บิ๊กแมตช์ลีกเอิงปีนี้ดูจะขาดสีสันลงไปเยอะเนื่องจากผลงานที่ย่ำแย่ต่อเนื่องของโมนาโก ที่ล่าสุดยังจมเป็นรองบ๊วย ไม่ชนะใครในทุกถ้วยมาแล้ว 15 นัดติดตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ส่วน เปแอสเช ยังไร้เทียมทานในลีกเช่นเดิม ลงเล่นในลีกไปแล้ว 12 นัดชนะรวด คะแนนนำโด่งทิ้งห่างทีมอันดับสองอย่างลีลล์ ถึง 10 คะแนนด้วยกัน

โมนาโกในวันนี้ได้เล่นในบ้าน มีฟัลเกานำทัพน้องๆลงสนาม เกมรุกมีนาเซอร์ ชาดลี่ เป็นจุดขาย แต่ขาด ยูริ ทีเลอม็องส์ ในแดนกลางเพราะโทษแดง ขณะที่คามิล กลิค ในเกมรับเพราะเจ็บ

สำหรับเปแอสเช รู้ดีว่าเจอโมนาโกช่วงนี้ไม่ใช่งานยากเลยให้พักดาวรุ่งหลายรายไว้ข้างสนาม อาทิ อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์โค แวร์รัตติ, โธมัส มูนิเยร์ เป็นต้น ดาวรุ่งอย่างคริสตอฟ เอ็นคูนคู และมุสซ่า ดิยาบี้ ได้รับโอกาสเล่นเป็นตัวจริง โดยยังมี 3 ประสานเป็นซูเปอร์สตาร์ เนย์มาร์, คีเลี่ยน เอ็มบาปเป้ และเอดินสัน คาวานี่ เช่นเดิม

4'

VAR ช่วยคาวานี่ซัดนำไว 1-0

เริ่มเกมไปได้แค่ 4 นาทีเท่านั้น เปแอสเช ก็ออกนำไปก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว จังหวะที่กองหลังโมนาโกพยายามเคลียร์บอลสุดเส้นหลังทิ้งแต่ไปติดบล็อคผู้เล่นทีมเยือน บอลกระดอนไปเข้าทางเนย์มาร์ กึ่งยิงกึ่งผ่านเลยมาที่เสาไกลถึงคาวานี่จบสกอร์เข้าไป

ในตอนแรกผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้า ก่อนปรึกษาทีมงาน VAR และเปลี่ยนคำตัดสินให้เป็นประตูในที่สุด

10'

ฟัลเกามีลุ้นยิงให้โมนาโกเหมือนกัน

โมนาโกเองก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เมื่อหนนี้ได้ลุ้นทำสกอร์เหมือนกันจากฟัลเกา แต่ไปติดเซฟอเรโอล่า

11'

VAR อีกก่อนให้คาวานี่ยิง 2-0

เปแอสเช หนีห่างเป็น 2-0 คราวนี้ลูกเปิดทางซ้ายของดิยาบี้ บอลทะลุช่องแฉลบแนวรับโมนาโกมาถึง คาวานี่ ที่เสาไกลทิ้งตัวเหยียดสุดขาส่งบอลเข้าประตูไป

ตอนแรกผู้ตัดสินให้เป็นล้ำหน้าอีกแล้ว ก่อนจะเช็ค VAR แล้วกลับคำตัดสินให้เป็นประตูหนีห่าง 2-0

21'

ชาดลี่เจ็บเล่นต่อไม่ไหว

สถานการณ์ของโมนาโกย่ำแย่ไปใหญ่ เมื่อ ชาดลี่ เจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนจนเล่นต่อไปไม่ไหว เป็นเอ็มบูล่าลงเล่นแทน

26'

เอ็มบูล่าแปโล่งๆข้ามคานไปไหน

โมนาโก น่าตีไข่แตกได้อย่างที่สุดจากลูกครอสทางขวา บอลถูกผู้เล่นโมนาโกเลยมาถึงเสาสองให้ เอ็มบูล่า แปคนเดียวโล่งๆ แต่โดนผิดเหลี่ยมบอลหลุดคานไปไกลมาก

30'

โมนาโกบุกมากขึ้นหลังเปแอสเชผ่อนเกมลง

จริงๆเกมของโมนาโกก็ไม่ได้แย่มาก พวกเขายังได้บุกใส่ทีมเยือน ที่ดูเหมือนจะเล่นตามเกมไปเรื่อยๆ ไม่เน้นอะไรมากแล้วหลังนำห่าง 2-0

39'

เอ็นคูนคูกดเต็มเหนี่ยวน่าได้เพิ่ม

เอ็นคูนคู มีโอกาสส่องไกลนอกเขตกดเต็มข้อบอลทั้งแรงทั้งส่าย เบนาโญ่ ต้องงัดวิชาป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตูมากไปกว่านี้อีกแล้ว

40'

ดิยาบี้เอาบ้างปั้นโค้งเบนาโญ่ต้องเซฟ

เบนาโญ่ ต้องทำงานหนัก จังหวะนี้ต้องพักปัดลูกยิงไกลสุดคมของ ดิยาบี้ ให้หลุดคานบนออกหลังไปได้นิดเดียวเท่านั้น

45+4'

ดรักซ์เลอร์ยิงเข้าแต่ล้ำหน้า

เปแอสเช ยิงขึ้นนำ 3-0 ได้ก่อนหมดเวลา จากบอลทำชิ่ง 1-2 อย่างสุดสวย ก่อนเอ็นคูนคูดีดส้นให้ดรักซ์เลอร์หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาเสียบเสาไกล

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินเรียกดู VAR ก่อนกลับคำตัดสินอีกแล้ว หนนี้เป็นไม่ได้ประตูเพราะล้ำหน้าไปก่อน จบครึ่งแรก เจ้าถิ่นจึงตามอยู่แค่ 2-0

HALF TIME

48'

เอ็มบูล่าตัวสำรองเจ็บต้องหามออก

ครึ่งหลัง โมนาโกงานเข้าอีก เมื่อ เอ็มบูล่า ตัวสำรองเพิ่งถูกส่งลงสนามครึ่งแรก เกิดเจ็บจังหวะสปริ๊นท์ ต้องหามขึ้นเปลออกนอกสนามไป และเป็นอิซิดอร์ลงเล่นแทน

53'

คาวานี่แฮตทริกแปโล่งๆ 3-0

สกอร์ไหลเป็น 3-0 คราวนี้ไม่ต้องใช้ VAR แล้วเมื่อ ราบิโอต์ แทงตัดหลังแบ๊กให้ดิยาบี้ เปิดบอลตัดเข้าไปที่เสาไกลให้ คาวานี่ แปโล่งๆจบสกอร์สบาย เป็นแฮตทริกของหัวหอกทีมชาติอุรุกวัยอีกด้วย

55'

โมนาโกมีลุ้นจากลูกแฉลบ

โมนาโก ก็เกือบจะได้เหมือนกัน เป็นลูกยิงทางซ้ายของอิซิดอร์ บอลแฉลบราบิโอต์ บอลม้วนทำท่าจะมุดเข้าเสาไกล โชคดีหลุดกรอบออกไปซะก่อน

63'

เอ็มบาปเป้เรียกจุดโทษสำเร็จ

เอ็มบาปเป้ เลี้ยงจี้กินตัวเข้าไปในเขตโทษ โชว์สเต๊ปสับขาหลอกจนซิดิเบ้หลงกลเกี่ยวล้มเต็มเหนียว จุดโทษสิครับจะรออะไร

64'

เนย์มาร์สังหารไม่พลาด 4-0

เนย์มาร์รับหน้าที่สังหาร เลือกแปเนียนๆเล่นทางไม่แรงแต่แม่นยำ ผู้รักษาประตูพุ่งไปอีกทาง นำห่าง 4-0

78'

VAR บอกเอ็มบาปเป้ยิงเข้าแต่ล้่ำหน้า

ราบิโอต์ แทงบอลทะลุช่องให้เอ็มบาปเป้ หลุดเข้าไปยิงประตูที่ 5 แต่สุดท้ายก็ได้ VAR ช่วยตัดสินเป็นหนที่ 4 ว่าไม่เป็นประตูเพราะล้่ำหน้าไปก่อน

ช่วงเวลาที่เหลือเปแอสเชปิดเกมแล้ว เล่นประคองตัวจนกระทั่งหมดเวลา บุกมาเอาชนะโมนาโกไปแบบสบายๆ 4-0