แด่คุณวิชัย!เกรย์ยิงโทน'จิ้งจอก'เชือดคาร์ดิฟฟ์ 1-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เลสเตอร์ ซิตี้ มอบชัยชนะแก่คุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรผู้ล่วงลับได้สำเร็จบุกคว้าชัยเหนือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 1-0 จากประตูโทนของ เดมาไร เกรย์ ในครึ่งหลังช่วยให้ จิ้งจอกสยาม หยุดสถิติไม่ชนะ 3 นัดติดต่อกันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 10 ในตาราง
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
Starting Formation: 4-4-2
5.
บรูโน่ เอกูเอเล่ ม็องก้า
6.5
7.
แฮร์รี่ อาร์เทอร์
79'
6
11.
จอช เมอร์ฟี่
85'
5.5
14.
บ็อบบี้ รีด
65'
5.5
ตัวสำรอง
33.
จูเนียร์ ฮอยเลตต์
65'
5.5
24.
แกรี่ เมดีน
85'
5.5
9.
แดนนี่ วอร์ด
79'
5.5
พรีเมียร์ลีก 2018/19 นัดที่11
สนาม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2561
กรรมการ ลี โปรเบิร์ต
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
0
1
เลสเตอร์ ซิตี้
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ น้องใหม่เปิดฉากพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้มา 10 นัดเพิ่งชนะนัดเดียวเก็บได้เพียง 5 แต้ม วันนี้กุนซือ วอร์น็อค เปลี่ยนตัวจริงตำแหน่งเดียวจากนัดบุกแพ้ ลิเวอร์พูล 1-4 อาร์เทอร์ หายเจ็บกลับมาลงแทน ฮอยเลตต์
เลสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มกำลังตกไม่ชนะในลีกมา 3 เกมซ้อนเก็บได้แต้มเดียวแถมเพิ่งสูญเสียคุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก เกมนี้โค้ช ปูแอล เปลี่ยนตัวจริงถึง 5 ตำแหน่งจากนัดเปิดบ้านเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ริคาร์โด้, มอร์แกน, เมนดี้, เกรย์ และ วาร์ดี้ ลงแทน แดเนี่ยล อมาร์ตีย์ ที่ข้อเท้าหัก, คักลาร์ โซยุนคู กับ ราชิด เกซซาล ไม่มีชื่อ และ อิบอร์ร่า กับ อิเฮียนาโช่ หลุดเป็นสำรอง
คู่นี้เจอกัน 2 ครั้งหลังสุดในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ 2012/13 บลูเบิร์ดส์ ไม่แพ้ทั้งเหย้า (1-1) และเยือน (1-0)
คาร์ดิฟฟ์มาดี
ต้นเกม คาร์ดิฟฟ์ บุกจากซ้ายไปขวาของจอเล่นกว่าเล็กน้อยครองบอล 51% ได้จบไปแล้ว 2 ครั้งเริ่มจากไม่กี่นาทีแรก รีด จิ้มในเขตโทษติดบล็อค แม็คไกวร์ และนาทีที่ 5 กามาราซ่า ยิงหลุดกรอบ
เกมยังนิ่ง!จิ้งจอกเริ่มเหนือกว่า
ผ่านมาอีก 10 นาทีทั้ง 2 ทีมยังเล่นกันอย่างระมัดระวังจนยังไม่มีโอกาสจบสกอร์หรือแม้แต่จังหวะหวาดเสียวกันอีกเลยแต่ช่วงนี้ เลสเตอร์ พลิกเป็นฝ่ายเล่นได้เหนือกว่าบ้างโดยครองบอลราวๆ 57%
แม็คไกวร์เกือบเสียท่า
คาร์ดิฟฟ์ ตอบโต้ด้วยเกมสวนกลับสาดยาวจากแดนหลังตูมเดียวถึง เพเตอร์สัน ข้างหน้าวิ่งเบียดกับ แม็คไกวร์ กำลังจะแซงไปเอาบอลได้แล้วแต่เจอ แม็คไกวร์ ชิงเหลี่ยมบังแล้วโหม่งคืน ชไมเคิล รอดไปหวุดหวิด
รีดส่องเข้ามือแคสเปอร์
คาร์ดิฟฟ์ กดดันต่อเนื่องโดยเกมรับทีมเยือนเปิดพื้นที่หน้าหัวกระโหลกให้ รีด พลิกบอลแล้วยิงไกลด้วยขวาบอลพุ่งไซด์ก้อยหากรอบมีลุ้นเสียบคานแต่ ชไมเคิล กระโดคว้าไว้อยู่มือ
แม็คไกวร์เดี้ยง...อีฟแทน
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ็บจากจังหวะนั้นที่บัง เพเตอร์สัน แล้วถูกล้มทับไปที่เข่าและพยายามฝืนเล่นต่อแต่สุดท้ายไม่ไหวลงไปนั่งกับพื้นถอดสนับแข้งส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัวโดยเป็น อีแวนส์ ถูกส่งลงไปยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟแทน
กามาราซ่าฟรีคิกจูบคาน
คาร์ดิฟฟ์ ได้ฟรีคิกระยะอันตรายบริเวณหัวกระโหลก กามาราซ่า ปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงมาที่เสาสอง ชไมเคิล มาไม่ทันแล้วแต่บอลดันพุ่งสูงไปนิดชนคานเต็มใบเลย
ดิดี้โขกออก
เลสเตอร์ ตั้งหลักไม่ติดอยู่พักใหญ่เพิ่งได้จบบ้างจากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย อัลไบรท์ตัน โยนโค้งไปหน้าประตู เอ็นดิดี้ ขึ้นโขกเหน่งๆแต่สะบัดผิดเหลี่ยมบอลหลุดกรอบเสียโอกาสดีไป
เมนดี้ยิงแฉลบเข้าหน้าต่าง
น็อมปาลิส เมนดี้ จับคู่กองกลางกับ เอ็นดิดี้ ผลัดกันเล่นเกมรุกและรับได้ลงตัวโดยจังหวะนี้ เมนดี้ สบโอกาสพาบอลขึ้นไปเองถึงหน้ากรอบด้านขวาก่อนจะสับไกบอลแฉลบ เบ็นเนตต์ ลอยมาเข้าข้างตาข่ายออกหลังไปแบบมีลุ้น
เปาพลาดมหันต์!บัมบ้าแขนเซฟลูกยิงวาร์ดี้
ลี โปรเบิร์ต พลาดร้ายแรงเมื่อ ริคาร์โด้ ลากบอลไปถึงหน้ากรอบด้านขวาแล้วสับไก เอเธอริดจ์ รับกระฉอกไปเข้าทาง วาร์ดี้ ซัดเผาขน บัมบ้า ยื่นแขนบล็อคบอลไปชนคานเล่นเอาผู้เล่น เลสเตอร์ วิ่งไปฟ้องเอาแฮนด์บอลแต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้ทั้งจุดโทษและใบแดงทำให้เจ้าถิ่นรอดตัวไปอย่างเหลือเชื่อ
หมดครึ่งแรกเลยยัง 0-0 โดยที่ จิ้งจอกสยาม ครองบอล 60% โอกาส 4 ครั้งเท่ากัน
จิ้งจอกทักทายหนึ่งชุด
เลสเตอร์ ครึ่งหลังบุกจากซ้ายไปขวาของจอบ้างเปิดฉากอย่างดุดัน แม็ดดิสัน ส่องไกลแฉลบบล็อคออกหลังได้เตะมุมฝั่งขวา แม็ดดิสัน มาเปิดเองโยนโค้งไปหน้าประตู อีแวนส์ โขกกดลงพื้น เอ็นดิดี้ ตอกส้นแต่โดนไม่ดีบอลหลุดกรอบไป
เมอร์ฟี่ลุยยิงติดแคสเปอร์
จอช เมอร์ฟี่ ปีกซ้ายตัวทีเด็ด คาร์ดิฟฟ์ เริ่มออกฤทธิ์เลี้ยงลุยฝ่าดงเกมรับเยือนเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายใกล้ประตูแล้วซัดทันทีแต่ ชไมเคิล ซูเปอร์เซฟออกมาปิดมุมปัดไว้ได้
จิ้งจอกสะใจ!เกรย์ป้ายตุงตาข่ายออกนำ
ในที่สุด เลสเตอร์ ก็ได้ประตูล้ำค่าต่อจิตใจขึ้นนำ 1-0 จากการต่อบอลทำเกมรุกกันสวยก่อนที่ อัลไบรท์ตัน จะแทงขึ้นไปสุดเส้นใกล้เขตโทษด้านซ้ายให้ ชิลเวลล์ สอดไปหักย้อนมาเสาสอง เกรย์ หลุดการประกบแปด้วยซ้ายแบบไม่จับผ่านมือ เอเธอริดจ์ ตุงตาข่าย ! ลูกที่ 2 ในลีกซีซั่นนี้ของเขาและจากนั้นเจ้าตัวรับใบเหลืองจากการถอดเสื้อดีใจ
บัมบ้าซัดไม่เข้า!วอร์น็อคแก้เกม
คาร์ดิฟฟ์ ครึ่งหลังโงหัวแทบไม่ขึ้นแต่ลูกนิ่งยังน่ากลัวมาได้เตะมุม กามาราซ่า โยนไป บัมบ้า ได้ซัดแต่ไม่ตรงกรอบ ! จากนั้น วอร์น็อค กุนซือมือเก๋าเปลี่ยนคนแรกถอด รีด ออกแล้วส่ง ฮอยเลตต์ จอมพลิ้วลงแทน
จิ้งจอกอีกชุด!อีฟพุ่งโขกโดนแค่เฉี่ยว
เลสเตอร์ บุกอีกระลอก แม็ดดิสัน โยนจากกราบซ้ายข้ามมาเสาสอง ริคาร์โด้ เปิดไปจะให้ วาร์ดี้ หน้าประตูแต่ เบ็นเนตต์ มาแหย่ขาบล็อคออกหลังได้ก่อนหวุดหวิด ! เตะมุมครั้งแรก แม็ดดิสัน โยนไปบอลตกที่ อัลไบรท์ตัน ได้ซัดแฉลบออกหลังได้เตะมุมอีกครั้งทางขวา แม็ดดิสัน คนเดิมโยนไปมีเพื่อนโหม่งชงไปเสาสอง อีแวนส์ พุ่งโหม่งจ่อๆไม่ทันนิดเดียวบอลหลุดออกหลัง
คาร์ดิฟฟ์กดหนักบ้าง!กามาราซ่ายิงติดเมนดี้
คาร์ดิฟฟ์ ได้กดดันต่อเนื่องเหมือนกันโดยเตะมุมครั้งแรกถูกสกัดแต่ยังเก็บบอลจังหวะสองได้ทำเกมบุกต่อบอลมาที่ กามาราซ่า ซัดเหน่งๆในเขตโทษแต่ เมนดี้ ยืนขวางวิถีกระสุนอยู่พอดีบล็อคออกหลังไป ! เตะมุมอีกครั้งด้านขวา กามาราซ่า ไปเตะเองโยนมาให้ เพเตอร์สัน โขกตู้มข้ามคานไปพอสมควร
วาร์ดี้หลุดยิง!เอเธอริดจ์เซฟสำคัญ
โอกาสทองของ เลสเตอร์ เพื่อย้ำชัยโดย เกรย์ ลากบอลสวนกลับขึ้นไปทางซ้ายก่อนจะไหลตามช่องให้ วาร์ดี้ รู้กันวิ่งอ้อมทำทางหลุดเดี่ยวไปซัดหักข้อด้วยซ้ายแต่ เอเธอริดจ์ ซูเปอร์เซฟออกไปล้มตัวบล็อคไว้ได้ทำให้เจ้าถิ่นยังมีความหวัง
จิ้งจอกเอาอยู่
ช่วงทดเจ็บ คาร์ดิฟฟ์ บุกแหลกแต่เจาะไม่เข้าได้แต่โยนไปวัดดวงเอาซึ่งก็ได้โหม่งทีนึงแต่ก็ข้ามคานไปแบบที่ ชไมเคิล ไม่ต้องออกแรง ! แล้วก็จบเกม จิ้งจอกสยาม ทำได้บุกชนะ 1-0 คว้า 3 แต้มของขวัญแด่เสี่ย วิชัย ที่เฝ้าดูอยู่บนฟากฟ้า
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
15.
แฮร์รี่ แม็คไกวร์
27'
6
10.
เจมส์ แม็ดดิสัน
82'
6.5
7.
เดมาไร เกรย์
71'
6.5
ตัวสำรอง
2.
แดนนี่ ซิมพ์สัน
71'
5.5
6.
จอนนี่ อีแวนส์
27'
6
21.
บิเซนเต้ อิบอร์ร่า
82'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Nov 04, 2018 07:06, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ