ต่างดาวเฮ!"อิสโก้"ซัดกู้หน้า"ราชัน"ไม่มาตามนัดเจ๊าหืด 1-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด พลาดท่าทำแต้มจี้กดดันบาร์เซโลน่าซะแล้ว เมื่อทำได้แค่ไล่ตามตีเสมอแอธเลติก 1-1 เสียสถิติชนะ100% ปล่อยให้ทีมจากต่างดาวโกยแต้มเต็มนำฝูงเดี่ยว โดยนัดนี้ทีมราชันได้ อิสโก้ ตัวสำรองซัดกู้หน้าตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง
แอธเลติก บิลเบา
Starting Formation: 4-3-3
7.
เบนัต
81'
6.5
10.
อิเคร์ มูเนียอิน
54'
7.5
9.
อินากี้ วิลเลียมส์
76'
6
ตัวสำรอง
6.
มิเกล ซาน โฆเซ่
76'
6
17.
มิเกล ริโก้
81'
6
21.
อันเดร์ กาป้า
54'
6.5
ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
สนาม ซาน มาเมส บาร์เรีย
วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2561
กรรมการ โฆเซ่ กอนซาเลซ
แอธเลติก บิลเบา
1
1
เรอัล มาดริด
อิเคร์ มูเนียอิน 32'
อิสโก้ 64'
เรอัล มาดริด มาเยือนด้วยผลงานออกสตาร์ตฤดูกกาลที่ยอดเยี่ยม เก็บชัยชนะได้ 3 นัดรวด เกมนี้กุนซือฆูเลน โลเปเตกี จัดทีมชุดใหญ่ลงสนามครบครัน โดยเฉพาะ 3 ประสานเกมรุก แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และมาร์โค อเซนซิโอ แดนกลางยังเป็นลูก้า โมดริช และโทนี่ ครอส โดยมีดานี่ เซบาญอส สอดแทรกเป็นตัวจริงก่อนหน้าคาเซมิโร่ และอิสโก้
ช่วงแรกบิลเบาทำการบ้านมาดีมาก
ออกสตาร์ตเกมช่วง 10 นาทีแรก เจ้าถิ่นเตรียมความพร้อมมาดี ใช้เกมเพรสซิ่งตั้งแต่ในแดนของตัวเองเล่นงานเรอัล มาดริด จนต่อเกมไม่ได้ตามถนัด โอกาสลุ้นทำประตูแทบไม่มีให้เห็นในช่วงแรกนี้
มาดริดยังหาโอกาสเข้าทำไม่ได้
เกมดำเนินมาถึงกลางครึ่ง เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายที่เซตบอลหาช่องไป-มา ชนิดเหนือกว่าบาน แต่ก็ยังหวังผลอะไรไม่ได้มากนักในพื้นที่สุดท้านที่เจ้าถิ่นคุมโซนเอาไว้เหนียวแน่น
ยูริได้ซัดให้คูร์กตัวส์ต้องออกแรง
เรอัล มาดริด บุกมากกว่าก็จริง แต่บิลเบาก็หาโอากสจบสกอร์ได้เช่นกัน จากเกมสวนกลับ ยูริ กดไกลนอกกรอบเต็มข้อให้คูร์กตัวส์ต้องใช้เท้าสะกัดบอลออกมาได้
อเซนซิโอซัดเหน่งๆแต่ติดเซฟ
เรอัล มาดริด หันมาใช้วิธีเดินเกมริมเส้น อาศัยการครอสบอลเข้าไปสร้างอันตราย ซึ่งก็ทำได้ดี ทีมหาโอกาสจบสกอร์ได้มากขึ้น และจังหวะนี้ก็เป็นอเซนซิโอ รับลูกครอสได้ยิงที่เสาไกล เดือดร้อนผู้รักษาประตูต้องออกแรงปัดป้อง
บิลเบาพลิกนำ 1-0 จากมูเนียอิน
ทำไปทำมาบิลเบาพลิกขึ้นนำ 1-0 เฉยเลย เป็นลูกที่หลุดทางขวาจาก เด มาร์กอส ก่อนตบเขามาหน้าปากประตูให้ อินากี้ วิลเลียมส์ และมูเนียอิน ตามเข้าชาร์ตและสุดท้ายเป็นมูเนียอินที่ยิงเข้าไป
บิลเบายิงเข้าแต่ล้ำหน้า
บิลเบา น่าได้ประตูที่ 2 จากฟรีคิกที่ถูกเปิดเข้าไปหาราอูล การ์เซีย แปโล่งตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า
โมดริชซัดไกลแต่อูไนตามเซฟได้อีก
เรอัล มาดริด เกือบแก้คืนได้ทันทีจากลูกยิงไกลของโมดริช บอลพุ่งเรียดแรงเข้าโคนเสา แต่อูไนไวมากพุ่งมาปัดบอลทิ้งได้ทัน
โลเปแก้เกมส่งคาเซมิโร่คุมกลาง
โลเปเตกี แก้เกมอย่างรวดเร็วเมื่อส่งคาเซมิโร่ ลงมาช่วยคุมเกมแดนกลางแทนที่เซบาญอส
บิลเบาก็ยังทำเกมสู้ได้สูสี
ออกสตาร์ตครึ่งหลัง บิลเบา ก็ยังคงทำผลงานได้ดี สามารถคอนโทรลบอลสู้กับเรอัล มาดริด ได้บ้างชนิดไม่ปล่อยให้ทีมเยือนไล่กดดันอยู่ฝ่ายเดียว
มาดริดมีลุ้น 2 หนแต่อูไนยังเซฟ
ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้จากฟรีคิก 30 หลาของโมดริช บอลพุ่งเข้ากรอบให้อูไน เซฟซองแตก และเป็นรามอส ที่ตามเข้าซ้ำดาบสองอย่างไว แต่อูไน แก้ตัวขยับออกมาใช้ตัวบล็อคลูกยิงนี้ได้ทัน
มาดริดต้องแก้เกมอิสโก้แทนโมดริช
เกมของเรอัล มาดริด ยังกดดันได้ไม่เต็มที่ โลเปเตกีต้องปรับหมากอีกครั้งด้วยการส่งอิสโก้ แทนที่โมดริช
อิสโก้ลงมาโขกตีเสมอ 1-1 ได้เลย
ลงมาอยู่ในสนามแค่ 3 นาที อิสโก้ ก็แผงฤทธิ์ทะยานขึ้นโขกลูกครอสสุดเส้นหลังจากทางเบล พังตาข่ายให้ทีมตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ
เบนเซม่าปล่อยโอกาสทองหลุดลอย
ทีมเยือนมีโอกาสทองอีกครั้ง จากจังหวะได้สับไกเผาชนของอเซนซิโอ แต่ติดเซฟ บอลไม่พ้นอันตรายมาให้เบนเซม่ายิงด้วยขวาหลุดกรอบแบบน่าเสียดาย
มาดริดพยายามเดินเกมรุกแต่ไม่ดีพอ
ตีเสมอได้ก็จริงแต่เรอัล มาดริด ก็ยังไม่สามารถกดดันเจ้าถิ่นได้เป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังเป็นบิลเบาที่ได้เดินเกมรุกมาป้วนเปี้ยนหวิดจะได้ประตูขึ้นนำอีกหลายอีกด้วย
ช่วงเวลาที่เหลือ เรอัล มาดริด พยายามเต็มที่แล้วก็ยังหาประตูชัยไม่เจอ จบเกมเสมอบิลเบา 1-1 เสียสถิติชนะรวดปล่อยให้บาร์เซโลน่านำเดี่ยวเป็นที่เรียบร้อย
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
10.
ลูก้า โมดริช
61'
6.5
24.
ดานี่ เซบาญอส
46'
6
11.
แกเร็ธ เบล
75'
7.5
ตัวสำรอง
14.
คาเซมิโร่
46'
6.5
17.
ลูคัส บาซเกซ
75'
6
22.
อิสโก้
61'
7
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Sep 16, 2018 06:32, ทั้งหมด 14 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ