อันนี้ถือว่ามาถกแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ

สำหรับผมเว็บไซต์เป็นของจำเป็นที่ต้องมีควบคู่ไปกับเพจเฟสบุ้ค อินสตาแกรมและโซเชี่ยลมีเดียอื่่น ๆ ที่ผมทำจะเป็นแบบนี้ครับ

เว็บไซต์หลัก

---> Facebook Page

---> Instagram

---> LINE@

---> Youtube / Pinterest / ฯลฯ

หน้าที่ของแต่ละส่วนคือ

เว็บหลัก - จะเป็นส่วนให้ข้อมูลสินค้าและสร้างความน่าเชื่อถือเป็นหลักครับ

Facebook Page - เป็นส่วนสำหรับลูกค้าที่อยากดูฟีดแบ็กสินค้าจากลูกค้าคนอื่น ๆ ซึ่งในหน้าเว็บเราจะมีฟีดแบ็กแต่ความน่าเชืื่อถือจะน้อยเพราะคนดูสามารถสงสัยได้ในหลายประเด็น เช่น คนขายแต่งฟีดแบ็กเองหรือเปล่่า / ฟีดแบ็กจ้างมามั้ย / ฯลฯ แต่ในเพจฟีดแบ็กจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าโดยเฉพาะใน Reviews

ข้อมูลในเพจจะเชื่อมกับในเว็บหลัก เช่น ข่าวสารที่นำเสนอในเพจก็จะมีลิ้งค์ไปเว็บหลักและอัพเดทด้วย

Instagram - สำหรับลงรูปสินค้า ข้อมูลติดต่อและลิ้งค์ไปยังเว็บหลัก

LINE@ - สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดต่อเร็ว ๆ สั่งซื้อเร็ว ๆ ด่วนทันใจ

Youtube - สำหรับลงวิดีโอและเชื่อมเข้ามาเว็บหลัก

Pinterest / Linkedin - อันนี้คนไทยไม่ค่อยใช้แต่ผมไว้ทำสื่อกับลูกค้าต่างประเทศครับ

ส่วนตัวผมถือว่าเว็บมีความสำคัญเพราะ

- เราควบคุมได้ 100% เพจเฟสเราอาจโดนรีพอร์ตปิดได้แต่เว็บหลักคือของเราเลย

- การมีเว็บจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในตัวตนมากกว่ามีเพจอย่างเดียว เพราะเพจใครก็สร้างได้มีได้แทบจะทันทีครับ

สำหรับช่วงเริ่มต้นคนน้อยผมคิดว่าควรเริ่มต้นที่ 2 ตัวคือเพจเฟสและ Instagram เพราะการมีเพจเพื่อสื่อสารกับลูกค้าก่อนเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงแรกส่วน Instagram มีไว้ลงภาพสินค้าเรียกแขกเช่นกัน

พอสินค้าเริ่มไปได้มีจำนวนคนระดับนึงควรเพิ่่มช่องทางติดต่ออย่าง LINE@ เข้ามา จริง ๆ ช่องทางนี้จะมีแต่แรกก็ได้แต่ช่วงแรก ๆ ที่เรามีคนน้อยหรือไม่มีเลยการมีช่องทางนี้จำเป็นต้องพร้อมตอบลูกค้าให้มากเพราะลูกค้าจะคาดหวังว่าเมื่อเค้าติดต่อในไลน์จะได้รับการตอบรับที่เร็วหรือทันที บางคนก็ไม่รู้ว่าเวลาตี 2 คือเวลาที่คนเค้านอนกันแล้วเพราะคาดหวังว่าจะมีทีมงานตอบ ตรงนี้เป็นดาบสองคมในช่วงแรกครับ

ใครมีประสบการณ์ตรงนี้ยังไงแชร์กันได้นะครับจะเป็นประโยชน์กับคนที่คิดเริ่มต้นทำครับ

ถ้างั้นรบกวนสอบถามหน่อยครับ

ท่านขายอะไรครับ คือ ผมอยากขายด้วย แต่ยังหาแหล่งสินค้าไม่ได้

ถ้าไม่ลำบาก รบกวนแนะนำหน่อยนะครับ หลังไมค์มาก็ได้ครับ

เงินทอน แต่ละเดือนไม่ไหวจริงๆ

Edit : ไม่ได้หมายถึง ขายสินค้าตัวเดียวกับท่านนะ

แวะมาดูความคิดเห็นกับทัศนะคติครับ

ตอบในสถานะผู้ซื้อ

จำเป็นมากครับ เพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้น เหมือนเป็นเครดิตได้อีก 1 อย่าง

ผมซื้อของออนไลน์ มักเลือกจากแหล่งที่ชัดเจน ติดต่อได้ รายละเอียดครบ อ่านง่าย

เพื่อนผมเปิดเขียงหมูอยู่ตลาด เดี๋ยวจะเอาให้มันดู

เว็บไซต์ดูดี น่าเชื่อถือ ช่วยในการตัดสินใจลูกค้าได้เยอะ

ถามในนี้ละกันครับโพสใน App Line,Facebook,Instagram มันต่างกันยังไงผมสังเกตุบางคนลงรูปเดียวกันทั้ง 3 app เลยหรือคนละกลุ่มเป้าหมาย

ขอความรู้ด้วยครับ

ผมขอถามท่านนอกประเด็นหน่อยนะครับ

การขายของออนไลน์นี่มันมีหนังสือสอนแบบเป็นขั้นตอน 1 2 3 เลยรึเปล่าครับ

พอดีตอนนี้กำลังลงทุนทำธุรกิจกับญาติอยู่ครับ และกำลังคิดว่าจะเปิดตลาดขายแบบออนไลน์ในเร็วๆนี้ (อุปกรณ์เครื่องจักรซื้อมาพร้อมแล้ว เหลือแค่หาสูตรที่ลงตัว)

อยากจะขอคำแนะนำจากท่านผู้มีประสบการณ์หน่อยครับ

ถ้าหน้าเว็ปกากเกินไปผมไม่กล้าซื้อน่ะ แบบลายฟรุ้งฟริ๊ง สีพาสเทล มีวิ๊บๆวับๆตามหน้าเว็บผมกดปิดเลย

เท่าที่เคยไปอบรมมาหลายๆที่หลายๆครั้ง เสียเวลาไปหลายวัน หลายร้อยชั่วโมง พอจะสรุปได้ว่า

*** เฟสบุ๊คเพจ - IG เอาไว้เปิดตลาดหาลูกค้าเพิ่ม

*** เว็บไซด์ เอาไว้เป็นฐานข้อมูลและความน่าเชื่อถือ

*** Line@ เอาไว้ Keep รักษาฐานลูกค้าเก่า ติดตามเพื่อให้กลับมาซื้อซ้ำอีก

ใช้งานให้ถูกหลักถูกจุดประสงค์ก็จะได้ผลดีมากขึ้น
อย่าพยายามเอา Line ไปหาลูกค้าเพิ่มเพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้ ใครจะมา Add Line เพื่อเริ่มดูสินค้า มันไม่มีหรอก
มีแต่ดึงดูดมาด้วยเพจแล้วล่อให้@Line เพื่อให้ได้ข้อมูลมาเป็นเพื่อนกันจะได้ตามโฆษณาได้ทีหลัง
ซึ่งโฆษณาของ Line@ จะถูกบล็อกอย่างรวดเร็วหากว่ามันเป็นข้อความที่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้ชม ก็ลองคิดดูว่าข้อความประเภทไหนที่มันจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า ...

คำตอบก็ไม่ยากเกินคาดเดาหรอก แต่ไม่ค่อยคำนึงถึงกันเท่านั้นเอง นั่นก็คือ

สำหรับผมเวปไซด์ เหมือนกับช่วยยืนยันหรือบ่งบอกการมีตัวตนของผู้ขายระดับหนึ่งเพราะต้องมีการจดทะเบียนโดเมน แล้วยังต้องมีการจัดหมวดหมู่สินค้า ต้องลงทุนในส่วนของตัวเวปไซด์ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร ผิดกับพวกเฟสที่แทบจะไม่ต้องทำอะไร แค่ถ่ายรูปสินค้ามาลงอัพขาย ถ้าเกิดมีปัญหาก็ปิดเฟสหนี ปกติโดยส่วนตัวผมไม่ชอบซื้อของผ่านทางเฟส เพราะไม่แน่ใจว่าวันดีคืนดีโอนตังไปแล้วจะหายเงียบไปไหม ผิดกับเวปไซด์ที่ถ้าปิดๆเปิดมันมีค่าใช้จ่ายอยู่ ทั้งค่าโดนเมนค่าเช่าhost ถ้าเวปไหนมีระบบจ่ายปลายทางด้วยผมยิ่งชอบแม้จะเสี่ยงแต่ก็น้อยกว่าโอนตังไปก่อนแน่ ถ้าใครเปิดเฟสขายของแล้วคิดว่าระบบจ่ายเงินปลายทางเสี่ยงที่จะโดนลูกค้าปฏิเสธของ เสียเวลาทั้งค่าส่งอีก ผมว่าคิดผิดนะ คนสั่งแสดงว่าเขาสนใจสินค้าจริงๆ มีน้อยถึงน้อยที่จะสั่งแกล้ง แต่สิ่งที่ได้รับคือช่องทางการสั่งซื้อที่ง่ายดาย สะดวกลูกค้าก็มั่นใจได้ว่า ของที่สั่งไป อย่างน้อยยังเห็นว่ามีการมาส่งจริงแล้วค่อยจ่ายตัง ถ้าคิดว่าไม่เวิร์ค ทำไมลาซาด้าโตเอาๆ

อย่างตัวผมเปิดเวป เสิร์ทกูเกิลหานั่นนี่ บางทีเจอของถูกใจ แต่มีแค่จ่ายบัตร หรือโอนเงินไปก่อน มันยุ่งยาก ต้องไปโอนเงิน โอนเสร็จต้องมาแจ้งโอนอีก บางทีโอนเสร็จติดต่อคนขายไม่ได้ หรือกว่าจะติดต่อได้อีกสองสามวันสินค้าตัวนั้นผมก็แค่ดู แล้วไปหาสินค้าแบบเดียวกันในลาซาด้าเอา ถ้าคุณกล้าขายเขาก็กล้าจ่าย แต่ถ้าคุณยังอิดๆออดกับต้องเกี่ยงโอนเงินก่อน เพราะกลัวส่งปลายทางแล้วลูกค้าไม่รับ ยังไงเวปก็ไม่บูม panda rider ผมซื้อหมวกใบเป็นหมื่นโทรไปเขาบอกขอมัดจำนิดหน่อย500พันแล้วส่งพกง.มา แบบนี้คนขายคนซื้อสบายใจทั้งสองฝั่ง แต่ถ้าให้โอนก่อนเป็นหมื่นแล้วใจตุ้มต่อมรอไปรษณีย์มาส่งของ ผมไม่เอาแน่

ก็เสนอทางเลือก ทำไม่ทำ ผู้บริโภคไม่เดือดร้อน แต่ผู้ขายลองเสี่ยงนิดหน่อยเพื่อยอดขายที่เยอะขึ้นลูกค้าเยอะขึ้น ถ้าบริการดีส่งไวของตามสเปค ปากต่อปากครับ เดี๋ยวคนก็รู้กันทั่วว่าเวปนี้ ดีงั้นดีงี้ แต่ถ้าใครถามถึงสินค้าไหน แล้วมีคนลิงค์ไปหาเฟส ผมไม่ดูเลย ปิดทิ้ง ดูไปก็ไม่สั่ง

เฟสนี่ผมจะซื้อก็ต่อเมื่อ สินค้าหายากหาตามเวปทั่วไปไม่มีหาไม่ได้จริงๆ หรือเป็นเฟสเฉพาะกลุ่มที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

บริษัท ลาซาด้า จำกัด
ปี 2557 ขาดทุน 863 ล้านบาท
ปี 2558 ขาดทุน 1,959 ล้านบาท

ทำเว็บสวยๆนะ ยิ่งน่าเชื่อถือ

ผมไม่รู้นะลาซาด้ากำไรขาดทุนเท่าไหร่ จะมาจากส่วนบริหารอะไรไหน แต่ผมมองจากชาวบ้านธรรมดา มันเป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือค่อนข้างมาก ตอนนี้มีใครไม่รู้จักลาซาด้าบ้าง ผมเองปีที่ผ่านมาซื้อของจากลาซาด้าหมดไปหลายหมื่นทุกชิ้นสั่งจ่ายปลายทาง แต่ผมเสียเงินซื้อจากพ่อค้าออนไลน์ที่ให้โอนเงินก่อน แค่หลักไม่ถึงพันบาท

ผมแค่มาบอกว่า ถ้าขายของออนไลน์จริงๆ ก็น่าจะทำในส่วนนี้บ้าง มันเป็นส่วนเสริมที่ชักจูงให้ลูกค้าตัดสินตัดสินควักเงินได้ง่ายขึ้น ส่วนใครทำไม่ทำ ผมไม่รู้ด้วย ถ้าไม่ทำผมก็แค่คลิกเวปที่ทำให้ผมเชื่อมั่น ง่ายสำหรับผม และพร้อมที่จะเสียเงินกดสั่งของโดยสั่งเสร็จผมแค่จิบกาแฟรอของที่บ้าน เท่านั้นเอง ไม่อยากเสียเวลาโทรคอนเฟิร์มหรือโทรตามของว่าจ่ายเงินไปแล้ว ส่งมาหรือยังให้วุ่นวาย บางทีสั่งจากลาซาด้าสินค้าไม่ได้อยากได้อะไรนักหรอก แต่มันถูกราคาไม่แพงสั่งง่าย ก็ลองสั่งมาใช้แค่นั้น บางอันก็ดี บางอันก็ทิ้ง เพราะง่ายๆคือมันสั่งง่าย ได้ของค่อนข้างชัวร์ แค่นั้นเอง