วัยรุ่นยูเครนเป็นฆาตกรต่อเนื่อง!!/ซ้ำขออภัย
ช็อกโลกกลุ่มฆาตกรต่อเนื่องกับการบันทึกวิดีโอการฆาตกรรมสุดสยอง
เมือง ดนีโปรเปตรอฟสค์ เป็นเมืองใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ได้เกิดกลุ่มฆาตกรต่อเนื่องที่ประกอบด้วยเด็กวัยรุ่นสามคนในนาม ดนีโปรเปตรอฟสค์ มานิแอค ที่ได้ฆ่าคนจำนวนมากมาย เหยื่อมีทั้ง ผู้หญิงตั้งครรภ์ คนแก่ เด็ก ขอทาน คนขี้เมา และที่น่าตกใจคือทางการยูเครนได้เลือกที่จะปกปิดความลับนั้นไว้จนกว่าทางการ จะจับกุมฆาตกรกลุ่มนี้ได้ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว
แต่เรื่องทั้งหมดยังไม่จบ เพราะต่อมาก็มีคลิปหนึ่งที่ถูกถ่ายทำโดยกลุ่ม ดนีโปรเปตรอฟสค์ มานิแอคได้แพร่ไปในโลกอินเตอร์เน็ต และเมื่อหลายคนได้ดูคลิปดังกล่าวก็ตกใจกับภาพนี้ทันที เพราะมันเป็นภาพการฆ่าคนโดยกลุ่ม มานิแอคที่ภาพเป็นได้ปรากฏเป็นใบหน้าของฆาตกรที่เป็นวัยรุ่นสองคน(ไม่ เซ็นเซอร์ใบหน้า)ฆ่าเหยื่อคนหนึ่งชื่อเซอร์ไก ยัทเซนโก อย่างโหด***มด้วยการทุบตีเหยื่อโดยใช้ค้อน และแทงด้วยไขควงจนเหยื่อถึงแก่ความตาย แม้ว่าทางการจะมีการลบคลิปดังกล่าวหลายเว็บ แต่กระนั้นคลิปนี้ก็ได้ขนานนามว่าเป็นสนัฟฟ์ฟิล์มที่มีชื่อเสียงในโลก อินเตอร์เน็ตในทันที
การบันทึกวิดีโอการฆาตกรรมเหยื่อ(บางช่วง)ของ ฆาตกรกลุ่มนี้ ซึ่งตอนแรกเป็นพวกสัตว์เล็กๆ จำพวกสุนัข แมว หากแต่ตอนหลังก็เริ่มฆ่าเหยื่อที่เป็นมนุษย์ โดยเริ่มก่อเหตุเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 16 กรกฎาคม 2007 (ถูกจับกุมวันที่ 23 กรกฎาคม 2007)และที่น่าตกใจก็คือหนึ่งในวีดีโอฆาตกรรมเหยื่อที่เป็นมนุษย์นั้นเกิด รั่วไหลแพร่กระจัดไปทั่วเว็บไซต์อินเตอร์เน็ต เป็นภาพของวิคเตอร์ ซาเยนโก และอิกอร์ ซูพรันยัซค์ สองวัยรุ่นสมาชิกดนีโปรเปตรอฟสค์ มานิแอคเ(โดยมีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งชื่อ อเล็กซานเดอร์ ฮานซา เป็นคนถ่ายภาพวีดีโอ) ทั้งสามอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ได้ช่วยกันทุบตีเหยื่อด้วยค้อน และแทงด้วยไขควงจนเหยื่อถึงแก่ความตาย ต่อมาทั้งสามถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาที่น่าเหลือเชื่อก็คือข้อหาฆาตกรรมต่อ เนื่องเหยื่อ 21 ราย!! และผลตัดสินเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2009 จำเลยทั้งสามพบว่ามีความผิดจริง วิคเตอร์ และอิกอร์ถูกจำคุกตลอดชีวิต(ในข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและทารุณ สัตว์)และอเล็กซานเดอร์ถูกจำคุกเก้าปี(ในข้อหาสมคบคิดและปล้นทรัพย์สิน)
ฆาตกรทั้งสามเป็นเพื่อนกัน และมีฐานะร่ำรวย พวกเขาเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน อยู่ชั้นเรียนเดียวกัน เหตุจูงใจที่ทำให้เกิดคดีสะเทือนขวัญเพียงเพราะความกลัว
โดยมีอีกอร์เป็นคนแนะนำในการแก้ปัญหา จุดเริ่มต้นเริ่มจากวิคเตอร์และ อิกอร์กลัวความสูง อิกอร์เลยเสนอวิธีการกำจัดความกลัวด้วยการไปยืนระเบียงชั้นที่ 14 ของอพาร์ทเม้นหลายชั่วโมง และแขวนอยู่เหนือราวบันได” ซึ่งได้ผลดีในการรักษาความกลัวของพวกเขา และทำให้ต่างฝ่ายต่างเชื่อใจกันมากขึ้น ต่อมาทั้งสองก็พบเพื่อนอีกคนคือเล็กซานเดอร์ที่บอกว่าเขาเป็นโรคกลัวเลือดจะ คลื่นไส้มากเมื่อเห็นเลือดอีกทั้งเขายังปฏิเสธที่จะอาบน้ำให้ลูกแมวเพราะว่า เขากลัวน้ำร้อนลวก อิกอร์เลยเสนอการแก้ปัญหานี้ว่าเราควรแก้ปัญหาโดยการทรมานสุนัขจรจัด ทั้งสามช่วยกันจับสุนัขจรจัดในพื้นที่ป่าใกล้บ้าน แล้วแขวนคอมันจากต้นไม้ จัดการคว้านไส้พุงออกมาแล้วพวกเขาก็ไปยืนถ่ายภาพข้างศพ ซึ่งต่อมาภาพดังกล่าวได้กลายเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี โดยภาพดังกล่าวมีทั้งศพสุนัข แมว โดยมีใบหน้าสมาชิกกลุ่มติดมาด้วย นอกจากนั้นหลายภาพพวกเขายังทำสัญลักษณ์แปลกๆ มากมาย โดยใช้เลือดสัตว์วาดสวัสดิกะนาซี หรือเอาเลือดมาระบายเป็นหนวดฮิตเลอร์และทำความเคารพแบบนาซี(อิกอร์เกิดวัน ที่ 20 เมษายน วันเดียวกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์) นอกจากนั้นพวกเขายังถ่ายวีดีโอยาวหลายนาทีในการถ่ายทำการนำลูกแมวมาทรมาน โดยพวกเขาทรมานมันที่โรงจอดรถในบ้าน โดยใช้เทปกาวปิดปากกันเสียงร้องจากนั้นก็ใช้ไม้ตีและถอดเล็บแมว และยิงมันด้วยปืนสองนัด
คดีฆาตกรรมเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2007 เหยื่อรายแรกเป็นหญิงท้องถิ่นอายุ 33 ปี ชื่ออีคาเทริน่า อิลเช็นโก ตอนนั้นเธอกำลังเดินไปอพาตร์เมนท์เพื่อนของเธอนั้น ตามคำสารภาพของวิคเตอร์ ซาเยนโก และอิกอร์ ซูพรันยัซค์บอกไว้ว่าตอนนั้นพวกเขาไปเดินเล่น(ล่าเหยื่อ) โดยอิกอร์มีค้อน ขณะที่เดินผ่านอีคาเทริน่า อิกอร์ก็ทุบเธอเข้าที่หัว เธอล้มลงและพวกเขาก็ปล่อยเธอทิ้งจนเป็นศพไว้จุดฆาตกรรมแห่งนั้น จนกระทั้งมีการพบศพเวลา 05:00 น.โดยแม่ของเธอที่ออกตามมาจนพบศพดังกล่าว
ต่อมาหลังจากผ่านชั่วโมงแรกในการสังหารเหยื่อครั้งแรก ฆาตกรทั้งสองคนก็ลงมือฆ่าเหยื่อต่อไปของเขา โรมัน ทาทาร์นวิชกำลังนอนหลับอยู่บนม้านั่งในบริเวณที่ใกล้กับพื้นที่การฆาตกรรม ครั้งแรก ก่อนที่เขาจะลุกออกไปเขาก็ถูกทุบด้วยวัตถุทื่อที่หัวหลายครั้ง ศพของเขาถูกพบคาม้านั้งที่ตั้งอยู่ในฝั่งตรงข้ามถนนท้องถิ่นซึ่งเป็นที่ตั้ง สำนักงานอัยการศาล
ในวันที่ 1 กรกฎาคมก็พบเหยื่อสองรายเพิ่มเติมคือ ชอีฟจีนิยา กริซซานโก้ และนิโคไล เซอร์ชัค โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเมืองใกล้เคียงกับโนโวมอสคอฟสค์ ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในดนีโปรเปตรอฟสค์
สุดท้ายผลตัดสินออกมาว่าจำเลยทั้งสามพบว่ามี ความผิดจริง หาก แต่ประเทศยูเครนไม่มีโทษประหลาด ผลก็คือวิคเตอร์ และอีกอร์ถูกจำคุกตลอดชีวิต(ในข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและทารุณ สัตว์)และอเล็กซานเดอร์ถูกจำคุกเก้าปี(ในข้อหาสมคบคิดและปล้นทรัพย์สิน)
หลายฝ่ายเชื่อว่าที่ทำให้ทั้งสามลอยนวลจนบัดนี้ก็คือพวกเขามีพ่อแม่รวยและ มีความ สัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีอิทธิพลทางกฎหมายในท้องถิ่นเพื่อให้การสืบสวนเบียนเบน เป็นคนและทิศละทางคือให้ทางการเชื่อว่าฆาตกรทั้งหมดมาจากครอบครัวที่ยากจน และผู้ปกครองทั้งสามแม้จะถูกศาลตัดสินไปแล้ว แต่จนบัดนี้พวกเขายังเชื่อว่าลูกของพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์โดยเชื่อว่าทั้ง สามถูกบังคับให้สารภาพ เพื่อเป็นแพะรับบาป ซึ่งปัจจุบันผู้ปกครองและทนายของทั้งสามพยายามยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาของ ยูเครนและศาลสิทธิมนุษย์ชนของยุโรปเพื่อลดโทษฆาตกรทั้งสาม
ต่อมามีการออกแบบผลการสำรวจความคิดเห็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในดนีโป รเปตรอฟสค์ผลปรากฏว่า 50.3% เชื่อว่าการตัดสินนี้เป็นธรรม และ48.6% ควรตัดสินโทษให้หนักมากขึ้น ในเดือนเมษายน 2011 มีการสำรวจความคิดอีกครั้งปรากฏว่าเกือบ 60% ของประชาชนชาวยูเครนอยากให้มีการลงโทษประหารฆาตกรต่อเนื่องในคดีนี้
ปัจจุบันเราสามารถหาคลิป “3 Guys 1 Hammer” ได้ตามเว็บทั่วไป แม้ว่าหลายฝ่ายจะมีความพยายามที่จะลบคลิปดังกล่าวให้หายไปจากโลกอินเตอร์ เน็ตก็ตาม
[/youtube]