ย้อนรอย 150 นัดกับเยอรมันของโยอาคิม เลิฟ
เลิฟเข้ามารับบังเหียนต่อจากเจอร์เก้น คลินส์มันน์ในปี 2006 โดยตั้งเป้าเน้นต่อยอดการเล่นฟุตบอลบุกตามแบบคลินส์มันน์ กุนซือคนเก่า
เลิฟประเดิม
เกมแรกด้วยชัยชนะเหนือสวีนเดน 3-0 ในวันที่ 16 สิงหาคม 2006 1 ประตูจากเบิร์น ชไนเดอร์ และมิโรสลาฟ โคลเซ่ เบิ้ล 2 ประตู "เริ่มต้นยุคของเลิฟด้วยชัยชนะ" พาดหัวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์คิกเกอร์หลังจากเกมวันนั้น
นัดที่ 26 ในเกมยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศ เลิฟเปลี่ยนเทคติกที่เคยใช้ 4-4-2 มาตลอดมาเป็น 4-2-3-1 ก่อนเกมการแข่งขัน ช่วยให้เยอรมันไล่ต้อนโปรตุเกส 3-2
นัดที่ 28 รอบชิงชนะเลิศยูโร 2008 เข้าชิงแชมป์รายการระดับเมเจอร์ครั้งแรกขอเลิฟ แต่พลาดท่าถูกสเปนของหลุยส์ อราโกเนสชิงถ้วยไปครองด้วยผล 0-1
นัดที่ 54 ฟุตบอลโลก 2010 รอบก่อนชนะเลิศกับอาร์เจนติน่า ฟุตบอลโลกครั้งแรกของโยกี้ ที่เลือกดาวรุ่งเข้ามาสอดแทรกอยู่ในทีมก่อนจะกลายมาเป็นกำลังหลักในปัจจุบันอย่างโธมัส มุลเลอร์ หรือโทนี่ โครส เลิฟจะพาทีมคว่ำอังกฤษ 4-1 และตบหน้าอาร์เจนติหน้าที่นำตัวโดย "เสือเตี้ย" ดิเอโก้ มาราโดน่า 4-0
นัดที่ 55 รอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 เลิฟยังไม่สามารถพาทีมเอาชนะสเปนได้ โดยทัพกระทิงดุได้ประตูโทนจากลูกโหม่งของการ์เลส ปูโยล
นัดที่ 83 น่าจะเป็นการแพ้พ่ายที่ขมขื่นที่สุดนัดหนึ่งของเลิฟหลังจากเอาชนะกรีซมา 4-2 เยอรมันต้องมาพบกันอิตาลีในรอบรองชนะเลิศยูโร 2012 ซึ่งชัยชนะเหนืออิตาลีครั้งล่าสุดต้องย้อนไปถึงปี 1995 ไม่รู้ว่าด้วยอาถรรพ์ หรือฟอร์มไม่เอาอ่าวทั้งโค้ชละนักเตะ ทำให้ทัพอินทรีเหล็กพ่ายอิตาลีตกรอบไป 1-2
นัดที่ 111 รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2014 เป็นนัดที่ต้องถูกจารึกไว้ในหน้าประติศาสตร์ฟุตบอล ถ้าใครได้ดูก็คงจะไม่ลืมเหตุการณ์ในสนาม เบโลโอรีซอนชี สำหรับแฟนบอลเยอรมันที่ทีมทำอะไรอะไรก็เข้าทางไปเสียหมด แต่สำหรับบราซิลเจ้าบ้านและเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนั้น คำนิยายสั้นๆคำเดียวคือ "ฝันร้าย" จากการแพ้ลูกทีมของโยกี้ 1-7 กลายเป็นการโดนถล่มขาดลอยที่สุดของทัพแซมบ้าในศึกฟุตบอลโลก
นัดที่ 112 เป็นการชูถ้วยฟุตบอลรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกครั้งแรกของโยอาคิม เลิฟ ที่ต้องรอถึงช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 113 อังเดร ชูร์เลย์ เปิดบอลโด่งเข้ามาให้มาริโอ เกิทเซ่ พักอกก่อนหนึ่งจังหวะแล้วดีดบอลผ่านเซร์คีโอ โรเมโร เข้าไป
นัดที่ 136 ในรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2016 ในการกลับมาพบเจอกับอิตาลีอีกครั้ง ซึ่งเยอรมันของเลิฟเล่นได้ดีในช่วงเวลาปกติ ก่อนจะมาทำลายอาถรรพ์ด้วยการเอาชนะจุดโทษอิตาลี 6-5
นัดที่ 150 นัดสุดของรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2017 หลังจากชนะออสเตรเลียและเสมอชิลี ด้วยตัวผู้เล่นหน้าใหม่ที่แทบจะไม่เคยติดทีมชาติ ทัพของเลิฟต้องการเพียงผลเสมอเป็นอย่างน้อยเพื่อการันตีเข้ารอบต่อไปโดยไม่ต้องลุ้นอีกหนึ่งคู่ และเป็นการยิงในทีมชาตินัดแรกของ 2 ดาวรุ่ง ติโม แวร์เนอร์ และ เคเร็ม เดมีร์บาย ช่วยให้ โยอาคิม เลิฟ เก็บชัยชนะนัดที่ 100 ในการคุมทีมนัดที่ 150 เหนือแคเมอรูนไป 3-1
CR:www.fifa.com
-------------------------------------------
ชอบใจฝากกดไลค์กดแชร์เพจ
A Part of Football ด้วยครับ
https://www.facebook.com/apartoffootball/