เรื่อง โรงแรมตุรกี คุณเอ็ม
เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมด ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นกับคุณครูติวเตอร์
สอนภาษาอังกฤษท่านหนึ่ง ประสบการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อตอนที่พี่เอ็ม
ต้องเดินทางไปสัมนาที่ประเทศตุรกี ซึ่งทางบริษัท ก็ได้จัดการจองโรงแรมที่พัก
เอาไว้ให้เป็นที่เรียบร้อย แต่ทว่าเครื่องบินที่พี่เอ็ม ต้องเดินทางนั้นเกิดการดีเลย์ขึ้น
ทำให้กว่าจะเดินทางไปถึงที่หมายก็ดึกมากแล้ว
โรงแรมที่พี่เอ็มได้เดินทางไปถึงนั้นเป็นโรงแรมหรูหรา ระดับ 5 ดาว
บรรยากาศก็เงียบสงัด แต่ด้วยความที่เดินทางมาไกลและค่อนข้างเพลีย
พี่เอ็มจึงไม่ได้สนใจอะไรมาก ก็เดินตามพนักงานที่นำทาง ไปยังห้องพักทันที
พอไปถึงพี่เอ็มนั้น ได้เห็นสภาพห้องก็ถึงกับอึ้ง เพราะว่าในห้องนั้น
เป็นห้องที่กว้างมาก กว้างเพราะพอที่จะนำมาใช้เป็น ห้องจัดเลี้ยงได้เลย
มันทั้งกว้างทั้งโล่ง ห้องทั้งห้องมีเตียงขนาดใหญ่หลังเดียว
ตั้งอยู่ที่มุมสุด ของห้องเท่านั้น บนพื้นห้องก็ถูกปูด้วยพรมสีเลือดหมู
ผนังห้องนั้นก็เป็นวอลเปเปอร์สีเลือดหมู มีรูปภาพต่างๆ
ถูกแขวนเอาไว้บนกำแพง ดูแล้วหรูมากจนพี่เอ็มเริ่มแปลกใจว่าทำไม
บริษัทจับจองห้องให้เขาหรูขนาดนี้ .. !?
พี่เอ็มก็เลยวางกล่องสัมภาระลง ห่างจากเตียงไม่มากนัก แล้วก็เดินเข้าไปอาบน้ำ
เตรียมตัวเข้านอนเพื่อจะไปทำงานแต่เช้าวันพรุ่งนี้ พอก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำ
แล้วเปิดฝักบัวที่อยู่เหนืออ่าง ทันทีที่เปิดฝักบัว พี่เอ็มก็ได้ยินเสียงดนตรีดังขึ้นเบาๆ
ในใจตอนนั้นก็นึกสงสัยว่าใคร มาเปิดเพลงดึกดื่นป่านนี้ แต่เมื่อลองหมุนฝักบัวปิดนั้น
เสียงดนตรีก็เงียบหายไป ตอนนั้นพี่เอ็มก็เริ่มเอะใจนิดๆ
จึงลองเปิดเปิดปิดปิดฝักบัวอยู่หลายครั้ง ซึ่งเมื่อเปิดฝักบัว ก็จะได้ยินเสียงเพลง
แต่พอปิดเสียงเพลงก็จะเงียบหายไป ก็ได้แต่คิดติดตลกว่า เออ ดีแฮะ นี่อาจจะเป็นลูกเล่น
อะไรสักอย่างของโรงแรม ก็เลยไม่ได้ติดใจอะไร อาบน้ำเสร็จก็เดินมานอนบนเตียง
เวลาผ่านไปไม่เกิน 5 นาที พี่เอ็มก็เริ่มจะได้ยินเสียงดนตรีนั้น ดังขึ้นอีกครั้ง
ลักษณะของเพลงนั้น เหมือนกับเพลงที่เปิดในผับทั่วไป
จากเสียงที่เปิดเบาๆ ก็ค่อยๆทวีความดังขึ้น จนราวกับเปิดอยู่ในห้องของตัวเอง
และอีกความรู้สึกหนึ่ง ที่ทำให้พี่เอ็มนั้นกลัวมาก ก็คือ ตอนนั้น
พี่เอ็มรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนั้นเพียงลำพังคนเดียวอีกแล้ว
มีความรู้สึกเหมือนกับมีคนเดินอยู่เต็มห้องไปหมด มีเสียงคนพูดคุยกัน
เป็นภาษาที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง แต่ว่าพี่เอ็มก็ไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นมอง
จนกระทั่งผ้าห่ม ที่ห่มกายเขาอยู่นั้น ถูกถลกลงอย่างแรง แล้วพี่เอ็ม
ก็มีความรู้สึกว่าตอนนี้ มีคนกำลังกระชากเขาให้ลงจากเตียง วินาทีนั้นถึงกับสะดุ้งสุดตัว
และพอลืมตาขึ้นมา ก็ปรากฏเงาของคนมากมาย ยืนอยู่เต็มห้อง
หลายคนนั้น ยืนล้อมรอบเตียงของพี่เอ็มอยู่ ตอนนั้นพี่เอ็มตกใจมาก
ตัดสินใจวิ่งฝ่าเงาคนมากมายนั้น ออกไปที่ประตู มุ่งหน้าลงไปที่เคาน์เตอร์
พยายามเค้นถาม เอาคำตอบจากพนักงานว่า ในห้องนั้นมันมีอะไรอยู่กันแน่
แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ตอนนั้นพี่เอ็มกลัวมาก จนตัดสินใจว่าคืนนี้
จะนอนอยู่ที่หน้าฟร้อน รอจนเช้าค่อยขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
เช้าวันรุ่งขึ้นพี่เอ็มทำธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็ออกไปทำงาน
จนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเสียสนิท พอเวลากลับหลังจากที่เลิกงาน
ก็นั่งแท็กซี่มากับลูกค้าชาวตุรกี พี่เอ็มก็ชี้ให้ดูว่า ตัวเขาเองนั้นพักอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้
พอลูกค้าได้ยินอย่างนั้น ก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อหู แล้วก็ถามกลับมาว่า
"คุณพักอยู่ที่โรงแรมนี้จริงๆหรือ" พี่เอ็มก็ตอบว่าใช่ พร้อมทั้งบรรยาย
สภาพของห้องให้ฟัง ลูกค้าคนนั้นก็ทำหน้าเสีย
แล้วตอบกลับมาว่า "คุณไม่รู้หรือว่าโรงแรมนี้เคยมีคนตาย ตายเยอะด้วย
เคยมีคนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงแขกเหรือที่กำลังสังสรรค์กันอยู่
วันนั้นมีคนเสียชีวิตเป็นเบือ กลายเป็นเหตุการณ์โศกนาฏกรรม
ที่เคยลงหนังสือพิมพ์หน้า 1 มาแล้ว อีกทั้งด้านหลังของโรงแรมแห่งนี้
ก็ยังเป็นสุสานอีกด้วย" พอพี่เอ็มได้ยินเรื่องราวแบบนั้นก็หน้าซีด
รู้แล้วว่าเมื่อคืนนี้ สิ่งที่ได้พบได้เจอมันคืออะไร รีบกลับไปเช็คเอาออกทันที
แล้วพี่เอ็ม ก็มาทราบภายหลังอีกว่า ที่จริงแล้วทางบริษัทเขา
จัดโรงแรมให้กับพี่เอ็มอีกโรงแรมหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมแห่งนี้
ไปไม่ไกลมากนัก แต่เนื่องจากห้องนั้นเต็ม พี่เอ็มจึงโดนย้ายมาอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงแห่งนี้แทน
....
จากการที่ได้อ่านเรื่องนี้ จึงกลับไปสืบค้นข่าวเก่าๆ
ก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จริง เคยเกิดเหตุการณ์
กราดยิงขึ้นในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 ศพ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พศ. 2552
เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้.....
จากที่ทราบก็ได้ไปหาข่าวมาเหมือนกันคิดว่าเป็นข่าวนี้
แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าสถานที่ก่อเหตุ เป็นอาคารแบบไหน ใช่โรงแรมไหม ???
ข่าว
https://news.mthai.com/world-news/28028.html
.
...