ผู้ทรงธรรม
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jul 2008
ตอบ: 33
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 02, 2014 15:08
เข้าใจธรรมะ[คำถาม๑๐๕๐-พระธรรมเป็นของสาธารณะ]
เป็นธรรมะ กับเรื่องใกล้ตัวดีครับ น่าจะนำไปใช้ และเข้าใจกันได้ง่าย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ
อนุโมทนาบุญแก่ผู้ที่สนใจทุกท่าน และ ขอให้บุญรักษาครับ
-โทษคนอื่นได้กิเลส โทษตนเองได้ปัญญา
-กิเลสไหลท่วมท้นใจทั้งคืนวัน คิดว่าปัญญาเพียงน้อยนิดจะเอาชนะกิเลสได้
*ควรใช้ปัญญาพิจารณาทุกครั้งในการรับข้อมูล ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อครับ
ขอบคุณ เวป raksa-dhamma ครับ
--------------------------------------------------------------------------
คำถาม
ผมตั้งความหวังไว้ว่าเมื่อเรียนจบและทำงานไปสักพักอยากจะบวชในพระพุทธศาสนาเพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์ครับ ตอนนี้ผมอายุ 16 ปี แต่ทางบ้านนับถือพุทธนิกายมหายานคือไว้จ้าว เผากระดาษเงินกระดาษทอง เป็นต้น แต่ก็ไว้พระบ้างนะครับ มีผมคนเดียวที่นับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งและไม่ค่อยจริงจังกับเทศกาลต่างๆมากนัก พ่อและแม่ผมคงไม่ให้บวชแน่(ผมอยู่กับญาติมาตั้งแต่เด็กจึงไม่สนิทกับพ่อและแม่ด้วย) และหากผมบวชก็เป็นห่วงพ่อและแม่ ท่านให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามาอยู่ๆก็จะไปบวช พ่อแม่คงต้องเสียใจมากแน่ๆครับ ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจก็บาปแล้วอ่ะครับ แล้วถ้าบวชไปใครจะดูแลท่านทั้งสองยามป่วยไข้ไม่สบายล่ะครับ ผมขอคำปรึกษาคนเดินทางด้วยครับว่าผมควรทำยังไงดี ผมเบื่อทุกสิ่งในทางโลก ไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏนี้อ่ะครับ
คำตอบ
ประโยชน์ในพระพุทธศาสนานั้น มี ประโยชน์ ๓ ดังนี้
๑.ประโยชน์ชาตินี้
๒.ประโยชน์ชาติหน้า
๓.ประโยชน์อย่างยิ่ง (คือ พระนิพพาน)
และพึงทราบว่า ประโยชน์ทั้งสามนี้ เป็นปัจจัยเกื้อกูลกันตลอดทั้งสายทีเดียว
หากบุคคลใดยังทำประโยชน์ชาตินี้และ ประโยชน์ชาติหน้าไม่ได้แล้ว การจะเอื้อมไปหาประโยชน์อย่างยิ่งนั้น จะเป็นไปกับกิเลสได้นะคะ
เบื่อ เพราะปัญญาเบื่อ?... หรือเบื่อเพราะโทสะ?
หากปัญญารู้...ใจจึงคลายกำหนัด เบื่อในอารมณ์ที่แม้จะเป็นอารมณ์ที่น่าชอบใจ แต่ก็เห็นเป็นโทษ เห็นโทษของการเกิด เห็นโทษของกิเลสเป็นใหญ่
โทสะเบื่อ... เพราะเหตุที่บุคคลบางคน ไม่ประสบความสุขในชีวิต แห้งแล้งกันดารนัก หาความรื่นรมย์อะไรไม่ได้เลย ใจจึงเบื่อหน่าย อย่างนี้ก็เป็นไปกับโทสะ.... พอเข้าไปบวชก็เดือดร้อนในเวลาต่อมา เพราะโทสะใช้ให้บวช ไม่นานก็ย่อมเดือดร้อนเพราะโทสะไม่ชอบการเป็นนักบวชขึ้นมาเสียอีก อย่าลืมว่า การจะอยู่ในเพศนักบวชนั้น จะกระทำได้ถูกต้องแสนยากทีเดียว....
หรือคราวที่ไปประสบอารมณ์ที่ชอบใจขึ้นมา เช่นไปพบสีกาที่ถูกใจมากเข้า... บางคนก็ถึงกับครองผ้าเหลืองไว้ไม่ได้ สึกออกไปก็มี
เรื่องนี้ ท่านผู้ถามอายุยังน้อย มีเวลาพิสูจน์ศรัทธาตนเองได้ ดังนั้น พึงกำจัดเรื่องราวที่กังวลคือเรื่องพ่อแม่โดยเรียบร้อยเสียก่อน ดูแลท่าน เรียนหนังสือให้จบ หาการงานทำไปก่อนนะคะ
หากบุญวาสนามีมาพอ ท่านผู้ถามจะได้บวชโดยสะดวกค่ะ อย่าไปเดือดร้อนที่ดูเหมือนจะล่วงเลยประโยชน์อันเหมาะสมไปเสียเลย
ท่านผู้ถามพึงทราบว่า การที่เราจะทำอะไรได้หรือไม่ได้นั้น แม้อาศัยเพียงความเพียรหรือความต้องการอย่างเดียว ผลก็หาสำเร็จได้ไม่ ต้องมีเหตุในอดีตหนุนมาด้วย ดังนั้น ก็สมควรปล่อยวางจิตใจที่หมกมุ่นต่อเรื่องนี้ไปก่อนนะคะ
การทำประโยชน์ในพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้มอบให้พระภิกษุโดยส่วนเดียว ท่านมอบมรดกให้แก่พุทธบริษัท ดังนั้น แม้เป็นอุบาสกก็สามารถทำประโยชน์หรือทำธุระในพระศาสนาได้ค่ะ คือ
๑. คันถธุระ คือการศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ท่านผู้ถามยังไม่ได้เริ่มต้นเลย หากบวชไปแล้ว บางทีก็เป็นการบวชเพื่อบาปมากขึ้น บวชเพื่อทำลายตนก็ได้... หากไม่เข้าใจเหตุผลในการบวช ศรัทธาไม่มั่นคง ปัญญาไม่พอ แล้วก็จะเกิดโทษนะคะ
๒.วิปัสสนาธุระ คือ การฝึกปฏิบัติวิปัสสนาโดยต้องมีพื้นฐานคันถธุระรองรับด้วย
จึงสมควรเห็นว่า แม้ในธุระที่พระองค์ทรงมอบให้นั้น เป็นฆราวาสก็ทำได้นี่คะ กุศลอะไรๆ ฆราวาสก็ทำได้..หากวันหนึ่งข้างหน้าพร้อมด้วยเหตุและปัจจัยแล้ว ท่านผู้ถามอาจจะได้บวชสมใจก็ได้นะคะ
ดังนั้นแม้ในยามนี้ กุศลที่ท่านพึงทำได้คือ การเป็นลูกที่ดี ดูแลพ่อแม่ เรียนหนังสือ เป็นเยาวชนที่ดี ตั้งตนอย่ในศีลธรรมอันดี ท่านย่อมได้ทั้งประโยชน์ชาตินี้ และประโยชน์ชาติหน้าทีเดียว ท่านย่อมร่าเริงใจไม่กระสับกระส่ายจะไปทางไหนดีอย่างนี้เป็นแน่แท้ค่ะ
อย่าเพิ่งไปกำหนดอนาคตสำคัญมั่นหมายเลยนะคะ จะทุกข์ใจมากขึ้น คิดเสียว่า หากบุญบารมีมากพอ ทุกอย่างก็จะลงตัวนะคะ ทำปัจจุบันตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อนนะคะ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ