BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้ทรงธรรม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jul 2008
ตอบ: 33
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 12, 2014 15:49
เข้าใจธรรมะ[คำถาม๑๐๕๓-บาปเริ่มต้นที่ใจ]
เป็นธรรมะ กับเรื่องใกล้ตัวดีครับ น่าจะนำไปใช้ และเข้าใจกันได้ง่าย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ

อนุโมทนาบุญแก่ผู้ที่สนใจทุกท่าน และ ขอให้บุญรักษาครับ

-โทษคนอื่นได้กิเลส โทษตนเองได้ปัญญา
-กิเลสไหลท่วมท้นใจทั้งคืนวัน คิดว่าปัญญาเพียงน้อยนิดจะเอาชนะกิเลสได้

*ควรใช้ปัญญาพิจารณาทุกครั้งในการรับข้อมูล ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อครับ


ขอบคุณ เวป raksa-dhamma ครับ
--------------------------------------------------------------------------


คำถาม
ผมสงสัยว่าถ้าบวชแล้วจะวิ่งไม่ได้ ต้องสำรวม ห้ามแตะต้องผู้หญิง เป็นต้นแต่ถ้าหากว่าเห็นผู้หญิงกำลังจะจมน้ำเรา(สมมติว่าบวชแล้ว)ก็อยู่ไกลพอสมควรถ้าวิ่งไปจึงจะทันและแถวนั้นไม่มีคนอยู่เลยจะต้องทำอย่างไรอ่ะครับ(อันนี้สมมติว่าว่ายน้ำเป็น) ถ้าวิ่งเข้าไปช่วยก็คงต้องอาบัติ คือว่าคำถามนี้เป็นเรื่องที่ผมสมมติขึ้นมานะครับเพราะผมสงสัย และถ้าเราว่ายน้ำไม่เป็นจะมองดูคนจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตาเลยหรือครับ ขอคนเดินทางให้คำปรึกษาด้วยครับ

คำตอบ
คล้ายๆคำถามข้อสงสัยที่หลายๆท่านมักจะตั้งหัวข้อสนทนากัน ด้วยความสนใจเรื่องผิดหรือถูก
คนเดินทาง ขออนุญาตตอบข้อสงสัยอย่างนี้นะคะ
พระภิกษุนั้น ท่านอยู่ใต้กฏพระวินัยในความเป็นพระ
ตามหัวข้อที่ท่านผู้ถามตั้งข้อสงสัยนั้น จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าทั้งกรณีวิ่งหรือการช่วยผู้หญิงนั้น พระนั้นย่อมเป็นอาบัติ ..และอาบัตินั้นมี 3 ระดับ คือระดับต้น ระดับกลาง และระดับหนัก กล่าวง่ายๆอย่างนี้นะคะ

การวิ่งด้วยความคะนองนั้น เป็นอาบัติทุกกฏซึ่งเป็นอาบัติเล็กน้อย แต่ถ้าวิ่งเพราะหนีภัยของตนเอง การวิ่งนั้นไม่เป็นอาบัติค่ะ แต่ถ้าวิ่งไปช่วยคนอื่น เป็นอาบัติทุกกฏค่ะ

การแตะต้องสตรี หากยื่นมือไปฉุดหญิงขึ้นจากนำ้เพราะจะช่วยชีวิต หรือจำเป็นต้องว่ายน้ำลงไปช่วย แล้วนำหญิงขึ้นมาวางบนฝั่ง โดยหาความยินดีไม่ได้เลย อย่างนี้...เป็นอาบัติระดับต้นค่ะ เพราะพระแตะต้องตัวผู้หญิงไม่ได้ แต่ด้วยเหตุสุดวิสัยและไม่มีเจตนาด้วยราคะ เป็นอาบัติชั้นต้น
พระช่วยโยมผู้หญิงแล้ว วางหญิงนั้นลง โดยปราศจากความพอใจ มาจนถึงขณะนี้ เป็นอาบัติระดับต้น หากแต่เมื่อวางหญิงลงแล้ว เกิดความยินดีในสัมผัสนั้น เกิดขึ้นในใจในขณะที่จากมาแล้ว ก็ยังเป็นอาบัติชั้นต้น..
หากแต่ด้วยอำนาจราคะ ก็ทำให้พระนั้นกลับไปแตะต้องร่างของผู้หญิง ตรงนั้น ถือเป็นอาบัติระดับสองค่ะ หรือแม้แต่ ขณะที่อุ้มจากน้ำ ในขณะที่กำลังช่วยนั่นแหละแล้วก็เกิดราคะขึ้น ก็ถือเป็นอาบัติระดับสองค่ะ

ดังนั้น พระภิกษุท่านต้องช่วยโยมตกน้ำค่ะ แล้วก็ปลงอาบัติเสียโดยเรียบร้อยตามระดับของอาบัติ อีกทั้งหากความกำหนัดเกิดขึ้น ท่านก็พึงรู้แล้วก็พึงละค่ะ
จะเล่าเรื่องๆหนึ่งให้ฟังนะคะ..ถึงจะเป็นเรื่องเล่า แต่ก็มีนัยที่น่าสนใจ

พระหนุ่มกับพระอาวุโส เดินทางไปที่แห่งหนึ่ง ก่อนจะข้ามลำธารค่อนข้างอันตรายเพราะกระแสน้ำแรงมาก ได้พบผู้หญิงคนหนึ่งยืนหมดอาลัยเพราะไม่อาจจะข้ามลำน้ำไปเพื่อเยี่ยมพ่อแม่ผู้ใกล้จะตาย เธอนั้นร้อนใจมากและร้องไห้ พระทั้งสองตัดสินใจแบกยกนางข้ามลำธาร มิฉะนั้นด้วยกำลังของเธอหรือพระเพียงองค์เดียวก็ไม่อาจจะช่วยนางได้ พระหนุ่มไม่สบายใจแต่เพราะพระอาวุโสท่านตัดสินใจอย่างนั้นก็ปฏิบัติตาม

ในคราวที่ช่วยหญิงนั้นแล้ว หญิงนั้นแยกทางไป และพระภิกษุสองรูปก็ต่างพากันเดินทางด้วยความสำรวมไปยังจุดหมายปลายทาง พระอาวุโสท่านสำรวมทั้งกายและใจในระหว่างนั้น แต่พระหนุ่มกลับใจร้อนรุ่มยิ่งนักเพราะรู้สึกผิดมากที่แตะต้องตัวผู้หญิง ทั้งสองท่านก็กลับมาปลงอาบัติของท่านไปโดยเรียบร้อย
วันรุ่งขึ้นทนไม่ไหวก็กล่าวกับพระอาวุโสว่า ข้าพเจ้าไม่สบายใจเรื่องที่พวกเราทั้งสองแบกหญิงนั้นข้ามลำธาร..?

พระอาวุโส ก็เพียงแต่กล่าวเตือนสติพระหนุ่มว่า "อ้อ..ท่านยังแบกหญิงนั้นอยู่มาถึงบัดนี้อีกหรือ? อาตมาวางนางลงไปตั้งแต่ข้ามฝั่งแม่น้ำไปเมื่อวานนี้แล้ว..."
พระหนุ่มจึงได้สติ แลเห็นโทษภายในจิตใจตน เกิดความละอายใจและตั้งสติขึ้นมาใหม่ว่า ตนเองนั่นแหละที่ใจเหนี่ยวเอาไว้ แม้การกระทำนั้นจะเป็นอาบัติก็ปลงไปให้เรียบร้อยเพราะหาเจตนาแห่งบาปไม่มี ...และจากนั้นแล้ว ท่านก็ทำความรู้สึกตัวต่อไป...
ดังนั้น หวังว่า ท่านผู้ถามพอจะเข้าใจนะคะ คนเดินทางก็ต้องสอบทานกับพระอาจารย์หลายครั้งทีเดียว ข้อมูลเลยต้องแก้ไขหลายครั้งหน่อยนะคะ ..แต่พระอาจารย์ท่านบอกว่า เป็นเรื่องดีที่จะได้วิสัชนากันในหมู่พระของท่านที่ต้องวินิจฉัยในกรณีที่เป็นข้อสงสัยอันคลุมเคลือที่ไม่ง่ายต่อการจะเข้าใจได้ชัดเจนอย่างนี้ค่ะ

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: อากาศดีสบายกายบรรยากาศดีสบายใจ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 May 2009
ตอบ: 5301
ที่อยู่: Bangkok,Thailand
โพสเมื่อ: Mon May 12, 2014 15:59
[RE: เข้าใจธรรมะ[คำถาม๑๐๕๓-บาปเริ่มต้นที่ใจ]]
เคยบวชและถามหลวงพี่ หลวงพี่บอกให้เอาจีวรมัดตัวโยมแล้วลากขึ้นฝั่งครับ

คนที่จมน้ำแม้แต่แม่แท้ๆ ถ้าไปแตะเนื้อต้องตัวก็อาบัติ ครับ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ทรงธรรม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jul 2008
ตอบ: 33
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon May 12, 2014 17:41
[RE: เข้าใจธรรมะ[คำถาม๑๐๕๓-บาปเริ่มต้นที่ใจ]]
ก้อง ณ พัทลุง พิมพ์ว่า:
เคยบวชและถามหลวงพี่ หลวงพี่บอกให้เอาจีวรมัดตัวโยมแล้วลากขึ้นฝั่งครับ

คนที่จมน้ำแม้แต่แม่แท้ๆ ถ้าไปแตะเนื้อต้องตัวก็อาบัติ ครับ

 

เกรงว่าถ้ามัวแต่ห่อด้วยจีวรอาจจะช่วยเหลือได้ไม่ทันการครับ
เจตนาและจิตที่ไม่เป็นอกุศลสำคัญที่สุดครับ อาบัตินั้นก็ปลงได้ไม่ได้รุณแรงถึงขั้นปราชิก

วางทุกสิ่งออกจากตัวที่เป็นตน แม้บวชพระก็จงวางอย่าให้เหลือ
คำว่าพระเป็นเพียงชื่อคอยย้ำเตือน ว่าเราคือผู้ย่ำเดินบนหนทางแห่งความดับไป

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel