กรีซมันน์เบิ้ล!น้ำหอมโชว์คัมแบ็คเฉือนอินทรีเหล็ก 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ฝรั่งเศสได้โชว์พลังคัมแบ็คอีกเกมเมื่อโดนนำตั้งแต่ต้น แต่พอครึ่งหลังอ็องตวน กรีซมันน์กลายเป็นฮีโร่โหม่งตีเสมอและยิงจุดโทษที่แอบค้านสายตาในนาที 80 เลยช่วยให้ตราไก่แซงกลับมาเอาชนะเยอรมนี 2-1 เก็บ 7 แต้มใกล้ได้ตั๋วไปเล่นรอบรองชนะเลิศเนชันส์ ลีก
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-2-3-1
13.
เอ็นโกโล่ ก็องเต้
90+3'
6.0
10.
คีเลียน เอ็มบาปเป้
86'
6.0
7.
อ็องตวน กรีซมันน์
90+1'
7.5
ตัวสำรอง
15.
สตีฟ เอ็นซ็องซี่
90+3'
-
11.
อุสมาน เด็มเบเล่
86'
-
17.
ต็องกี เอ็นดมเบเล่
90+1'
-
ฟุตบอลยูฟ่า เนชันส์ ลีก เอ กลุ่ม 1
สนาม สตาด เดอ ฟรองซ์
วันที่ 16 ตุลาคม 2561
กรรมการ มิโลรัด มาซิช
ฝรั่งเศส
2
1
เยอรมนี
1-1 กรีซมันน์ 62'
2-1 กรีซมันน์ 80' (Pen.)
ฝรั่งเศสเอาจริงสลับเอานักเตะอย่างเอร์นานเดซ, ก็องเต้, เอ็มบาปเป้และมาตุยดี้มาออกสตาร์ทในเกมนี้ ส่วนที่เหลือก็ตัวหลักจาเกมอุ่นเกือกเสมอไอซ์แลนด์
เยอรมนีมีเปลี่ยนแผนเหมือนจะใช้หลังสามคนโดยให้เคห์เรอร์เล่นเป็นวิงแบ็คขวาแล้วหุบกินเตอร์มายืนแผงหลัง แนวรุกก็ส่งกนาบรี้ออกสตาร์ทร่วมกับแวร์เนอร์และซาเน่
ช่วงแรกเกมเปิดแต่ยังไม่ค่อยหวาดเสียวเท่าไหร่
เริ่มมานับว่าเกมเปิดพอสมควรฝรั่งเศสอันตรายอยู่แล้วกับจังหวะบุกแต่ละทีสปีดจัดจ้าน เอ็มบาปเป้สร้างความปั่นป่วนได้แต่ยังหาโอกาสลุ้นดีๆไม่เจอ
ส่วนเยอรมนีก็หาช่องทำชิ่งเข้าเขตโทษได้เช่นกันแวร์เนอร์เกือบได้ยิงด้วยแต่โดนดักก่อน
คิมเพมเบโดนจับแฮนด์บอล!โครสสังหารโทษส่งอินทรีนำ
แต่แล้วเยอรมนีมาได้จุดโทษเข้าให้ในจังหวะโต้กลับด้วยความเร็วซาเน่ถึงสุดเส้นหลังเปิดติดต้นแขนคิมเพมเบที่ยกขึ้นมาท่านเปาเลยจับแฮน์ดบอล โครสรับหน้าที่สังหารเลือกแปเสียบเสาขวามือเข้าไปแบบญอริสเกือบปัดได้ เยอรมนีออกนำ 1-0
อินทรีสวนกลับแต่ซาเน่จ่ายแรงเกิน
เยอรมนีมีจังหวะโต้กลับดีเลยแต่ไมไ่ด้จบ หลังเคลียร์บอลออกมาได้ก่อนที่จะเปิดขึ้นหน้ากลายเป็นซาเน่ใช้ความเร็วควบพาบอลขึ้นมาเอง แวร์เนอร์วิ่งประคองมาเลยจ่ายให้แต่แรงเกินแวร์เนอร์ตามไปยิงไม่ทันญอริสปัดได้ก่อน
เกือบสอง!บอลเข้าทางกินเตอร์ยิงส่งติดเซฟญอริส
หวิดจะมีประตูทิ้งห่างให้กับอินทรีเหล็กอีกแล้วจากเตะมุมโยนมาฮุมเมิลส์คนแรกโหม่งโดนบางๆหลุดมาทางเสาสอง บอลเด้งใส่ซูเลอไปหากินเตอร์ได้ยิงแต่ญอริสปัดไว้ก่อน
อินทรีมาใหม่แต่ซาเน่ยิงไม่ผ่านบล็อก
กำลังจะเข้าสู่ท้ายครึ่งแรกฝรั่งเศสยังหาโอกาสดีๆอีกครั้งไม่เจอ กลับกันเยอรมนีมาได้เรื่อยๆหาโอกาสเจอีกครั้งจากชูลซ์เติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนหักเข้าเขตโทษให้ซาเน่ยิงแต่ติดบล็อกก่อน
กินเตอร์โหม่งเตะมุมก็ย้อยออกหลังอีก
อินทรีเหล็กลองลุ้นด้วยลูกเตะมุมอีกรอบ โครสเป็นคนโยนจากขวาเข้ามาแล้วกินเตอร์ขึ้นโหม่งได้แต่บอลย้อยออกหลังไม่มีอะไร
ได้ลุ้น!กรีซมันน์ตักให้น้องเป้สอดมาสุขาชาร์จไม่โดน
จังหวะนี้ขอฝรั่งเศสพอได้ลุ้นเลยเมื่อบอลโดนโหม่งกลับมาหน้าเขตโทษกรีซมันน์เก็บได้ ก่อนจะตักเข้าไปข้างในให้เอ็มบาปเป้วิ่งสอดมาสวยแต่พยายามแหย่สุดขาแล้วไม่ถึงไม่ได้เสียว
เอร์นานเดซตะลุยมาสวยหักให้หล่อเหลายิงออกหลัง
ก่อนหมดครึ่งแรกตราไก่ได้โอกาสอีกทีเมื่อเอร์นานเดซโชว์สปีดกระชากหลบเข้ามาในเขตโทษสวย ก่อนหักไปเสาแรกให้ชิรูด์วิ่งมายิงมุมแคบส่งบอลหลุดกรอบ
ยังไม่ผ่าน!น้องเป้หนีตัวประกบมาจิ้มติดเซฟนอยเออร์
กลับเข้าครึ่งหลังฝรั่งเศสมีโอกาสดีที่จะตีเสมอ หลังเอร์นานเดซจ่ายทะลุช่องแล้วเอ็มบาปเป้สลัดซูเลอมาได้ เอ็มบาปเป้เข้าเขตโทษมาพยายามจิ้มให้ผ่านนอยเออร์แต่โดนเซฟได้
อินทรีมาใหม่ซาเน่ยิงไม่ดีพอออกเสาสอง
เยอรมนีหาทางบุกขึ้นมาทางซ้ายได้อีกรอบ เป็นชูลซ์ควบหน้าตั้งมาเลยแล้วตบเข้ามาในเขตโทษได้จบด้วยซาเน่เป็นคนยิงแต่โดนไม่ดีพอบอลเลยออกเสาไกล
ตราไก่ฟื้น!เอร์นานเดซเปิดให้กรีซมันน์โหม่งสะบัดตีเจ๊า
สุดท้ายฝรั่งเศสก็พยายามจนเอาประตูตีเสมอสำเร็จ เริ่มจากป็อกบาให้เอร์นานเดซวิ่งเติมมาทางซ้ายได้เปิดเข้าเขตโทษ ก่อนที่กรีซมันน์จะโหม่งสะบัดไปเสาสองลอยเข้าประตูไปแบบสุดเอื้อมนอยเออร์ ฝรั่งเศสตามเจ๊าสำเร็จ 1-1
ตราไก่จ่ายกันพลาดกนาบรี้ได้ยิงแต่โดนทุบ
ฝรั่งเศสเจอบีบเกือบเป็นเรื่องจ่ายกันพลาดหน้าเขตโทษตัวเองจนโดนตัดไป สุดท้ายโครสจ่ายให้กนาบรี้ได้ยิงนอกกรอบญอริสต้องทุบออกมา
แวร์เนอร์ขอสับไกติดบล็อกง่ายๆ
เยอรมนีหาทางบุกสวนกลับมาอีกรอบโครสมีตัวเลือกทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะเลือกจ่ายให้แวร์เนอร์ว่างกว่าทางขวาแต่ดันจบด้วยการยิงเองโดนบล็อกง่ายๆ
เปาแจกโทษอีก!ตราไก่ได้บ้างกรีซมันน์ยิงพาแซงนำ
เล่นไปเล่นมากลายเป็นฝรั่งเศสมาได้จุดโทษบ้าง จากจังหวะแทงเข้าเขตโทษให้มาตุยดี้ทะลุมาแล้วฮุมเมิลส์ตามเสียบดักไว้ จังหวะเสียบดูไม่โดนแถมเหมือนมาตุยดี้เหยียบฮุมเมิลส์ลื่นเองมากกว่าแต่มีเสียงนกหวีดไปแล้ว กรีซมันน์รับหน้าที่สังหารเองก็ยิงไม่พลาดฝรั่งเศสเลยแซงนำ 2-1
เด็มเบเล่ลงมาใหม่ได้ยิงเลยยังตรงตัวนอยเออร์
ท้ายอเกมเตะมุมของฝรั่งเศสเกือบทำให้มีประตูฝัง เปิดเข้ามาแล้วหลุดมาหาเด็มเบเล่ตรงกลางเลยยิงทันทีแต่บอลยังตรงตัวนอยเออร์รับติดมือ
จบเกมฝรั่งเศสกลับมาเอาชนะเยอรมนี 2-1 ทำให้ตอนนี้ตราไก่นำจ่าฝูงกลุ่มหนึ่งเพิ่มเป็น 7 คะแนนโอกาสดีต่อการคว้าตั๋วไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ ขอแค่ไม่แพ้ฮอลแลนด์นัดหน้า
ส่วนเยอรมนีน่าเป็นห่วงว่าจะร่วงจากลีก เอ เล่นมา 3 นัดหาชัยชนะไม่เจอและมีแต้มเดียว
เยอรมนี
Starting Formation: 3-4-3
4.
มัตธิอัส กินเตอร์
83'
6.0
19.
เลรอย ซาเน่
75'
5.5
6.
แซร์จ กนาบรี้
88'
5.5
ตัวสำรอง
22.
มาร์ก-อันเดร เตอร์ สเตเก้น
13.
โธมัส มุลเลอร์
88'
-
7.
ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์
75'
5.5
10.
ยูเลี่ยน บรันด์ท
83'
-
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Oct 17, 2018 06:45, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ