อาซาร์ร้อนเป็นไฟ!แหวกกรวย น.85 หงส์เงิบนำก่อน 'สิงห์' ถีบร่วงคาบ้าน 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ลิเวอร์พูลอุตส่าห์นำก่อนจากการฟาดของแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์แต่ดันมาเสีย 2 ประตูช่วง 6 นาทีโดยเฉพาะการกระชากไปยิงของเอด็อง อาซาร์ก่อนหมดเวลา 5 นาทีทำให้เชลซีแซงชนะระทึก 2-1 ผ่านเข้ารอบ 4 คาราบาว คัพ
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
3.
ฟาบินโญ่
87'
6
7.
เจมส์ มิลเนอร์
59'
6.5
10.
ซาดิโอ มาเน่
70'
6.5
ตัวสำรอง
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
59'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่
70'
6
11.
โมฮาเหม็ด ซาลาห์
87'
6
คาราบาว คัพ รอบ 3
สนาม แอนฟิลด์
พุธที่ 26 กันยายน 2561
กรรมการ เควิน เฟรนด์
ลิเวอร์พูล
1
2
เชลซี
1-0 แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 58'
1-1 เอเมอร์สัน พัลเมรี่ 79'
1-2 เอด็อง อาซาร์ 85'
เกมบิ๊กแมตช์ของรอบ 3 ลิเวอร์พูลจัดสำรองลงสนามเป็นส่วนใหญ่ไล่มาตั้งแต่ซิมง มิโญเล่ต์, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, นาธาเนี่ยล ไคลน์, ฟาบินโญ่, เซอร์ดาน ชากิรี่และแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ส่วนเชลซีก็ไม่แพ้กันใส่สำรองมาเต็มนำโดยวิลลี่ กาบาเยโร่, อันเดรส คริสเตนเซ่น, แกรี่ เคฮิลล์, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เชสก์ ฟาเบรกัสและอัลบาโร่ โมราต้า โดยเกมหลังสุดที่เจอกันรายการนี้คือเกมรอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2015 ซึ่งทีมจากลอนดอนเป็นฝ่ายเข้าชิงดำ
เปิดมาได้ยิงคนแรกลูก
เปิดเกมขึ้นมาบุกเข้าใส่กันเลยแล้วได้โอกาสยิงกันคนละครั้งโดยวิลเลี่ยนครอสบอลไปให้คริสเตนเซ่นได้โขกไม่ผ่านมิโญเล่ต์ส่วนลิเวอร์พูลได้ลุ้นจากการยิงนอกกรอบของเกอิต้าก็ยังไปติดมือของกาบาเยโร่
สิงห์เริ่มเกมได้ดี
เชลซีเริ่มเกมดูดีทีเดียวแล้วมาได้จบอีกครั้งเมื่อวิลเลี่ยนรับบอลต่อมาจากโมราต้าก่อนตัดสินใจยิงไกลนอกกรอบแต่ก็มิโญเล่ต์ก็ยังรับบอลเอาไว้ทัน
โปรหล่อหลุดยิงไม่ผ่านมินนี่
เชลซีน่าได้ประตูขึ้นนำเหลือเกินเมื่อฟาเบรกัสวางบอลอย่างแม่นเข้าไปในกรอบเขตโทษให้โมราต้าเอาชนะลอฟเรนก่อนกระดกบอลไม่ผ่านมิโญเล่ต์บอลตกลงมาโมราต้าตามไปเล่นอีกทีแต่ยิงผ่านหน้าปากประตูออกไปเท่านั้น
โมราต้ายัดเสาแรกมินนี่เซฟอีก
ลิเวอร์พูลเกือบเสียอีกรอบจากจังหวะที่วิลเลี่ยนแทงบอลทะลุช่องให้โมราต้าหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วล็อคหนีมาติปได้ก่อนยิงด้วยขวายัดมุมแคบแต่มิโญเล่ต์ก็ยังปิดมุมเอาไว้ปัดบอลออกไปทัน
มาเน่โดนศอกยังเล่นไหว
เกมหยุดลงชั่วขณะเมื่อมาเน่ลงไปนอนกลิ้งกลางสนามเมื่อกระโดดแย่งโหม่งแล้วโดนอัซปิลิกวยต้าชักศอกใส่บริเวณชายโครงเต็มๆ แต่ก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อไปได้โดยตอนนี้ลิเวอร์พูลโดนใบเหลืองไปแล้ว 2 คนคือเจมส์ มิลเนอร์และโจเอล มาติป
เชสก์แฮนด์บอลไม่เสียจุดโทษ
เดอะ ค็อปร้องเอาจุดโทษจากจังหวะที่มาเน่กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วเปิดยัดเข้าไปตรงกลางคริสเตนเซ่นสกัดบอลไปโดนมือของฟาเบรกัสแต่กรรมการไม่เห็นเลยไม่ได้เป่าให้เป็นแฮนด์บอลในจังหวะนี้
เกอิต้ากดเต็มกาบาเยโร่เซฟทัน
เกมสวนกลับของหงส์แดงได้ลุ้นเลยเมื่อสเตอร์ริดจ์ไหลบอลออกซ้ายให้เกอิต้ากระชากหนีอัซปิลิกวยต้าก่อนตะบันด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งแรงแล้วแต่กาบาเยโร่ยังพุ่งปัดซูเปอร์เซฟในจังหวะนี้
กาบาเยโร่เซฟอีก!มาเน่โขกไม่ผ่าน
หงส์แดงน่าได้ประตูขึ้นนำอีกหนชากิรี่หลุดขึ้นไปทางขวาแล้วล็อคกลับมาใช้เท้าซ้ายโยนไปทางเสาไกลให้มาเน่พยายามโขกย้อนศรกลับมาแต่กาบาเยโร่ยังเหนียวขืนตัวกลับไปปัดบอลก่อนเพื่อนมาช่วยเตะทิ้งไปอีกรอบ
หริดจับบอลลั่นอดยิง
ท้ายครึ่งแรกลิเวอร์พูลมีโอกาสทองเมื่อชากิรี่ได้จังหวะสวนกลับเร็วแล้วแทงบอลไปให้สเตอร์ริดจ์จะหลุดอยู่แล้วแต่จับบอลแรกไม่ดีบอลเลยไปถึงกาบาเยโร่อดยิงอย่างน่าเสียดาย
บาร์คลี่ย์เกือบทำเรื่อง!มาเน่ยิงไม่ผ่าน
โอกาสทองอีกครั้งของลิเวอร์พูลเมื่อบาร์คลี่ย์โขกบอลกลับหลังพลาดไปเข้าทางของมาเน่เบียคริสเตนเซ่นได้ก่อนล้มตัวยิงไปติดขาของกาบาเยโร่ได้แค่เตะมุมซึ่งลอฟเรนได้โขกแฉลบโมราต้าข้ามคานออกไป
อาซาร์มาแล้ว
เมาริซิโอ ซาร์รี่เปลี่ยนตัวแล้วเอาทางเอด็อง อาซาร์ลงสนามมาแทนวิลเลี่ยนเพื่อเติมเกมรุกในช่วงเวลาที่เหลือโดยในช่วงนี้ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่านิดหน่อยแต่ก็ยังไม่มีโอกาสเข้าทำมากเท่าไหร่
ลูกยากของชอบ!หริดฟาดซ้ายหงส์นำ 1-0
หงส์แดงได้ประตูขึ้นนำแบบสุดสวยเป็นการทำเกมทางซ้ายเกอิต้าพลิกบอลได้ก่อนส่องด้วยขวากาบาเยโร่ยังเซฟเอาไว้ได้ปัดบอลออกมาแต่ไม่พ้นสเตอร์ริดจ์ตีลังกาฟาดด้วยซ้ายเข้าไปกาบาเยโร่กลับมาไม่ทันแล้ว
มาเน่ออกฟีโน่เข้า
คล็อปป์ตัดสินใจเปลี่ยนตัวบ้างโดยส่งเทพตาเดียวอย่างโรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่ลงมาแทนซาดิโอ มาเน่ที่ทำผลงานได้ค่อนข้างโดดเด่นในเกมนี้
ชากิรี่ร่วงยังไม่ได้โทษ
ลิเวอร์พูลอดได้จุดโทษอีกจากจังหวะที่เฮนเดอร์สันตักบอลสวยไปให้ชากิรี่หลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแล้วแต่ไปล็อคหลบเอเมอร์สันก่อนทิ้งตัวล้มไปกรรมการว่าเบาเกินกว่าจะเป็นการฟาวล์ในเขตโทษ
VAR ช่วยไม่ไหว!เอเมอร์สันซ้ำ 1-1
เชลซีมาตีเสมอจนได้จากฟรีคิกริมเส้นด้านขวาเปิดมาทางเสาแรกให้บาร์คลี่ย์ได้โขกมิโญเล่ต์เซฟได้แต่บอลมาเข้าทางเอเมอร์สันตามซ้ำเข้าไปไม่พลาดแต่มีการดู VAR ย้อนหลังก่อนยืนยันว่าเป็นประตู
แม่นไป!หริดปั่นชนคาน
ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อฟิร์เมียโน่ย้อนหลังมาให้สเตอร์ริดจ์จับก่อนบรรจงปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบกาบาเยโร่ได้แต่มองแล้วแต่บอลไปชนคานเข้าอย่างจังอดได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง
ร้อนเป็นไฟ!อาซาร์กระชากหาย 2-1
กลายเป็นเชลซีได้ประตูขึ้นนำแทนต้องชมอาซาร์โชว์กระชากบอลเดี่ยวจากริมเส้นขวาทะลุเกอิต้ากับโมเรโน่ก่อนตะบันเต็มข้อบอลพุ่งวาบผ่านมิโญเล่ต์เข้าไปเลย
สิงห์ตบหงส์ร่วงคาบ้าน
ช่วงท้ายแม้ทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาทีแต่ลิเวอร์พูลก็ทำอะไรไม่ได้ทำให้ต้องแพ้จอดป้ายคาราบาว คัพแค่รอบ 3 ปล่อยให้เชลซีผ่านไปลุ้นต่อในรอบต่อไป
เชลซี
Starting Formation: 4-3-3
27.
อันเดรส คริสเตนเซ่น
73'
6
17.
มาเตโอ โควาซิช
64'
5.5
22.
วิลเลี่ยน
56'
6.5
ตัวสำรอง
30.
ดาวิด ลุยซ์
73'
6
10.
เอด็อง อาซาร์
56'
7.5
7.
เอ็นโกโล่ ก็องเต้
64'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Thu Sep 27, 2018 07:06, ทั้งหมด 19 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ