ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 19 Dec 2014
ตอบ: 17987
ที่อยู่: ใน♥ริสะจัง :3
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 11:55 am
ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?
เชื่อไหมว่าไม่จำเป็นต้องเป็นถึงระดับ CEO เราก็สามารถทำให้คำพูดเรามีน้ำหนักพอที่จะจูงใจคนฟังได้!!

เพราะล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาได้ออกมาเผยถึง 11 ทริคไม่ลับ ที่จะช่วยทำให้เราสามารถสื่อสารกับฝ่ายตรงข้ามให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ง่ายขึ้น โดยที่บางทีพวกเขาอาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ


1. ใช้ตัวล่อช่วยทำให้คนหันมาซื้อสินค้าเรามากขึ้น


นักเศรษฐศาสตร์ ‘Dan Ariely’ เคยกล่าวบนเวที Ted Talk ถึงเทคนิคการขายของสองสิ่งที่อาจจะมีราคาสูงใกล้เคียงกัน ให้ผู้ขายใช้สินค้าตัวที่ 3 เข้ามาเป็นตัวล่อ ยกตัวอย่างเช่น

ร้านแห่งหนึ่งขายเค้กช็อคโกแลตปอนด์ละ 500 บาท เค้กกล้วยปอนด์ละ 1,000 บาท แต่ถ้าเอาทั้งเค้กกล้วย และเค้กช็อคโกแลต ราคาก็จะยังคงอยู่ที่ 1,000 บาท จะทำให้ดูเหมือนว่าตัวเลือกที่ 3 น่าสนใจมากที่สุด และดูคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งเขาได้อธิบายเพิ่มว่านั่นก็คือการสร้างตัวเลือกที่ 3 โดยให้กลุ่มคนซื้อรู้สึกว่าคุ้มค่าที่สุด

2. เปลี่ยนบรรยากาศการพูดคุยให้อยู่ในที่ๆ คนรู้สึกเห็นแก่ตัวน้อยลง

บรรยากาศคือสิ่งสำคัญในการต่อรอง ถ้าหากเราต้องต่อรองกับเพื่อนร่วมงานละก็ บางทีอาจจะเปลี่ยนจากห้องประชุมที่แสนจะน่าเบื่อ ย้ายมาคุยกันที่บรรยากาศร้านกาแฟสุดแสนจะร่มรื่นย์ หรือสวนสาธารณะ สถานที่ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมความก้าวร้าวของมนุษย์ได้น้อยกว่า



3. ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้อื่นก่อน

obert Cialdini นักจิตวิทยาได้กล่าวว่า อีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้คนๆ นั้นทำตามในคำขอของเราได้ ก็คือการหยิบยื่นน้ำใจไมตรีเข้าไปช่วยเหลือเขาก่อน จะทำให้คนนั้นรู้สึกอยากตอบแทนเรากลับคืนด้วยเช่นกัน

และถ้าหากคุณยินดีที่จะช่วยเหลือแล้วละก็ ลุง Robert ยังได้แนะนำให้ใช้คำเหล่านี้แทนเช่น “ได้แน่นอน” แทนคำว่า “ไม่มีปัญหา” เพราะคำแรกให้ความรู้สึกระหว่างการเป็นพาร์ทเนอร์กันมากกว่า

4. เลียนแบบท่าทางของฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เขาชอบเรา

นักวิทยาศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่า ‘ปฏิกริยากิ้งก่าเปลี่ยนสี’ เพราะลึกๆ แล้วคนเรามักจะชอบพูดคุย หรือให้ความสำคัญกับคนที่มีบุคลิกท่าทาง หรือความสนใจในเรื่องเดียวกันมากกว่า และอีกสิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ จากการศึกษาพบว่าส่วนใหญ่แล้วฝ่ายตรงข้ามมักจะไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเลียนแบบอยู่ แต่กลับรู้สึกไว้วางใจ และเชื่อใจมากกว่าแทน

ต่อไปถ้าต้องการจะต่อรองอะไรกับบอสที่ทำงาน หรือเพื่อนร่วมงานละก็ ลองสังเกตพฤติกรรมการนั่ง การพูด ของเขาแล้วลองทำตามดูสิ

5. พูดให้เร็วขึ้นเพื่อให้ข้อโต้แย้งของอีกฝ่ายเห็นด้วยกับเรา

การสื่อสารเพื่ออธิบายไอเดียในหัวเราเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน งานวิจัยระบุว่า ถ้าหากเราพบว่ามีคนไม่เห็นด้วยกับไอเดียที่เรานำเสนอ ให้พูดอธิบายให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่พวกเขาจะได้มีเวลาในการคิดทบทวนที่น้อยลงในขณะที่เราพูด

ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากเรานำเสนอข้อโต้แย้งบางอย่างแล้วคนรอบข้างเห็นด้วย ให้เราพูดให้ช้าลงเพื่อที่คนฟังจะได้ประมวลผลไอเดียของเราได้ดียิ่งขึ้น

6. สร้างความสับสนเล็กน้อยให้กับฝ่ายตรงข้าม

วิธีการนี้เรียกว่า ‘Disrupt-then-Reframe’ (ทำลายกรอบเดิมแล้วสร้างกรอบใหม่) ซึ่งเป็นอีกเทคนิคที่ช่วยทำให้อีกฝ่ายคล้อยตามไปกับเราได้ง่ายขึ้น

เคยมีการทดลองวิธีนี้กับเด็กที่ขายโปสการ์ดตามบ้านต่างๆ วิธีนี้ทำให้พวกเขาขายได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า โดยเดิมทีพวกเขาประกาศขายโปสการ์ด 8 ใบ ราคา $3 แต่ใช้วิธีบอกคนซื้อว่า 8 ใบ ราคา 300 เพนนี ($3 นั่นแหละ) แทน

ซึ่งนักวิจัยบอกว่าการที่มันได้ผลเพราะวิธีนี้เป็นการทำลายกรอบความคิดแบบเดิม ทำให้พวกเขาต่างมีจิตใจที่วอกแวก เพราะมัวแต่คิดว่า 300 เพนนี เท่ากับกี่ดอลล่าร์ ก่อนที่จะตกลงซื้อขายเพราะเห็นว่าราคานั้นสมเหตุสมผล



7. ขอให้พวกเขาทำในสิ่งที่เราต้องการ หลังเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน

คนที่เหนื่อยหรือฟุ้งซ่านมีแนวโน้มที่จะยอมรับในสิ่งที่คุณต้องการได้มากกว่า สมมุติว่าเราต้องการความช่วยเหลือซักอย่างหนึ่งจากเพื่อนร่วมงาน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขาหลังเวลาเลิกงาน เพราะเป็นช่วงเวลาที่หลายคนต่างรู้สึกเหนื่อยล้ามาแล้วทั้งวัน ซึ่งส่งผลให้สมองมีกลไกการคิดคำนึงถึงเหตุการณ์ในอนาคตน้อยกว่า

8. ใช้สายตาจดจ้องเพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามประพฤติตัวอย่างมีีศีลธรรม

มีการศึกษาหนึ่งพบว่า คนเรามักจะยอมจัดการให้ตัวเองดูเรียบร้อยอยู่เสมอ หลังจากที่พวกเขาโดนสายตาเพ่งมองในที่คนหมู่มาก ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการจะส่งเสริมไม่ให้คนทิ้งขยะเรี่ยราด การทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เป็นอีกหนึ่งอำนาจมืดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลได้ดีอย่างเหลือเชื่อ



9. ใช้คำนามแทนคำกริยาในคำถาม

อีกงานวิจัยหนึ่งได้ทำการถามคำถามแบบเดียวกันในรูปแบบที่ต่างกัน โดยคำถามแรกเป็น “คุณรู้สึกอย่างไรที่จะได้ไปเลือกตั้งวันพรุ่งนี้?” กับ “คุณรู้สึกอย่างไรที่พรุ่งนี้จะได้เป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง”

ผลปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ชอบประโยคหลังมากกว่า เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกมีตัวตนอยู่ในกลุ่มสังคมหนึ่ง หรือความรู้สึกที่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของกลุ่มสังคมนั้นๆ

10. ทำให้พวกเขารู้สึกแตกตื่น

มีผลวิจัยชี้ให้เห็นว่าคนที่ได้สัมผัสกับความวิตกกังวล และได้รับความรู้สึกโล่งอกหลังจากนั้น พวกเขาจะมีท่าทีการตอบสนองเชิงบวกต่อคำร้องขอที่มากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น คนที่ได้ยินเสียงรถตำรวจมาแต่ไกลระหว่างเดินข้ามถนน มีแนวโน้มที่จะยอมหยุดทำแบบสอบถามมากกว่าคนที่ไม่ได้ยินอะไรเลย

สาเหตุก็เพราะช่วงเวลาดังกล่าวมนุษย์จะเกิดความรู้สึกระวังภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้กับตัวเอง ดังนั้นในสมองของพวกเขาจึงมีทรัพยากรมาคิดเรื่องคำร้องขอหลังจากนั้นน้อยกว่า



11. โฟกัสกับสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามจะได้รับ จากข้อเสนอของคุณ

ในระหว่างเจรจาต่อรอง ผู้เชี่ยวชาญแนะว่าเราควรเน้นย้ำถึงสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามจะได้รับ ถ้าหากเห็นด้วยกับข้อเสนอของเรา แทนที่จะบอกว่าพวกเขาต้องเสียอะไรไป

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณเป็นเซลล์ขายรถคุณควรจะเสนอปิดราคาด้วยคำพูดที่ว่า “ผมยอมยกรถคันนี้ให้คุณไปเลยแค่ 1 แสนบาท” แทนที่เราจะบอกว่า “ผมต้องการ 1 แสนบาทสำหรับรถคันนี้” เห็นไหมว่าแค่เปลี่ยนประโยค ความรู้สึกของผู้ฟังก็เปลี่ยนไปมากจริงๆ



ที่มา catdumb

ยังไงก็ลองเอาไปปรับใช้กับชีวิตดู จะใช้จีบหญิงคุยงานหรืออะไรก็ได้ น่าจะมีประโยชน์บ้าง
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1671
ที่อยู่: StamFord Bridge
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 11:57 am
[RE: ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?]
สรุปมาสัก 1 บรรทัดได้ไหม๊
0
0
ที่ยังมีอยู่ทุกวัน คือความทรงจำดีๆ




เข้าร่วม: 19 Dec 2014
ตอบ: 17987
ที่อยู่: ใน♥ริสะจัง :3
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 11:58 am
[RE: ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?]
Smildz พิมพ์ว่า:
สรุปมาสัก 1 บรรทัดได้ไหม๊  


มี11ข้อสรุป 1 บรรทัดคงเป็นไปไม่ได้
ลองอ่านดูมีประโยชน์นะ
0
0
เข้าร่วม: 27 Mar 2007
ตอบ: 4067
ที่อยู่: Signal Iduna Park
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 12:08 pm
[RE: ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?]
5. พูดให้เร็วขึ้นเพื่อให้ข้อโต้แย้งของอีกฝ่ายเห็นด้วยกับเรา

ที่ทำงานผมมีคนใช้วิธีนี้อยู่ แต่ใช้บ่อยจนผมจับทางได้แล้ว

ถ้ามีโอกาสเถียงกัน แล้วมันเริ่มทำแบบนี้ ผมนี้ยิ้มเลยว่าตูมาถูกทางแล้ว
0
0
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 1037
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 12:23 pm
[RE: ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?]
สงสัยอยู่สองอย่าง
1.คนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงๆ นี่ต้องไปเรียนจิตวิทยาเบื้องต้นอะไรพวกนี้หรือเปล่า??
2.ผู้ชายที่เรียนจบจิตวิทยาระดับสูงๆ มาจะจีบหญิงเก่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปมั้ย??
0
0
เข้าร่วม: 24 Jan 2008
ตอบ: 6917
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 1:44 pm
ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?
ถ้าจะขอเยหญิง ต้องใช้วิธีไหนครับ...
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 5532
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 2:32 pm
[RE: ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?]
gazeclub พิมพ์ว่า:
5. พูดให้เร็วขึ้นเพื่อให้ข้อโต้แย้งของอีกฝ่ายเห็นด้วยกับเรา

ที่ทำงานผมมีคนใช้วิธีนี้อยู่ แต่ใช้บ่อยจนผมจับทางได้แล้ว

ถ้ามีโอกาสเถียงกัน แล้วมันเริ่มทำแบบนี้ ผมนี้ยิ้มเลยว่าตูมาถูกทางแล้ว  


ผมก็ใช้วิธีนี้อยู่กับลูกค้าที่ชอบพูดแข่งกับผม ลูกค้าประเภทนี้อีโก้สูง จะอธิบายอะไรพี่แกก็ชอบพูดแทรก เหมือนไม่เชื่อข้อมูลผม

เลยอัดข้อมูลเร็วๆเยอะๆ ให้ต้องคิดหน่อย ถึงจะหยุดพูดและยอมฟังผม
0
0
เข้าร่วม: 14 Feb 2014
ตอบ: 1444
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 10, 2017 5:48 pm
[RE: ผู้เชี่ยวชาญเผย 11 ทริคทางจิตวิทยา เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามในสิ่งที่เราขอ!?]
0
0