BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: ♥Irene ♥Tzuyu ♥JiSoo ♥Rosé ♥Karina ♥Pharita
: 0 ใบ : 0 ใบ
ตอบ: 22817
ที่อยู่: ____________________ _________________________ _________________________ เข้าร่วม: 31 Feb 1994
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:01
ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่


หากจะกล่าวถึงนักฟุตบอลที่รูปร่างหน้าตาดีแล้วนั้น ก็คงจะหาได้ไม่ยากนักในวงการฟุตบอล แต่หากพูดถึงนักเตะที่รูปร่างหน้าตาดีด้วย เล่นฟุตบอลเก่งด้วย อีกทั้งยังมีความประพฤติที่ดีทั้งในและนอกสนามด้วยแล้ว เชื่อว่าชื่อที่แฟนบอลทั่วโลกจะนึกถึงนั้น ต้องมีชื่อของ “เทพบุตรลูกหนัง” ริคาร์โด้ กาก้า อยู่ในลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน

ริคาร์โด้ อิเซคสัน โดส ซานโตส ไลเต้ หรือที่รู้จักกันในนาม กาก้า เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน ปี 1982 ในกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล โดยชื่อ กาก้า นั้นเป็นสำเนียงแบบภาษาโปรตุกีส ซึ่งตอนที่อยู่ในบราซิลนั้น คนส่วนใหญ่จะเรียกเขาว่า ริคาร์โด้ มากกว่า อย่างไรก็ตามชื่อ กาก้า นั้น ได้มาจากดิเกา น้องชายของเขา ซึ่งตอนเด็กๆ ไม่สามารถเรียกพี่ชายของเขาว่า ริคาร์โด้ ได้ ทำให้ดิเกา เรียกว่า คาค่า (Caca) แทน ครอบครัวของกาก้าจึงใช้ชื่อนี้เรียกเขามาตลอด ต่อมาภายหลัง จึงเปลี่ยนมาเป็น กาก้า (Kaka) อย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน


กาก้า กับ ดิเกา น้องชายของเขาในวัยเด็ก

สำหรับนักฟุตบอลชาวบราซิลแล้ว กาก้าเป็นเหมือนอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แตกต่างออกไปจากนักเตะคนอื่นๆ เพราะนักฟุตบอลในบราซิลนั้น โดยมากแล้วมักจะมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน ส่วนกาก้านั้นเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะดี แต่ความแตกต่างทางฐานะ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความรักในกีฬาฟุตบอลของกาก้า เขาเองก็มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นยอดนักเตะระดับโลก เช่นเดียวกับเด็กชาวบราซิลคนอื่นๆ ซึ่งไอดอลในวัยเด็กของกาก้า ก็คือ ไร (Rai) อดีตนักเตะทีมชาติบราซิล ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 1994 นั่นเอง


กาก้า (ซ้ายมือ) มีแววหล่อตั้งแต่เด็ก

ชีวิตในวัยเด็กของกาก้านั้น เติบโตมากับทีมยอดนิยมอันดับ 1 ของบราซิล นั่นก็คือ เซา เปาโล ซึ่งเป็นสโมสรเก่าของ ไร อีกด้วย เขาซ้อมฟุตบอลอยู่ในทีมเยาวชนของเซา เปาโล มาโดยตลอด แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น กาก้าประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงในสระน้ำ จนเกือบต้องเป็นอัมพาต เพราะกระดูกสันหลังมีรอยร้าว ความหวังที่จะเป็นนักเตะอาชีพของเขา แทบจะดับสลายลงในพริบตา

แต่ในอีก 1 ปี ให้หลัง เขาก็กลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์ โค้ชของเซา เปาโล ตัดสินใจส่งกาก้าลงสนามเป็นตัวสำรองในช่วง 14 นาทีสุดท้าย ในเกมระดับเยาวชน รายการทอร์เนโร่ ริโอ นัดชิงชนะเลิศ ขณะที่เซา เปาโล ตามหลังคู่แข่งอยู่ 1 ประตู และหลังจากลงสัมผัสสนามเพียงแค่ 2 นาที กาก้าก็ยิงประตูตีเสมอให้ทีมได้ และเหมือนดังสวรรค์ประทานพร ก่อนหมดเวลาการแข่งขันไม่นาน กาก้าก็จัดการซัดประตูชัยให้ทีมเอาชนะ และคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ซึ่งกาก้า ได้กล่าวถึงการกลับมาได้ในครั้งนี้ว่า เป็นผลมาจากการที่เขาเข้าโบสถ์บ่อย จนได้รับของขวัญจากพระเจ้านั่นเอง


กาก้า วันเดอร์คิดแห่งยุค ในชุดเซา เปาโล

หลังจากนั้น กาก้าก็ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว และเพียงแค่ฤดูกาลแรก เขาทำได้ถึง 12 ประตู จากการลงสนาม 27 นัด และในฤดูกาลต่อมา กาก้าก็ทำอีก 10 ประตู จาก 22 นัด ซึ่งนับว่าเป็นการแจ้งเกิดที่สุดแสนมหัศจรรย์ สำหรับเด็กหนุ่มผู้ที่เกือบจะหมดโอกาสในการเป็นนักเตะอาชีพมาแล้ว หลังจากนั้น เซา เปาโล เกือบที่จะขายกาก้า ให้กับกาเซียนเตปสปอร์ ทีมในดิวิชั่น 1 ตุรกี แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงทำให้กาก้ายังคงอยู่กับเซา เปาโล ต่อไป


ย้ายเข้าสู่รั้วสนามซาน ซิโร่ ของทีมรอสโซ่เนรี่ ในปี 2003

จนกระทั่งในปี 2003 เอซี มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่ในอิตาลี่ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาหมาดๆ ได้ตัดสินใจซื้อตัวมิดฟิลด์รูปหล่อรายนี้ ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 340 ล้านบาท) ซึ่งซิลวิโอ้ แบร์ลุสโคนี่ ประธานสโมสรมิลาน บรรยายถึงการตลาดครั้งนี้ว่า "ถูกเหมือนซื้อถั่ว" และเพียงแค่ 1 เดือน กาก้าก็จัดการเบียดรุ่นพี่ในทีมชาติอย่างริวัลโด้ รวมไปถึงจอมทัพโปรตุกีส อย่างมานูเอล รุย คอสต้า ให้ลงไปนั่งสำรองได้สำเร็จ โดยนัดแรกที่กาก้าลงสนามให้ทีมปีศาจแดง-ดำ เป็นเกมเซเรีย อา ที่ออกไปเยือนอันคอน่า และในฤดูกาลนั้น เขายิงไป 10 ประตู จาก 30 เกม พามิลานคว้าสคูเด็ดโต้ และ ถ้วยยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ ได้อีกด้วย


พามิลานคว้าสคูเดตโต้ ในฤดูกาลแรกที่เข้ามาร่วมทีม

ในฤดูกาล 2004-05 ด้วยวัยเพียงแค่ 22 ปี กาก้าก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของมิลานได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยการโชว์ฟอร์มกระชากลากเลื้อยที่สุดเร้าใจ การยิงไกลที่คมกริบ ตลอดจนรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตร ทำให้กาก้ากลายเป็นขวัญใจอีกคนหนึ่งของชาวมิลานิสต้าได้ไม่ยาก แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่ฤดูกาลนั้นกาก้าและมิลานไม่มีถ้วยรางวัลใดๆ ติดมือเลย โดยได้เพียงแค่รองแชมป์เซเรีย อา รองจากยูเวนตุส รวมไปถึงความพ่ายแพ้สุดเจ็บปวดให้กับลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่อิสตันบูล


ฝันร้ายที่ไม่อยากจดจำของกาก้า และทีมปีศาจแดง-ดำ

ฤดูกาลต่อมา มิลานต้องมาเจอกับมรสุมที่รุมเร้าอย่างหนัก เมื่อถูกตัดสินให้มีส่วนเกี่ยวพันกับกรณีล็อคสเปคผู้ตัดสิน ในคดีกัลโช่โปลี ซึ่งขณะนั้นเอง ได้มีข้อเสนอซื้อตัวกาก้า มาจากทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด แต่กาก้าปฏิเสธที่จะย้ายออกจากทีม เขาต้องการที่จะอยู่ช่วยมิลานต่อไป และนั่นก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เมื่อในฤดูกาลต่อมา กาก้าและพลพรรครอสโซ่เนรี่ ได้ประกาศศักดา คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกได้สำเร็จ ขณะที่ตัวกาก้าเอง ก็มาถึงจุดพีคที่สุดในชีวิตการค้าแข้ง คว้ารางวัลบัลลง ดอร์ มาครองได้โดยไร้คู่แข่ง




กาก้าพามิลานคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2007 และคว้าบัลลง ดอร์ ในปีนั้น

หลังจากจบฤดูกาล 2007-08 มีข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ จากทีมเศรษฐีใหม่อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขอซื้อตัวกาก้า ด้วยค่าตัวกว่า 100 ล้านปอนด์ ซิลวิโอ้ แบร์ลุสโคนี่ และบรรดาบอร์ดบริหาร เตรียมขายกาก้าให้กับทีมจากเกาะอังกฤษแล้ว แต่กาก้าก็ทำเอาแฟนมิลานต้องซาบซึ้งอีกครั้ง เมื่อเขาปฏิเสธเงินค่าเหนื่อยก้อนโต ในการย้ายไปร่วมทีมเรือใบสีฟ้า ท่ามกลางความยินดีของเหล่ามิลานิสต้านับหมื่น ที่มาประท้วงที่สำนักงานของสโมสร

ข่าวคราวการย้ายทีมของกาก้า เงียบหายไปในช่วงฤดูกาล 2008-09 ซึ่งมิลานไม่ได้แชมป์อะไรเลย แต่หลังจบฤดูกาล กาก้าก็ตกเป็นข่าวดังในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ เมื่อฟลอเรนติโน่ เปเรซ ซึ่งกลับมาดำรงตำแหน่งประธานสโมสรเรอัล มาดริดอีกครั้ง ได้มีนโยบายเดิม คือ การทำทีมแบบ "กาลาคติกอส" ก็ได้ยื่นข้อเสนอซื้อตัวกาก้า ซึ่งคราวนี้ มิลานซึ่งกำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ไม่อาจต้านทานกระแสอำนาจเงินได้ไหวอีกต่อไป มิลานจึงได้ตัดสินใจ ขายกาก้าให้กับเรอัล มาดริด ไปด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์ ซึ่งแม้ว่ากาก้าจะไม่ได้ต้องการย้าย แต่ก็จำเป็นต้องไป เพื่อช่วยเหลือสภาวะการเงินของสโมสร


ย้ายไปทีมราชันชุดขาวเป็นสถิติโลก ก่อนที่จะถูกคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำลายสถิติ

4 ปี กับทีมราชันชุดขาว กาก้าไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าอยู่ตลอด จนไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวหลักของทีมได้ จนในที่สุด กาก้าก็ย้ายกลับมาสู่อ้อมอกของทีมปีศาจแดง-ดำอีกครั้ง ในปี 2013 พร้อมทั้งยอมลดค่าเหนื่อยของตัวเองลงถึง 2 ใน 3 จากที่เคยได้รับจากเรอัล มาดริด


ย้ายกลับคืนสู่ทีมปีศาจแดง-ดำอีกครั้ง เพื่อสานต่อภารกิจให้เสร็จสิ้น

ฤดูกาล 2013-14 กาก้าในสีเสื้อแดง-ดำ กลับมาสู่บ้านที่ซาน ซิโร่ อีกครั้ง เพื่อสานต่อภารกิจที่คั่งค้างเอาไว้ให้ลุล่วง ซึ่งถึงแม้ว่ามิลานจะไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย โดยจบด้วยอันดับที่ 8 ในเซเรีย อา แต่โดยผลงานส่วนตัวแล้ว กาก้ายิงไปถึง 9 ประตู จากทุกรายการ ทำให้ยิงทะลุผ่านหลัก 100 ประตูได้สำเร็จ เป็นคนที่ 4 ในยุคของแบร์ลุสโคนี่ ซึ่งรวมเบ็ดเสร็จแล้ว กาก้ายิงให้มิลานไปทั้งหมด 104 ประตู จากการลงสนาม 307 นัด ในทุกรายการ


ภารกิจกับมิลานเสร็จสิ้น กาก้าย้ายสู่เมเจอร์ลีก


ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับเซา เปาโล ระหว่างที่รอเมเจอร์ลีกเปิดฤดูกาล

และในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา กาก้าและมิลาน ก็ได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญาต่อกัน เนื่องจากมิลานต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายของสโมสร ในการจ่ายค่าเหนื่อยของกาก้า ขณะที่ครอบครัวกาก้าเอง ก็อยากที่จะให้กาก้า กลับไปอยู่ที่ละตินอเมริกา กาก้าจึงได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ ออร์ลันโด้ ซิตี้ ในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะเซ็นสัญญายืมตัวไปอยู่กับทีมเซา เปาโล สโมสรแรกในชีวิตที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมาจากทีมเยาวชน


ประวัติส่วนตัว



กาก้า แต่งงานกับ คาโรลีน เซลิกู ณ โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง ที่ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ปี 2005 โดยที่ทั้งคู่พบกันเมื่อปี 2001 ซึ่งขณะนั้น คาโรลีน ยังเป็นนักศึกษา ขณะที่กาก้า ยังเล่นฟุตบอลให้กับ เซา เปาโล กาก้าและคาโรลีน นับเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะตลอดเวลาที่คบกัน ทั้งคู่ไม่ได้มีการชิงสุกก่อนห่ามเลย โดยทั้งสองคน ตั้งใจที่จะเก็บพรหมจรรย์ไว้ให้กันและกันในวันแต่งงาน ซึ่งในงานแต่งงานของทั้งคู่ มีแขกผู้มีเกียรติ มาร่วมงานกว่า 600 คน และบรรดาแขกนั้น มีนักเตะเพื่อนร่วมทีมชาติอย่างคาฟู, โรนัลโด้, อาเดรียโน่, ดีด้า, ชูลิโอ บาปติสต้า และยังมีอดีตโค้ชทีมชาติอย่าง คาร์ลอส อัลเบอร์โต้ ปาร์ไรร่า มาร่วมงานด้วย


ทั้งหล่อ ทั้งสวย เหมาะสมกันจริงๆ กาก้า-คาโรลีน


เกร็ดที่น่าสนใจ

- กาก้า มีเชื้อสายโปรตุเกส
- กาก้า เคยเป็นสมาชิกประจำองค์การกีฬาของศาสนาคริสต์
- ในเดือนพฤศจิกายน 2004 กาก้า ได้รับเลือกให้เป็นฑูต ในการต่อต้านความอดอยาก ของสหประชาชาติ ซึ่งเขานับเป็นฑูตที่อายุน้อยที่สุดในเวลานั้น
- กาก้า เป็นคนที่ชอบฟังบทสวดของศาสนาคริสต์มาก
- นอกจากนี้เขายังชอบศึกษาคัมภีร์ไบเบิ้ลอีกด้วย
- เวลาว่างของเขามักจะเข้าโบสถ์ อ่านคัมภีร์ พร้อมกับครอบครัวและน้องชายของเขา ดิเกา



- กาก้า นั้นถือว่าเป็นคริสเตียนที่เคร่งศาสนามากคนหนึ่งเลยทีเดียว ในเวลาที่เล่นฟุตบอล เขามักจะสวมเสื้อด้านในที่สกรีนคำว่า "I belong to Jesus" (สาวกของพระเจ้า) อยู่เป็นประจำ และทุกครั้งที่เขาทำประตูได้ ก็จะชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า เป็นสัญลักษณ์ว่า "ขอบคุณพระเจ้า" เสมอ



- ที่ลิ้นสตั๊ดของกาก้านั้น มีปักคำว่า "I belong to Jesus" (สาวกของพระเจ้า) และ "God is faithful" (พระเจ้าคือความซื่อสัตย์) อยู่ด้วย
- มีหลายครั้งที่ผู้คนมักเรียกเขาว่า "นิวเปเล่" หรือ "เปเล่ขาว"
- เปเล่ เคยออกมาบอกว่า กาก้า นั้นมีเทคนิคการเล่นแบบบราซิลขนานแท้ ผสมกับ ความแข็งแกร่งของร่างกายตามสไตล์ฟุตบอลยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้กาก้า นั้นประสบความสำเร็จในอิตาลี่
- วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ปี 2007 กาก้า ได้รับสิทธิให้เป็นพลเมืองของอิตาลี่ อย่างเป็นทางการ


เกียรติประวัติของกาก้า

เกียรติประวัติ กับเอซี มิลาน

ยูโรเปี้ยน ซูปเปอร์ คัพ : ปี 2003, 2007
เซเรีย อา : ปี 2004
อิตาเลี่ยน ซูปเปอร์ คัพ : ปี 2004
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2007
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก : 2007


เกียรติประวัติ ระดับชาติ

• ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ : ปี 2002
• คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ : ปี 2005, 2009


เกียรติยศส่วนตัว

• โบลา เดอ โออูโร่ โกลเด้น บอล (นักเตะยอดเยี่ยมลีกบราซิล) : 2002
• โบลา เดอ ปราตา (นักเตะยอดเยี่ยมตามตำแหน่งกองกลาง) : 2002
• ผู้เล่นยอดเยี่ยมโซนคอนคาเคฟ : 2003
• ผู้เล่นหน้าใหม่เซเรีย อา ยอดเยี่ยม : 2003
• ผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมของเซเรีย อา : 2004, 2006, 2007
• นักฟุตบอลเซเรีย อา ยอดเยี่ยมแห่งปี : 2004, 2007
• สุดยอดมิดฟิลด์แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2005
• ติดทีมแห่งปีของยูฟ่า : 2006, 2007
• ติดทีมแห่งปีของฟีฟ่า : 2006, 2007, 2008
• เปาโลเน่ ดี อาเจนโต (บอลเงิน) : 2006-07
• ดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ ลีก : 2006-07
• ผู้เล่นตัวรุกยอดเยี่ยมของแชมเปี้ยนส์ ลีก : 2006-07
• นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า : 2007
• รางวัลบัลลง ดอร์ : 2007
• โตโยต้า อวอร์ด : 2007
• เพลย์เมคเกอร์ยอดเยี่ยมประจำปี : 2007
• นักกีฬาลาตินยอดเยี่ยม : 2007
• ติด 1 ใน 100 บุคคลทรงอิทธิพล นิตยสาร ไทม์ : 2008, 2009
• ติดทีมยอดเยี่ยมของฟีฟ่า : 2008
• รางวัลฟุตบอลทองคำ คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ : 2009



สถิติ 104 ประตู ของกาก้า

ยิงประตูแรก ในเซเรีย อา : อินเตอร์ 1-3 มิลาน, 5 ต.ค. 2003
ยิงประตูแรก ในแชมเปี้ยนส์ ลีก : คลับ บรูช 0-1 มิลาน, 4 พ.ย. 2003
ยิง 50 ประตูให้ มิลาน ในทุกรายการ : มิลาน 3-0 คาตาเนีย, 20 ธ.ค. 2006
ยิง 50 ประตูให้ มิลาน ในเซเรีย อา : มิลาน 3-1 กายารี่, 5 เม.ย. 2008
ยิง 100 ประตูให้ มิลาน ในทุกรายการ : มิลาน 3-0 อตาลันต้า, 6 ม.ค. 2014

ทำประตูใน เซเรีย อา : 78 ประตู
ทำประตูใน แชมเปี้ยนส์ ลีก : 24 ประตู
ทำประตูใน ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ : 1 ประตู
ทำประตูใน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก : 1 ประตู

ประตูจากโอเพ่น เพลย์ : 85 ประตู
ประตูจากลูกจุดโทษ : 19 ประตู

ทำประตูด้วยเท้าขวา : 81 ประตู
ทำประตูด้วยเท้าซ้าย : 14 ประตู
ทำประตูด้วยลูกโหม่ง : 8 ประตู
ทำประตูด้วยสะโพก : 1 ประตู

ทำประตูได้ในเกมเหย้า : 68 ประตู
ทำประตูได้ในเกมเยือน : 36 ประตู

ทำประตูได้ในครึ่งแรก : 63 ประตู
ทำประตูได้ในครึ่งหลัง : 41 ประตู





โชคดีนะกาก้า ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน นายก็ยังคงเป็นตำนานของเอซี มิลาน และจะยังคงอยู่ในใจเหล่ามิลานิสต้าทั่วโลกตลอดไป
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
♥♥♥ WonYoung ♥♥♥
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jul 2008
ตอบ: 15451
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:03
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]


รักนะ กาก้า โชคดีครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: "รัก" ไม่ยาก ... แต่ลำบากมาก "เวลาลืม" !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 14083
ที่อยู่: ส้วมที่ OldTrafford
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:09
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ยังหลอนอยู่เลย ผีกาก้า ผีกาก้า

เวลาผ่านไปไวจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status: ความฝันของฉัน มีแต่ในอดีตเท่านั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2010
ตอบ: 26831
ที่อยู่: Turin
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:11
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
เทพบุตรลูกหนัง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status: FCB - Mia San Mia !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2014
ตอบ: 7155
ที่อยู่: München Deutschland
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:12
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
กาก้านี่ คือแบบว่า หล่อไปหมดทุอย่างจริง ๆ
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: รักพ่อครับ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2013
ตอบ: 50609
ที่อยู่: ปีนต้นงิ้วอยู่กับคนแก่ที่กำลังแหงนหน้าเฝ้ามองคนที่เค้ารัก
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:14
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
นักบอลคนสุดท้ายที่ครองโลก ก่อนถึงยุค เจ็ทเมส
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน






ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: ♥Irene ♥Tzuyu ♥JiSoo ♥Rosé ♥Karina ♥Pharita
: 0 ใบ : 0 ใบ
ตอบ: 22817
ที่อยู่: ____________________ _________________________ _________________________ เข้าร่วม: 31 Feb 1994
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:20
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
Cafitiliar พิมพ์ว่า:
นักบอลคนสุดท้ายที่ครองโลก ก่อนถึงยุค เจ็ทเมส  


เจ็ทเมส สตั๊นท์ไป 10 วิ อ๋อ เจ็ทโด้ เมสซี่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
♥♥♥ WonYoung ♥♥♥
ออฟไลน์
TJR
นักเตะอบต.
Status: FORZA MILANO!!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 2565
ที่อยู่: BETONG CITY , YALA
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:23
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ผู้ชาย คนนี้ทำให้ผมเริ่มหันมาเชียมิลาน

เขาคือ Playmaker ที่เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยดูบอลมา
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2013
ตอบ: 40466
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:27
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
พอกาก้าได้บัลลงดอร์ไปปีถัดมาจนถึงปัจจุบัน

บัลลงดอร์ลุ้้นไม่สนุก

เพราะมันเก่งเกินไป 2 คนนั้น แข่งกันยิงอยู่นั้นละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2014
ตอบ: 665
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 17:35
ถูกแบนแล้ว
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ถ้ากาก้าไม่เจ็บ บัลลงดอร์มันไม่แข่งกันอยู่แค่สองคนหรอก

ยุคโด้เมส อาจจะไม่เกิด เพราะมี กาก้า ด้วยอีกคน

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: แม้ไม่ใช่ดินที่หนักแน่น แต่หวังให้ดอกไม้ได้งดงาม
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Feb 2009
ตอบ: 5841
ที่อยู่: วัน เวลา ผ่านไป อะไรหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนตาม
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 18:12
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ผมละโคตรชอบเลยหละกาก้านี่ รองจากโด้อ้วนเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
บางครั้งเราอาจไม่เข้าใจการกระทำของตัวเอง ฉะนั้น จึงไม่ควรตัดสินการกระทำของคนอื่น
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Jan 2010
ตอบ: 28311
ที่อยู่: BETA HOUSE
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 18:23
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ไอดอลผมเลย
เป็นนักเตะที่ผมซือเสื้อแล้วสกรีนชื่อนักเตะ
ไม่เคยสกรีนชื่อใครเลย

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 998
ที่อยู่: เหนือตอนล่าง,กลางตอนบน
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 19:08
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ไม่รู้ สโคลารี่ คิดไรอยู่ไม่เอา กาก้า มาบอลโลก

ผมว่ายังดีกว่าพวก เฟร็ด,โชว์ กว่าเยอะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3699
ที่อยู่: San Siro,Milan
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 19:24
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ผมในฐานะแฟนเอซี มิลานคนนึงขอบอกเลยว่ากาก้านั้นจะเป็นตำนานและเป็นคนที่
เหล่าสาวกแดงดำจะจดจำไปตลอดอย่างแน่นอน เรารักนายกาก้า
แก้ไขล่าสุดโดย JeeDs {ACM] เมื่อ Tue Jul 08, 2014 19:25, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: สื่งที่ร้ายกาจที่สุดในโลกคือความชั่วร้ายในใจของคน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 1508
ที่อยู่: Old Trafford Manchester
โพสเมื่อ: Tue Jul 08, 2014 20:44
[RE: ริคาร์โด้ กาก้า - เทพบุตรลูกหนังแห่งซาน ซิโร่]
ไอดอลผมเลยชอบก้ตอนเจอกันแมนยูปี 2007 แหละ ผีกาก้า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
( Since I have been watching Football ) Mine BestXI TEAM : 4-4-1-1
GK:E.Van Der Sar ,RB:P.Lahm ,CB:R.Ferdinand ,CB:A.Nesta ,LB:P.Maldini ,CM:A.Pirlo ,CM:P.Scholes ,RW:L.Messi ,ST:R.Van Nistelrooy ,CF:A.Del Piero ,LW:R.Kaká
Manager:Sir Alex Ferguson ,Offensive:Fastbuildup Defensive:Pressing

ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel