นิสัยการนอนหลับของเหล่าคนดังในประวัติศาสตร์ (บางส่วน)
- มีบทความและงานวิจัยจำนวนมากที่เน้นย้ำความสำคัญของการนอนหลับอย่างเพียงพอ
เพื่อพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ และ พลังในการทำงาน
เรามักได้ยินประโยคแสนคลาสสิกนี้บ่อยๆ คือ “การนอน 8 ชั่วโมง”
... แต่ มีเหล่าคนดังและเหล่าผู้ประสบความสำเร็จหลายต่อหลายคน
ที่มีพฤติกรรมการนอนที่แสนประหลาด
(ถ้าเราเทียบกับมาตรฐานการนอนที่เราเข้าใจกันในปัจจุบัน)
--------------------------------------------------------------------------------
วินสตัน เชอร์ชิล : นายกรัฐมนตรี และรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งอังกฤษ
ผู้เป็นมันสมองอันสำคัญในการพาอังกฤษผ่านพ้นวิกฤติแห่งมหาสงครามโลกครั้งที่ 2
: เขามักจะชอบงีบหลับบ่อยๆ เขายกเครดิตให้กับนิสัยการงีบหลับของเขา
ว่าเป็นส่วนที่ทำให้สหราชอาณาจักรมีชัยในสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งนั่นตรงข้ามกับ
“มากาเร็ต แทตเชอร์”
นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กแห่งอังกฤษ ที่นอนหลับเพียง 4 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
นักประดิษฐ์ชื่อก้องโลก
“โทมัส อัลวา เอดิสัน” และ
“เลียวนาโด ดา วินซี”
มีนิสัยการนอนหลับที่เรียกกันว่า
“Polyphasic Sleep Cycles”
มันเป็นวิธีการนอนที่แปลกมากทีเดียว
เพราะมันคือ การนอนหลับเป็นช่วงสั้นๆ
แต่ตลอดวัน แทนที่จะรวดเดียวยาวๆในเวลากลางคืน
เอดิสัน คิดว่า การนอนหลับมันเป็นการสิ้นเปลืองเวลาโดยใช่เหตุ
ดังนั้นเขาพยายามอย่างยิ่ง ที่จะลดเวลานอนให้ได้มากที่สุด
นักธุรกิจและนักลงทุนผู้โด่งดัง
“ริชาร์ด แบรนสัน” : ผู้ก่อตั้งสายการบิน Virgin
ผู้มีทรัพย์สินประมาณ 5 พันล้าน US dollar
นอนหลับราวๆ ไม่เกิน 6 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น และจะตื่นนอนประมาณ 5.45 AM.
ในขณะที่
“โดนัลด์ ทรัมป์” อภิมหา(โคตรๆ)เศรษฐี ชาวอเมริกัน (ที่กำลังลงสมัครประธาธิบดี USA. ในขณะนี้)
ก็ใช้เวลาในการนอนหลับเพียง 3-4 ชั่วโมงต่อวัน
ทรัมป์บอกว่า การนอนเท่านี้ มันทำให้เขามีเวลาสำหรับชัยชนะในการแข่งขันของเขา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“วอลแตร์ – ฟรังซัว มารี อารูเอต์” : นักเขียน นักคิด นักปรัชญาแห่งยุค Enlightenment(ยุครู้แจ้ง)
เขานอนหลับเพียงวันละ 4 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นที่กล่าวขานว่าเป็น คอกาแฟตัวจริง
ที่ดื่มกาแฟจำนวนมาถึง 40 แก้วต่อวัน
(ผมไม่รู้ว่า แก้วในสมัยนั้น มันอาจจะเป็นแก้วเล็กๆหรือเปล่า เพราะถ้า 40 แก้วปกติ มันจะดูเว่อร์มาก)
“นิโกล่า เทสล่า” : วิศวกรสติเฟื่อง ผู้โด่งดังในวงการวิศวกรรมไฟฟ้า
– เข้านอนประมาณเที่ยงคืน และตื่นประมาณ ตี 2 (รวมแล้วนอน 2 ชั่วโมงต่อวัน)
พฤติกรรมการนอนที่สุดโต่งแบบนี้ ทำให้เขาเกิดสภาวะผิดปกติทางจิต ตั้งแต่อายุประมาณ 25
(แกมีนิสัยค่อนข้างเพี้ยนๆหน่อยๆ แต่อัจฉริยะมาก)
“โวล์ฟกัง โมสาร์ท” : ยอดนักประพันธ์ดนตรีของโลก
เขามักจะแต่งเพลงจนถึงราวๆ ตี 1 แล้วเข้านอนเพียง 5 ชั่วโมง ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาตอน 6 โมงเช้า
ซ้าย : Da Vinci / ขวา : Sigmund Freud
“เลียวนาโด้ ดา วินซี” : อัจฉริยะมนุษย์ ผู้นอนหลับแบบ Polyphasic
เขาใช้เวลาในการงีบหลับ 20 นาที ในทุกๆ 4 ชั่วโมง (กลางคืนไม่นอน)
รวมๆแล้ว ในหนึ่งวัน เขาจะได้นอนหลับเพียงแค่ 2 ชั่วโมง
“ซิกมันด์ ฟรอยด์”: นายแพทย์ผู้โด่งดัง และเป็นบิดาแห่งศาสตร์ “จิตวิเคราะห์”
นอนหลับวันละ 6 ชั่วโมง ... และยังเสพโคเคนอย่างหนักอีกด้วย
(แต่แกเสพแล้ว เอามาเขียนบทความงานวิจัยที่เกี่ยวกับผลของโคเคน เลยนะครับ)
"เซอร์ ไอแซค นิวตัน" : นักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง
เจ้าของผลงาน Principia Mathematica (หนึ่งใน Masterpiece ของวงการฟิสิกส์)
และเป็นบิดาแห่งวิชากลศาสตร์ ผู้ค้นพบกฎความโน้มถ่วง
และประดิษฐ์วิชา Calculus ขึ้นมา (นิวตันเรียกวิชานี้ว่า Method of Fluxion)
เป็นที่เล่าขานถึงพฤติกรรมการนอนที่ประหลาดของเขา
ว่าเขามักจะทำงานข้ามวันข้ามคืน และนอนน้อยมาก
(คืออาจจะไม่นอนหลับเลยติดๆกันหลายคืน)
แน่นอนว่า พฤติกรรมอันสุดโต่งนี้ น่าจะมีส่วน ทำให้สุขภาพจิตของเขาไม่ปกติ
เกร็ดเล็กน้อย : อาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกไว้ว่า ในช่วงยุคหลายร้อยปีมานี้
นักฟิสิกส์ กับ นักคณิตศาสตร์ จะทำงานแยกออกจากกันไปแล้ว
ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยพบ นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นอัจฉริยะทั้งสองด้าน
(เพราะต่างคนต่างก็วิจัยอยู่ใน field ของตัวเอง)
ซึ่งต่างกับ ไอแซค นิวตัน ที่สมัยนั้น ฟิสิกส์กับคณิตศาสตร์ยังแยกกันไม่ค่อยออก
เลยทำให้ นิวตัน สำแดงความเป็นอัจฉริยะออกมาทั้งสองสาขา
ทั้งการสร้างวิชากลศาสตร์ และการค้นพบวิชา Calculus
-----------------------------------------------------------------------------------
ผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้านะครับ
CREDIT