[RE: พรรคอนาคตใหม่..... คิดไงกันบ้างครับ]
Foollyman พิมพ์ว่า:
Negrito พิมพ์ว่า:
WataruKurzawa พิมพ์ว่า:
Stratos พิมพ์ว่า:
Zipher_SE พิมพ์ว่า:
Stratos พิมพ์ว่า:
นอมินี เพื่อไทย
เอาโรฮิงยาไปเลี้ยงทีบ้านก่อน ให้ทุนฟ้าเดียวกันแต่บอกไม่รู้ มันก็การเมืองแบบเก่านั้นแหละ
นอมินีเพื่อไทยยังไงครับ เพื่อไทยก็ลงสมัครนะครับ งง แล้วธนาธรเกี่ยวไรกับเพื่อไทยครับ อันนี้ไม่เข้าใจครับ
มันก็เหมือนการแยกกันเดินแต่เป้าหมายเดียวกัน เอาเป็นว่าดูไปเรื่อยๆ การแสดงออกหลังๆผมว่าก็เห็นแล้วนะ
ไม่น่ามั้งครับ จะมาตัดคะแนนกันเองแบบนี้พรรคคู่แข่งมีแต่ได้กับได้ป่าว หรือผมคิดตื้นไป
เหมือนพรรคสีฟ้ากับ กับสุเมพที่ไปตั้งพรคคใหม่ไงครับ คือการเลือกตั้ง
พรรคที่ได้ สส เยอะที่สุด ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนายก สส ทั้งหมด
เขาจะไปเลือกกันอีกทีว่าให้ใครเป็นนายก ทีนี้ภาพทางการเมืองของ
พรรคสีแดงมีภาพลบใหญ่ๆอยู่ ประชาชนจำนวนนึงที่เคยเลือกก็เปลี่ยนใจไป
การที่มีพรรคทางเลือกใหม่ขึ้นมาก็ทำให้ กลุ่มที่เปลี่ยนใจ มีแนวโน้ม
จะไปเลือกทางเลือกใหม่มากขึ้น เพราะแน่นอนว่ามีไม่กี่คนหรอกที่เปลี่ยน
จากแดงเป็นฟ้าทันที ของฝั่งสีฟ้าก็เหมือนกัน แบ่งเป็นสองพรรค ภาพด้านลบ
โยนไปให้สุเมพรับแทน ฝั่งที่เปลี่ยนใจจากฟ้าไปเป็นสีอื่นจากการกระทำหน้างาน
ของสุเมพก็ลดลงคะแนนเสียงของสีฟ้าก็ไม่ตกมาก ละยังได้หวังผลจาก สส
ของสุเมพอีกทีด้วย
อันนี้ผมแค่อธิบายคร่าวๆเฉยๆ ว่าการแบ่งสองพรรคไม่ได้ทำให้ตัดคะแนนกัน
ไม่ได้หมายความว่าพรรคธนาธรเป็นนอมินีใคร เพราะไม่มีหลักฐานอะไร
ผมว่าไม่น่าใช่นะอุดมการณ์ของ อนค. ต่างกับเพื่อไทยนะครับถ้าอยากเฉดสีตามอุดมการณ์จริงๆ เพื่อไทยยังเป็นพรรคซ้ายกลาง ที่เห็นปากเห็นท้องของประชาชนจริงๆ แต่ก็ยังดีลกับกลุ่มอำนาจนิยม อีลีท นายทุนอยู่
ส่วนอนาคตใหม่นี่ ไปทางซ้ายเสรีนิยมชัดเจนเท่าที่ผมตามมา ไม่ดีลกับกลุ่มโครงสร้างอำนาจนิยมทั้งนั้น และพยายามทำให้กลุ่มเยาวชน ผู้ใช้แรงงาน LGBT ขยับมามีปากมีเสียงและร่วมกำหนดนโยบายมากขึ้น ทำให้พรรคเป็นของคนทุกคนไม่ใช่เป็นพรรคบริษัทแบบเพื่อไทยอะครับ
ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมเห็นด้วยแบบท่านนะ ว่ารอบนี้กลุ่มคน Moderate และ Swing vote มีสูงมาก คือ 1.กลุ่มคนที่เริ่มถอยออกมาจากเพื่อไทยเพราะพรรคอ่อนแอสู้ไปก็แพ้ไป แต่ไม่อยากเลือกประชาธิปัตย์ 2.คนเคยเลือกประชาธิปัตย์แต่ไม่อยากเลือกเพื่อไทยเพราะกลัวผีทักษิณ แต่ลึกๆแล้วอุดมการณ์ไปทางเสรีนิยม อันนี้ผมเห็นว่ามีพอสมควร
3.กลุ่มคนที่ไม่เคยอินกับการเมืองแบบเก่า อยากหาทางเลือกใหม่ ๆ รวมถึงเด็กอายุ 18-27 ปี ที่จะได้เลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต อันนี้ก็น่าเจาะ
ผมเห็นว่าใครเจาะ 3 กลุ่มใหญ่นี้ได้ จะกลายเป็นพรรคอันดับ 3 ถึง 2 ในสภาทันทีอะครับ
ตราบเท่าที่การอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ยังขึ้นอยู่กับกลุ่มทุน นายทุนเจ้าใหญ่ๆ
ยังไงก็ตัดไม่ขาดครับ เรื่องปัญหาการดีลกับนายทุน
ดูจากปัญหาก็เกิดตั้งแต่ตั้งพรรคแล้วนะ
ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ชอบนายทุน แต่ต้องเข้าใจบริบทประเทศไทยก่อนนะครับ
ว่าปัญหาหลักๆคือปัญหาความยากจนน่าจะเป็นเรื่องใหญ่สุดของประเทศเลย
อีกอย่างตามหลักการทั่วไปของการกำหนดนโยบายสาธารณะ ต่อให้เป็นกลุ่มนายทุนสนับสนุน มันก็ไม่ได้มีหลักการห้ามอะไร เพราะนับเป็นปัจเจกบุคคลเช่นกัน
เพราะหลักการของ รธน เจตนารมณ์ชัดเจน คือ การที่ประชาชนทุกคน มีสิทธิ์เข้าถึงปัจจัยได้อย่างเท่าเทียมกันไม่แบ่งแยกว่ารวยหรือจน และรวมถึงความคิดความเห็นด้วยที่ไม่แบ่งแยกกัน(โดยรัฐบาลเป็นคนจัดการจัดสรรปัจจัยหรืองบประมาณ หรือทรัพยากร
อ้างอิงจาก ดาวิด อีสตัน ที่นิยามไว้ว่า การบริหารในด้านการเมือง ระบบการเมืองที่มีคือการจัดสรรทรัพยากรที่มีคุณค่าแก่กลุ่มคน หรือสังคม ประมาณนี้แหละมั้ง ผมจำได้คร่าวๆ ไม่เก่งปรัชญาการเมือง ใครเก่งๆปรัชญาการเมืองก็รบกวนแก้ไขให้ด้วยละกัน)
ข้อเรียกร้องของประชาชน เขาไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นประชาชนที่มีพื้นเพแบบไหนถึงจะสามารถเรียกร้องได้ แต่เขาเหมารวมว่าเป็นคนในสังคมนั้นๆที่ถูกปกครองไงครับ
ถ้าจะสลัดระบอบนายทุนให้ได้ อันดับแรกต้องลดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนครับ
จากนั้นคนจนที่ลืมตาอ้าปากถึงจะสามารถมีปากมีเสียงร่วมกันผลักดันวาระต่างๆเพื่อเข้าไปกำหนดนโยบายได้อีกทอดนึง
คุณลองคิดดูสิ ว่าตาสีตาสาจะเอาเวลาว่างที่ไหนไปเรียกร้องข้อเสนออะไรให้รัฐบาลได้
ในเมื่อขนาดอายุ 60แล้ว บางคนยังต้องกัดฟันทำงานหาเลี้ยงตัวเองอยู่เลย
เพราะฉะนั้นเนี่ย ปัญหามันอาจจะไม่ได้เกิดจากความยากจนอันเดียวด้วยซ้ำไป
อาจจะมีปัญหาอื่นๆอยู่ด้วย มากน้อยก็ตามแต่ แต่สุดท้ายผมว่าตัดไม่ขาดหรอกครับ
ส่วนในด้านการต่อรองอำนาจกับผู้มีอำนาจที่แท้จริง เป็นทางเลือกเดียวที่สามารถทำให้พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลสามารถอยู่รอดแล้วบริหารประเทศได้ครับ
ข้อนี้พิสูจน์จากงบกลาโหม กับการที่รัฐบาลไม่สามารถขัดใจอะไรกับกระทรวงนี้ได้เลย อันนี้คือเรื่องที่มันเกิดขึ้นจริงและเป็นอยู่ครับ