ในยุคเริ่มแรกของอเล็กซ์ เฟอร์กูสันก่อนหน้านี้โกลมือหนึ่งของทีมก็คือ
แกรี่ เบลี่ย์ Gary Bailey ยอดโกลของทีมในยุค 80
แต่แกรี่ได้รับบาดเจ็บหนักก่อนบอลโลกเม็กซิโกปี 86 ทำให้ต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควร
ทำให้อเล็กซ์ได้ติดต่อกลับไปยังอเบอดีนทีมเก่าของเขาเพื่อดึงตัว
จิม เลห์ตั้น ศิษย์เก่าคนนี้ร่วมสร้างความสำเร็จมาตั้งแต่อยู่ที่สก็อตแลนด์ โดยจิมคว้าทั้งแชมป์ลีก และคัพวินเนอร์สคัพ อเล็กซ์ไม่รอช้าที่จะจ่ายค่าตัว 500,000 ปอนด์ ถือว่าสูงมากสำหรับผู้รักษาประตูในสมัยนั้น
แต่ตลอดเวลาสามปีที่ทำหน้าที่ จิมไม่เคยโชว์ฟอร์มที่น่าไว้วางใจเลย มีผลงานผิดพลาดทั้งเกมแพ้ซิตี้ 5-1 แพ้วิลล่าในบ็อกซิ่งเดย์ 3-0 และจุดแตกหักสำคัญก็คือเกมนัดชิงกับคริสตัน พาเลซที่เสมอไป 3-3 ทำให้ต้องไปเตะนัดรีเพลย์
บิ๊กจิมในเกมกับพาเลซที่ทำให้ต้องหมดอนาคตไป
ซึ่งก็เป็น
เลส ซีลี่ย์ มือกาวประสบการณ์สูงที่ยืมตัวมาลงแทนทำให้ทีมชนะไป 1-0 จากนั้นจิม เลห์ตั้นก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมอีกเลย
โดยซีลี่ย์รับบทมือหนึ่งแทนแต่เฟอร์กี้ก็ยังอยากได้ผู้รักษาประตูมือดีกว่า เพราะซีลี่ย์ก็อายุหลักสามแล้ว
เลส ซีลี่ย์อยู่ในทีมที่ชนะบาร์ซ่าในปี 91
โดยขนเงินไปให้บรอนบี้ 505,000 ด้วยเพื่อคว้า
"ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล" (ภายหลังเฟอร์กี้ยกย่องให้เป็นดีลแห่งศตวรรษ) ชไมเคิ่ลกับเซฟในตำนานที่ถูกยกไปเทียบกับกอดอน แบงค์ที่เซฟลูกโหม่งของเปเล่ ซึ่งยักษ์เดนส์กลายมาเป็นตำนานทั้งแมนฯยูไนเต็ดประสบความสำเร็จในยุคแรกของพรีเมียร์ลีก รวมทั้งพาทีมคว้าทริ้ปเปิลแชมป์ในปี 1999 ก่อนจะอำลาทีมไปอยู่สปอตติ้ง ลิสบอน โดยตลอดเกือบสิบปีชไมเคิ่ลได้รับ UEFA Goalkeeper of the Year ถึง 4 ครั้ง
ลีลาเหินหาวของยักษ์เดนส์
ซึ่งหลังการจากไปของชไมเคิ่ล เฟอร์กี้ได้ตามหาตัวแทนมาก็คือ
มาร์ค บอชนิช มือกาวของแอสตันวิลล่า
บอสนิชกลับมาที่โรงละครแห่งฝันอีกครั้ง
แต่บอสนิชไม่สามารถทดแทนรูโหว่ของชไมเคิ่ลได้เลย จึงเป็นที่มาของ
มัสซิโม่ ตาอิบี้ โดยนัดแรกของเขาพาทีมชนะลิเวอร์พูลได้อย่างสวยงามแต่หลังจากนั้นอีกสามนัดของ
ตาอิบี้มีแต่ความผิดพลาด ทั้งแพ้เชลซี 5-0 และยังสร้างตำนานด้วยการพลาดท่าป่อยลูกยิงของแมท เลอทิสซิเย่ร์ที่เบาอย่างปุยนุ่นลอดขา ทำให้นายด่านชาวอิตาลี่ต้องระเห็จกลับบ้านเกิดในไม่กี่อึดใจ
ตาอิบี้สาธิตวิธีคลอดลูกทางทวารหนักในเกมกับนักบุญ
โดยระหว่างนั้นเป็น
ไรมอนด์ ฟาน เดอ ฮาว นายทวารมือเก๋าที่อยู่มาตั้งแต่ปี 96 ทำหน้าที่แทนซึ่งไรมอนด์ก็โชว์ฟอร์มได้ไม่เลวเลย แต่ด้วยอายุเกือบสี่สิบปี ทำให้อเล็กซ์ เฟอร์กูสันต้องตามหายอดโกลอีกครั้ง
ฟานเดอฮาวถึงจะไม่ใช่ตัวจริงแต่ก็ไว้ใจได้เสมอ
คราวนี้เฟอร์กี้เลือกจะคว้านักเตะแบรนด์เนมผู้ประสบความสำเร็จมาทั้งบอลโลกและยูโรอย่าง
ฟาร์เบียน บาร์กเตซ ถึงขนาดที่รอย คีนกัปตันทีมบอกว่าคือนักเตะระดับเวิร์ลคลาสตัวจริง
ตามมาจูบกระหม่อมกับโรล็องต์ บล็องค์ต่อหลังจากฟร็องซ์ 98
โดยที่แฟ้บมีทั้งช็อตเซพน่าตะลึงรวมทั้งความผิดพลาดแบบน่าเขลกกระโหลกหลายครั้ง จนมาถึงฟางเส้นสุดท้ายในเกมกับรีล มาดริด แต่การที่บาร์กเตซฟอร์มหลุดพลาดให้โรนัลโด้ยิงแฮททริกทำให้ทีมตกรอบไปในปี 2003 และเฟอร์กี้ก็โชว์ความเหี้ยมด้วยการถีบบาร์กเตซออกจากทีมและปล่อยให้มาร์กเซย์ยืมตัวไปจนหมดสัญญา
ไม่น่าเชื่อว่าเกมสุดท้ายของบาร์กเตซคือเกมรอบก่อนรองกับมาดริด
ช่วงหลังจากนั้นมีนายด่านมะกันอย่าง
ทิม โฮเวิร์ด แต่ความผิดพลาดในเกมกับปอร์โต้ที่ปล่อยให้คอสติญ่าซ้ำลูกฟรีคิกของเดโก้ไปง่ายๆ
ทิมมี่พลาดท่าให้คอสติญ่ายิงประตูชัย (ก่อนมูรินโญ่จะสไลด์ต่อหน้าแฟนผี)
เลยทำให้เฟอร์กี้ไม่ไว้ใจในตัวของเค้าอีกเลย จึงหันมาให้โอกาสตัวสำรองอย่าง
รอย คาโรล ช็อตควักกะปิลูกยิงของเปรโด เมนเดสในตำนาน
ซึ่งก็ทำให้ไม่ผิดหวังเลยด้วยการทำพลาดแบบเดียวกับทิม
ปล่อยให้เครสโปซ้ำง่ายๆในเกมกับมิลาน ซึ่งจบฤดูกาลคาโรลก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาทั้งๆที่เฟอร์กี้จะยังให้โอกาสแท้ๆ (เล่นตัวเชียวพ่อคุณ)
ซึ่งช่วงเวลานั้นมีนายด่านเลือดสเปนอย่าง
ริกาโด้ คั่นเวลาอยู่ไม่กี่นัดโดย
แค่สัมผัสแรกกับแมนฯยูไนเต็ดก็ทำเรื่องด้วยการเสียจุดโทษ แต่ยังดีที่เซฟไว้ได้ ถึงจะไม่ได้ลงมาก แต่ริกาโด้ โลเปซก็ยังมีเรื่องให้คุยได้อยู่
และในปี 2005 ช่องโหว่ของประตูผีก็ถูกเติมเต็มด้วย
เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ด้วยความแน่นอนและประสบการณ์โชกโชนทำให้เฟอร์กี้ไม่ประสบปัญหาอีกเลยตลอดยุคของน้าซาร์
น้าซาร์น่าจะย้ายมาเร็วกว่านี้ เพราะน้าแกโชว์ผลงานคว้าแชมป์ลีกสามครั้งและยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ รวมทั้งสถิติของทีมและเกาะอังกฤษด้วยคลีนชีตติดต่อกัน 11 นัดในปี 2009 ได้รับรางวัล Best European Goalkeeper ยุคของเอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์มีแต่แชมป์กับแชมป์
แต่ด้วยความที่อายุอานามกว่าจะมาเจอกัน เฟอร์กี้จึงหาตัวแทนอีกรอบโดยมีทั้ง
เบน ฟอสเตอร์ โทมัส คุซแชค และอันเดรส ลิเดอการ์ด สามหน่อนี้ก็แจ้งเกิดเป็นตัวจริงไม่ได้ซักคน
สุดท้ายก็เป็น
ดาวิด เดเกีย มือกาวจากแอต.มาดริดที่ย้ายมาด้วยค่าตัวเกือบยี่สิบล้านยูโรที่กลายเป็นกำลังหลักถึงปัจจุบัน
แม้ช่วงแรกจะโดนวิจารณ์พอสมควรแต่ต่อมาก็
กลายเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในทีม และเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องกับรีลมาดริดว่าจะทุ่มมหาศาลกับยอดผู้รักษาประตูหน้าลามะรายนี้ อย่ารีบจากกันไปไหนนะลามะเอ๋ยยยย จบแล้วครับ เขียนจากความจำและเรื่องที่เคยอ่านในสตาร์ซ้อคเกอร์ ถ้าผิดพลาดยังไงขออภัยไว้ด้วย
ปล.
เหมือนเดิมอวาตาร์ชื่อ August Ames ครับ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
แม้ช่วงแรกจะโดนวิจารณ์พอสมควรแต่ต่อมาก็กลายเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในทีม และเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องกับรีลมาดริดว่าจะทุ่มมหาศาลกับยอดผู้รักษาประตูหน้าลามะรายนี้
My Locker
