ในวันที่ต้อง... "ยืมจมูกคนอื่นหายใจ" (คิงส์คัพ#43 นัดสุดท้าย)
สำนวน "ยืมจมูกคนอื่นเขามาหายใจ" มีความหมายว่า อาศัยความคิดหรือแรงของคนอื่นมาทำงานให้ตน หากในวันนี้ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดคิงส์คัพ ครั้งที่43 ต้องการคว้าแชมป์มาครอง คงต้องนำสำนวนนี้มาใช้ด้วยเช่นกัน เพราะเงื่อนไขแรกที่จะต้องเกิดขึ้นคือ การแข่งขันในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 คู่แรก ระหว่าง ฮอนดูรัส-อุซเบกิสถาน นั้น ฮอนดูรัสจะต้องไม่แพ้อุซเบกิสถานเท่านั้นจึงจะสามารถต่อลมหายใจของโอกาสคว้าแชมป์ของทีมเจ้าภาพอย่างไทยแลนด์ได้ แต่หากผลไม่เป็นเช่นนั้น คือ อุซเบกิสถานคว่ำฮอนดูรัสได้ โอกาสคว้าแชมป์ของทีมไทยก็จะยากขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นหมายความว่า ทีมชาติไทยจะต้อง"ยืมจมูกทีมชาติฮอนดูรัสมาหายใจ" ในขณะที่ตัวเองก็ต้องเอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้ให้ได้2ลูกขึ้นไปจึงจะคว้าแชมป์ร่วม หรือหากต้องการจะคว้าแชมป์เดี่ยวๆ ก็ต้องอัดเกาหลีด้วยผลต่าง3ลูกขึ้นไป
แต่สมมติฮอนดูรัสไม่ให้เรายืมจมูกหายใจ แต่กลับปล่อยตัวปล่อยใจตกเป็นของอุซเบฯ ไปเสียแล้ว เราก็ยังไม่หมดหวังซะทีเดียว โดยต้องดูว่า อุซเบฯ ทะลวงไส้ฮอนดูรัสไปกี่ดอก หากอุซเบฯเอาชนะโดยมีผลต่างแค่1ลูก ทีมชาติไทยต้องชนะเกาหลีใต้ด้วยผลต่าง4ประตู ก็จะสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้
ในขณะเดียวกันทีมชาติอุซเบกิสถานเองแม้จะมีโอกาสคว้าแชมป์แต่ก็ต้อง "ยืมจมูกทีมชาติไทยหายใจ" ให้ช่วยเอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้ให้ได้เช่นกัน โดยที่อุซเบกิสถานต้องทำเงื่อนไขของตัวเองให้สำเร็จก่อนคือการเอาชนะทีมชาตฮอนดูรัสให้ได้นั่นเอง
ขณะที่เกาหลีใต้เอง มีเงื่อนไขง่ายๆ เพียงแค่ไม่แพ้ทีมชาติไทยในนัดสุดท้ายก็จะสามารถคว้าแชมป์ไปครองแบบสบายแฮ
หากไทยอยากจะเป็นแชมป์ไม่ว่าจะกรณีไหน? ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจหรือไม่? ก็ล้วนแต่มีเงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่ง คือ ต้องเอาชนะเกาหลีใต้ให้ได้!!! ฉะนั้น ไม่ว่าจะคว้าแชมป์หรือไม่ก็ตาม แต่เป้าหมายสำคัญของทีมชาติไทยในนาทีนี้ คือ การคว้าชัยชนะในนัดสุดท้าย
แม้จะมีดราม่าตั๋วปีราคาแพงเกินเอื้อม!!! หรือเกรียนบางเวบออกมาบ่นเสียงกลองของกองเชียร์ หรืออะไรอีกก็ตามแต่ หรือแม้ในท้ายที่สุดทีมไทยชาติไทยจะไม่ได้คว้าแชมป์ดังใจหวัง แต่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าการคว้าชัยชนะเหนือเกาหลีใต้ในนัดสุดท้ายนั้น คือ การที่คนไทยทั้งนักเตะและกองเชียร์ได้แสดงออกสู่สายตาชาวโลก(ไม่ใช่แค่อาเซียนหรือเอเชีย อย่างที่ผ่านมา) ว่าเราคือนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ใคร ไม่ว่าจะมีเงื่อนไขอะไรมากำหนด แต่เราจะทำทุกอย่างอย่างเต็มที่และดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ในสนามของนักฟุตบอล หรือหน้าที่บนอัฒจรรย์ของเหล่ากองเชียร์ก็ตาม
ฉะนั้น 7 กุมภาพันธ์ 2558 ขอเชิญชาวไทยทุกท่านพบกันบนอัฒจรรย์ของสนามเฉลิมพระเกียรติ80พรรษา จ.นครราชสีมา ไม่แน่ว่า...ในท้ายที่สุดเราจะได้ร่วมร้องเพลงทีมชาติไทยในวันที่เราคว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่43 ก็ได้
#หน้าที่เชียร์ทีมชาติไทย #คนไทยทำได้โดยไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ