VvD ฮีโร่!!!ยิงทดเจ็บ 'กังหัน' รัวท้ายเกมเจ๊าเบียร์ 2-2 โกงตายเข้ารอบ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ฮอลแลนด์ โชว์โกงความตายถูก เยอรมนี นำ 2-0 แต่มารัว 2 ลูกใน 6 นาทีท้ายเกมโดย เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค คือฮีโร่ยิงสุดสวยช่วงทดเจ็บช่วยให้ กังหันสีส้ม บุกเสมอ 2-2 เก็บ 1 แต้มล้ำค่าแซง ฝรั่งเศส คว้าแชมป์กลุ่มแต้มเท่ากันแต่เฮด-ทู-เฮดดีกว่าผ่านเข้ารอบตัดเชือกเนชั่นส์ ลีกอย่างเหลือเชื่อ
เยอรมนี
Starting Formation: 3-4-3
1.
มานูเอล นอยเออร์(GK)[C]
6
20.
แซร์ก กนาบรี้
66'
6.5
9.
ทิโม แวร์เนอร์
63'
7.5
19.
ลีรอย ซาเน่
80'
7
ตัวสำรอง
6.
ลีออน โกเร็ตซ์ก้า
80'
5.5
13.
โธมัส มุลเลอร์
66'
5.5
11.
มาร์โค รอยส์
63'
5.5
ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2018/19 กลุ่มA1 นัดที่4
สนาม เฟลตินส์ อารีน่า
จันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2561
กรรมการ โอวิดิอู ฮาเตกาน
เยอรมนี
2
2
ฮอลแลนด์
1-0 แวร์เนอร์ 9'
2-0 ซาเน่ 19'
2-1 โพรเมส 85'
2-2 ฟาน ไดจ์ค 90+1'
เยอรมนี ฟอร์มรายการนี้ไม่เอาอ่าวเล่น 3 นัดมีแต้มเดียวตกชั้นสู่ลีกบีตามสภาพ ! เกมนี้บุนเดสเทรนเนอร์ เลิฟ เปลี่ยนตัวจริง 3 ตำแหน่งจากนัดอุ่นเครื่องเปิดบ้านถล่ม รัสเซีย 3-0 ฮุมเมิลส์, โครส และ ชูลซ์ ลงแทน กินเตอร์, ฮาเวิร์ตซ์, เฮ็คตอร์
ฮอลแลนด์ ฟอร์มดีเกินคาดเก็บ 6 แต้มจาก 3 นัดทำให้เกมนี้ขอแค่เสมอจะเข้ารอบทันทีเพราะเฮด-ทู-เฮดดีกว่าจ่าฝูง ฝรั่งเศส ที่นำแต้มเดียวแต่เตะครบ 4 นัดแล้ว ! วันนี้โค้ช คูมัน เปลี่ยนตัวจริง 2 ตำแหน่งจากนัดเปิดบ้านอัดแชมป์โลก 2-0 เตเต้ กับ โพรเมส ได้ลงแทน ดุมฟรี่ส์ และ สตีเว่น เบิร์กไวน์ ที่ถอนตัวไป
เจอกันนัดที่แล้ว กังหันสีส้ม เฝ้ารังถล่ม 3-0 แต่ก่อนหน้านั้น อินทรีเหล็ก ไม่แพ้มา 5 เกมซ้อน (ชนะ 2, เสมอ 3)
เคห์เรอร์เติมยิงทักทาย
แชมป์โลก 4 สมัยบุกจากซ้ายไปขวาของจอเปิดฉากทักทายตั้งแต่ยังไม่ครึ่งนาทีแรก แวร์เนอร์ ไหลบอลมาในเขตโทษฝั่งขวาให้ เคห์เรอร์ เติมขึ้นไปกดเต็มแรงแต่โดนไม่ดีบอลเหินผ่านเสาใกล้ออกหลังไป
เปิดขวด!!!แวร์เนอร์หวดงามเบียร์นำ
เยอรมนี ได้จบอีกครั้งขึ้นนำ 1-0 เลยเมื่อ โครส จ่ายบอลจากกราบซ้ายเข้ากลางให้ กนาบรี้ เบิ้ลขึ้นหน้าไปที่ แวร์เนอร์ ใช้ศีรษะพักบอลมาหน้าหัวกระโหลกแล้ววอลเลย์ด้วยขวาบอลพุ่งกระดอนพื้นหนีมือ ชิลเลสเซ่น เสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ! ลูกแรกของหอกวัย 22 ปีในรายการนี้เลยด้วย
แวร์เนอร์จ่อยิงแป้ก
ทำเป็นเล่นไป เยอรมนี เกือบได้ประตูเพิ่มจากโอกาสดีอีกครั้ง กนาบรี้ ลากไปถึงสุดเส้นด้านซ้ายเปิดเรียดมาเสาแรก แวร์เนอร์ โฉบไปตวัดยิงหน้ากรอบ 6 หลาเลยแต่ดันแป้กเข้าเท้า เดอ ลิกท์ สกัดทิ้งไปได้
ฮุมเมิลส์เหลือง!เดอปายฟรีคิกอัดกำแพง
ในที่สุด ฮอลแลนด์ ก็ได้จบครั้งแรกโดย โพรเมส โดน ฮุมเมิลส์ สไลด์ตัวลอยตรงหัวกระโหลกเรียกใบเหลืองและฟรีคิกให้ทีม เดอปาย รับหน้าที่กดด้วยขวาติดกำแพงบอลเด้งกลับมาหา เดอปาย ยิงซ้ำก็ยังติดบล็อค
ตรงเป็นตุง!!!ซาเน่หวดแฉลบ2-0
การเข้าทำของ เยอรมนี วันนี้เด็ดขาดเหลือเกินไม่ทันไรก็นำห่าง 2-0 โครส โชว์เท้าชั่งทองฉวยโอกาสวางบอลจากกลางสนามให้ ซาเน่ ไม่ล้ำหน้าจับบอลลงล็อกหลบ เดอ ลิกท์ เข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วสับไกด้วยเท้าถนัดบอลแฉลบ เตเต้ เปลี่ยนทางผ่านมือ ชิลเลสเซ่น ตุงตาข่าย ! ลูกแรกของเขาในถ้วยนี้เช่นกัน
กังหันเจาะไม่เข้า
จากนั้นผ่านมา 10 นาทีชาติต้นตำรับโททัล ฟุตบอลครองบอลบุกมากกว่าชัดเจนแต่เกมรุกไม่ลงตัวอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของ 3 กองหน้ามากกว่าการประสานงานกันซึ่งก็ยังทำอะไรเกมรับเจ้าถิ่นไม่ได้และไม่มีจังหวะจบสกอร์เพิ่มเลย
เกือบOG!ซูเล่อโขกสกัดชนคาน
ฮอลแลนด์ เกือบตีไข่แตกแบบโชคช่วยจากฟรีคิก เดอปาย เปิดไปถูกสกัดออกมาทางซ้าย บลินด์ เก็บได้โยนกลับเข้าไป ซูเล่อ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยมแต่ดวงยังดีบอลเสยคานบนออกหลังไปแบบหวุดหวิดเสียแค่เตะมุมซึ่ง เดอปาย ก็ยังเปิดไม่เข้าเพื่อน
ชูลซ์เติมมันส์!กนาบรี้โขกออก
นิโค่ ชูลซ์ ครึ่งแรกโดดเด่นมากทางกราบซ้ายเติมเกมอย่างเมามันส์โดยจังหวะนี้ได้หยอดจากเส้นหลังย้อยมาเสาแรก กนาบรี้ เทคตัดหน้า เดอ ลิกท์ โหม่งได้แต่สะบัดมากเกินบอลลอยผ่านหน้าประตูออกหลังไป
บาเบิลเดี้ยง!ดิลโรซุนเดบิวต์
ไรอัน บาเบิล ครึ่งแรกยังไม่ได้ปล่อยของเลยดันเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงขึ้นมาและเล่นต่อไม่ไหวถูกเปลี่ยนตัวกับ ดิลโรซุน ปีกวัย 20 ปีจาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ได้โอกาสลงรับใช้ชาติครั้งแรก
จากนั้นไม่นานก็หมดครึ่งแรก อินทรีเหล็ก นำสบาย 2-0 โดยที่ครองบอล 44% แต่โอกาสเยอะกว่า 7 (4) ต่อ 3 (0) ครั้ง
ทีงี้ไม่เข้า!แวร์เนอร์ล่อเป้าติดชิลเลสเซ่น
ครึ่งหลัง เยอรมนี บุกจากขวาไปซ้ายของจอบ้างได้โอกาสทองแต่หัววัน เดอ ยอง เสียบอลกลางสนามโดนโต้กลับ 3 ต่อ 3 กนาบรี้ ไหลใส่พานให้ แวร์เนอร์ ดันเลือกยิงยัดเสาใกล้เจอ ชิลเลสเซ่น อ่านออกเซฟไว้ได้
เบียร์ขึ้นเกมพลาด!นอยเออร์ได้ออกแรง
จังหวะนี้ เยอรมนี ขึ้นเกมจากหน้าประตูด้วยบอลสั้นแต่ถูกแย่งไปได้ทางซ้าย โพรเมส ได้บอลข้างกรอบเขตโทษแต่งเข้าขวาแล้วสับไกเลยบอลพุ่งตรงตัว นอยเออร์ เซฟครั้งแรกรับไว้ได้สบาย
เบียร์สวนแวร์เนอร์ลุยยิงเฉี่ยวเสา
เยอรมนี รออยู่นานแล้วรับให้แน่นแล้วโต้กลับ กนาบรี้ แทงจากกลางสนามให้ แวร์เนอร์ วิ่งเบียดกับ เตเต้ แล้วเร็วกว่าแซงไปแตะบอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะกดเรียดด้วยซ้ายบอลติดโค้งหนีมือ ชิลเลสเซ่น เฉี่ยวเสาไกลออกไป
ดิลโรซุนเจ็บโดนถอด...มุลเลอร์ร้อยนัด!!!
ไม่ใช่ดรีมสตาร์ทสำหรับเจ้าหนู ดิลโรซุน เล่นอยู่ดีๆลงไปนั่งเจ็บเล่นต่อไม่ไหวอีกคนทำให้ ฮอลแลนด์ ต้องเปลี่ยน เดอ ยอง ลงแทน ! ส่วนเจ้าบ้านมีไฮไลท์เมื่อส่ง โธมัส มุลเลอร์ ลงเล่นนัดที่ 100 ให้ทีมชาติแทน กนาบรี้
รอยส์เปิดไม่ถึงมุลเลอร์!คิมมิชตัดเกมยอมเหลือง
โอกาสแจ่มของ เยอรมนี เมื่อ โครส จ่ายไต่เส้นฝั่งซ้ายให้ ชูลซ์ จ่ายไปในเขตโทษให้ รอยส์ ตัวสำรองโฉบมาเส้นหลังเปิดเรียดกะใส่พาน มุลเลอร์ แต่ ฟาน ไดจ์ค มาสกัดทิ้งได้ก่อน ! จากนั้นทีมเยือนจะสวน คิมมิช ต้องตัดเกมยอมโดนใบเหลือง
ซาเน่F9เข้าฮอสเจอเดอ ลิกท์ขวาง
ลีรอย ซาเน่ ถูกขยับขึ้นไปเล่นเป็นหมายเลข 9 และเกือบทำหน้าที่ได้สำเร็จเมื่อ รอยส์ เปิดจากด้านขวามาหน้ากรอบ 6 หลาให้ ซาเน่ เข้าชาร์จโดนบอลแล้วแต่ เดอ ลิกท์ จังหวะนี้ยอดเยี่ยมขยับมาบล็อคไว้ได้ทัน
เดอปายฉายเดี่ยวยิงติดเท้านอยเออร์
เมมฟิส เดอปาย ถึงคราวโชว์ลีลาชายเดี่ยวลากบอลไถผ่าน ซูเล่อ เข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายโยกหลบ ฮุมเมิลส์ ไปอีกคนก่อนจะกดเรียดด้วยซ้ายยัดเสาแรก นอยเออร์ ปิดมุมอยู่แล้วใช้เท้าเซฟออกหลังไปได้
ชูลซ์หวดเข้าข้อ!เตเต้ยืนถูกพอดี
นิโค่ ชูลซ์ มีลุ้นแมน ออฟ เดอะ แมตช์แน่นอนโชว์ฟอร์มเด่นทั้งรุกและรับรวมถึงจังหวะนี้ที่ รอยส์ โยนจากด้านขวาข้ามมาในเขตโทษด้านซ้ายให้ ชูลซ์ วอลเลย์เต็มเท้าขวาข้างไม่ถนัดแต่ เตเต้ ยืนอยู่พอดีเหมือนผีบอกบล็อคออกหลังไปได้หวุดหวิด
กังหันไข่แตก!!!โพรเมสยิงสุดสวย
ฮอลแลนด์ ยังไม่ตายสนิทกลับมามีลุ้นเข้ารอบไล่มาเป็น 2-1 เดอ ยอง ได้บอลในเขตโทษด้านขวาแต่ยิงไม่ได้เลยจ่ายคืนหลังให้ เดอ รอน เบิ้ลจังหวะเดียวไปตรงหัวกระโหลก โพรเมส จับใกล้ตัวแล้วง้างขวายิงด้วยข้างเท้าด้านในพุ่งหนีมือ นอยเออร์ เสียบเสาแรกอย่างสวยงาม ! ลูกแรกของเขาในถ้วยนี้อีกคน
VvDโว้ยยย!!!หวดอย่างกับกองหน้า2-2กังหันพลิกตีตั๋ว
ช่วงทดเจ็บ ฮอลแลนด์ ทำได้จริงๆไล่ตีเสมอ 2-2 จังหวะบอมบ์เข้ามาแล้วถูกโหม่งสกัดออกมานอกกรอบด้านขวา วิลเฮน่า เก็บได้เลี้ยงหาช่องก่อนจะโยนเข้ากลาง คิมมิช โขกสกัดผิดเหลี่ยมแฉลบไปหน้าประตู ฟาน ไดจ์ค โชว์วิญญาณเพชฌฆาตวอลเลย์ตูมเดียวด้วยขวาตุงตาข่ายสุดสวย นอยเออร์ หมดสิทธ์เซฟ !!! ลูกที่ 2 ของเขาในรายการนี้
แล้วก็จบเกมนั่นคือประตูสุดล้ำค่าช่วยให้ กังหันสีส้ม บุกแบ่งแต้ม อินทรีเหล็ก 2-2 พลิกสถานการณ์แซง ฝรั่งเศส คว้าแชมป์กลุ่มเข้ารอบตัดเชือกรายการนี้ได้อย่างเหลือเชื่อและทำสถิติไม่แพ้ อินทรีเหล็ก 2 นัดติดต่อกันที่เจอกัน
ฮอลแลนด์
Starting Formation: 4-3-3
1.
ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น(GK)
6
8.
จอร์จินิโอ ไวนาลดุม
60'
5.5
11.
ไรอัน บาเบิล
45'
5.5
ตัวสำรอง
21.
ทอนนี่ วิลเฮน่า
60'
6
20.
ยาไวโร ดิลโรซุน
45'
66'
5.5
19.
ลุค เดอ ยอง
66'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Tue Nov 20, 2018 06:59, ทั้งหมด 22 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ