยมากๆ คงให้อภัยไปนานแล้วครับ

ผู้ชายต้องจนมากๆ ผู้หญิงถึงจะซึ้งกับคำนี้
แต่ถ้าไม่จน แล้วพูดคำนี้ ก็อาจถูกตีความว่า เป็นข้ออ้างบอกเลิก

นี่เป็นอีกคำพูดที่ผมอยากได้ยินจากปากเค้าครับ
ว่าถ้าเค้าไม่คิดอะไรกับผม แล้วก็บอกกับผมตรงๆ ผมยอมรับได้
แต่ถ้าความสัมพันธ์มันจบเพราะเรื่องนี้ จะเป็นแผลในใจผมไปตลอด