สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า 'กำลังใจ'
ถ้าชอบก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับ ยาวไปนิด แต่อยากให้ทุกคนได้อ่าน^^ :
เพจทางการ :
https://www.facebook.com/MasterReedOfficial
หรือจะกดโหวตเป็นกระทู้แนะนำก็ได้นะ
_________________________________________
ตำราชีวิต [ตอนแรก ] " กำลังใจ "
ว่ากันว่าแรงขับเคลื่อนที่ดีที่สุดของชีวิตก็คือ “ กำลังใจ “
ในยามที่เราท้อ ในยามที่เราถอย ขอเพียงแค่คำปลอบโยนซักคำจาก “ คนรอบกาย “ ก็พร้อมที่จะฝ่าฝันกับอุปสรรคชีวิตต่อทันที ...
จะว่าไปกำลังใจก็เหมือนยาชนิดหนึ่งนั่นแหละครับ อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นรูปธรรม หรือ แตะต้องได้ แต่เราสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ผ่านวาจาที่ได้รับฟัง ...
ยิ่งเป็นเสียงที่เอื้อนเอ่ยมาจาก “ คนพิเศษ “ ล่ะก็ ... ไม่ต่างอะไรกับ “ ยาชั้นดี “ เลยทีเดียว
ผมเชื่อครับว่า ทุกคนต้องการกำลังใจ และหลายคนต่างก็มี “ ยาชั้นดี “ อยู่รอบตัว
ดังเช่นคนที่ผมจะเล่าดังต่อไปนี้ ...
ผมรู้จักสาวแกร่งคนนี้ผ่านทางช่อง “ ทรู เอ็กซ์-ไซด์ “ ของทรูวิชั่นครับ เธอชื่อเซซาร์ ชีวิตในห้วงเวลานั้นเปรียบดั่งมรสุมขนาดย่อมๆก็ไม่ผิดนัก ...
ลองจินตนาการภาพดูสิครับ หญิงสาวสวยนางหนึ่งอยู่ในห้วงวัยที่กำลัง“ อยู่ตัว “ ของการทำงาน มิหนำซ้ำก็เข้าสู่ประตูวิวาห์ และ กำลังจะกำเนิดบุตรคนแรกในอีก4เดือนข้างหน้านี้
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ดวงตาของเซซาร์กลับมีอาการผิดปกติ เธอมักจะมองเห็นภาพเบลอๆไปชั่วขณะ ช่วงนั้นเธอกระวนกระวายใจมากครับ ไปหาคุณหมอก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ ให้เพียงแค่ยามาช่วยประทังเท่านั้น
หลังจากคลอดบุตรสาวได้ไม่กี่เดือน ด้วยฤทธิ์ของยาทำให้อาการเหล่านี้ค่อยๆเลือนหายไป ..
จนกระทั่ง 6 เดือนผ่านไป ....
ขณะที่เธอกำลังนั่งทำงานที่ออฟฟิศตามปกติ โรคอันพิลึกกึกกือนี้ก็ “ Return “ กลับมาหาเธออีกครั้งครับ แถมเป็นการกลับมาที่ไม่ธรรมดา เพราะ คุณโรคเล่น “ จัดเต็ม “ ยิ่งกว่าเก่า ...
เซซาร์มองเห็นภาพคนซ้อนกันโดยที่ไม่ต้องใช้ “ นักมายากล “ มาช่วยแสดงครับ ยิ่งนานวันอาการยิ่งหนัก ซ้ำร้ายไปกว่านั้น คุณหมอกลับแจ้งข่าวร้ายให้เธอทราบว่า เธอเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นโรคที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดี เพราะ เคยดังกระฉ่อนทั่วประเทศมาแล้ว …
ก็โรค “ ภูมิแพ้ตนเอง “ ที่พี่ “ พุ่มพวง ดวงจันทร์ “ เคยเป็นนั่นแหละครับ ...
แค่เอ่ยถึงชื่อโรคหลายคนก็คงหนาวๆร้อนๆไปตามๆกัน เพราะ เป็นที่ทราบกันดีว่า โรคนี้ หายยากเสียด้วย ...
ลองคิดดูครับว่า ในมุมกลับ ถ้ากลายเป็นเราที่ต้องไปเผชิญวิบากกรรมแทนเซซาร์ เราจะรู้สึกอย่างไร !?
ตลอด2ปีเลยนะครับที่เธอต้องวนเวียนไปกับโรคร้ายนี้ ชีวิตหลังแต่งงานที่วาดฝันเอาไว้ว่าคงสวยหรู กลับต้องพังทลายไปพร้อมๆกับเสียเวลากับการเข้า-ออก โรงพยาบาล ....
ยิ่งไปกว่านั้น อาการอาจจะกำเริบขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็มิอาจจะมีใครล่วงรู้ได้ ...
เหมือนดั่งปาฏิหาริย์ ! ภายหลัง2ปีอันแสนข่มขื่น .... ปัจจุบัน เซซาร์สามารถที่จะใช้ชีวิตกับลูกและ สามีของเธอได้ตามปกติแล้วครับ
แม้จะยังไม่ถึงขั้นหายขาดสนิท แต่ความรุนแรงของอาการก็ค่อยๆเลือนรางลง และตอนนี้เธอก็รู้วิธีรับมือกับมันได้แล้ว ....
เธอบอกว่า ตลอดช่วงเวลา 2 ปีอันโหดร้ายที่ต้องวนเวียนกับสิ่งผิดปกติในร่างกาย ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องในแง่ลบไปหมดซะเสียเมื่อไหร่ ...
ผลพวงของโรคนี้ทำให้เธอมีทัศนคติที่ดีขึ้น รู้คุณค่าของชีวิตมากขึ้น และ รู้แล้วว่า “ ใครกันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ “
เธอยอมรับครับว่า ช่วงนั้นเธอรู้สึกกลัว หวาดผวา และ ท้อมาก
ทำไมกันนะ ....ทำไมถึงต้องเป็นเราที่ประสบเคราะห์ร้ายนี้ ทั้งที่โรคนี้โอกาสเกิดขึ้นแทบจะ 1 ใน พัน แท้ๆ ...
แต่ทำไมหวยกลับต้องมาออกที่เธอคนเดียว !?
เคยคิดมากถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย แต่แล้วก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอหยุดกลั้น ทิ้งความคิดอัน “ สะเพร่า “ นี้ทิ้งลงถังขยะไว้ …
เธอบอกว่า เธออาศัยลูก และ สามีเป็นดั่ง “ กำลังใจ “ ในการสู้ชีวิตต่อ ... เธอคิดเสมอว่า เธอจะตายไม่ได้ ถ้าเธอตายแล้วใครจะคอยดูแลลูก !?
ใครจะคอยทำกับข้าวให้ลูก ยามที่ลูกหิว ...
ใครจะคอยเลี้ยงดูลูก เมื่อลูกเติบใหญ่....
ถ้าเธอจากไปก่อน เมื่อลูกสาวนั้น “ จำความได้ “ เมื่อไหร่ล่ะก็ ... เธอคงเป็นปมด้อยโดนเพื่อนล้อตายแย่
ครับ ...ที่ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการเตือนสติคนที่กำลังท้อ คนที่กำลังถอยว่า ในเส้นทางอันมืดมนที่เรากำลังประสบอยู่ บางทีอาจมีปลายทางที่เต็มไปด้วยแสงสว่างอยู่รอบกายก็ได้ ...
เหมือนดั่งเซซาร์ ... เธออาศัย “ กำลังใจ “ นี้คอยดิ้นรนชีวิตเรื่อยมา ...
เป็นกำลังใจเล็กๆ เปรียบดั่งยาชั้นดี ที่เรียกว่า “ ลูก “ .....
ความรักที่แม่มีต่อลูก มันช่าง “ มากมาย มหาศาล “ จริงๆ
Master Reed
________________________________________________________
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมเขียนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว ... ตอนนั้นเกิดว่าง เลยเขียนขึ้นมา แต่แค่ตอนเดียวจริงๆ 5555
จบแล้วครับ ตอนแรก ไว้พบกันใหม่ตอนสองถ้ามีโอกาส สวัสดีครับ ^ ^