เป็นเรื่องราวน่าประทับใจในความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งในประเทศอังกฤษ เมื่อแพ๊ดดี้ ลอว์เลอร์แฟนพันธุ์แท้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้มีโอกาสพบนักเตะของทีมรักก่อนสิ้นลมตามคำขอสุดท้าย

แพ๊ดดี้ในวัย 73 ปีได้เติมเต็มความต้องการของตนเองก่อนตาย หลังป่วยหนักจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย โดยเขาได้พบกับมาร์คัส แรชฟอร์ด, เจสซี่ย์ ลินการ์ด, แอชลี่ย์ ยังและทิโมธี่ย์ โฟซู-เม็นซ่า 4 นักเตะจากทีม “ปีศาจแดง” ที่เดินทางมาเยี่ยมถึงขอบเตียงที่บ้านในวิเท่นชอว์ เมืองแมนเชสเตอร์ จากคำขอร้องของหลานสาวที่เขียนข้อความขอร้องลงในสื่อโซเชี่ยล

โดยข้อความของ เคย์ลี่จ์ ผู้เป็นหลานสาวที่เขียนลงในเฟซบุ๊คเมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมานั้นกล่าวว่า ปู่ของเธอเป็นแฟนตัวยงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเขาคงจะมีความสุขล้นหากได้สิ่งที่ปรารถนาเป็นครั้งสุดท้าย

“ขอร้องล่ะใครก็ได้ช่วยแชร์ออกไปด้วยว่า ฉันกำลังพยายามที่จะติดต่อให้นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาเยี่ยมปู่ของฉัน ซึ่งเราถามท่านว่าท่านอยากจะสั่งเสียอะไรเป็นครั้งสุดท้ายและท่านอยากที่จะเจอกับนักเตะทีมรัก ฉันส่งอีเมล์ไปหาสโมสร แต่ยังไม่มีการตอบกลับมา! และไม่มั่นใจว่าท่านจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ฉะนั้นแล้วฉันอยากจะเซอร์ไพรส์ท่านในฐานะที่ท่านเป็นแฟนตัวยงของทีม ซึ่งท่านพยายามที่จะลืมตาดูเกมการแข่งขันเมื่อคืนด้วยความยากลำบาก แต่ท่านก็ไม่สามารถทำได้และพลาดเกมไป! ฉันรู้ว่าท่านผิดหวังแค่ไหนที่พลาดการชมเกม ซึ่งฉันมั่นใจมากว่าท่านจะมีความสุขที่สุด หากว่าฉันสามารถทำให้คำขอเป็นจริงได้ ขอบคุณทุกคน จุ๊บๆ”

ตามรายงานอ้างว่าโรเบิร์ต กิลชอว์ซึ่งเป็นญาติของ ลินการ์ด นั้นไปเห็นโพสต์ดังกล่าวเข้า จึงได้จัดเตรียมการเซอร์ไพร์สทันทีในวันอังคารที่ผ่านมา

โดยทั้ง 4 คนใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงกับทุกคนในครอบครัวลอว์เลอร์ พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของสโมสร ก่อนที่จะถ่ายรูปและแจกลายเซ็นให้

และหลังจากที่นักเตะแมนฯยูไนเต็ดเดินทางกลับไปได้เพียงแค่ 45 นาที แพ๊ดดี้ก็สิ้นใจลงอย่างสงบ

“คุณปู่เป็นแฟนตัวยงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและการมาเยือนของพวกเขาครั้งนี้เปรียบดั่งทุกสิ่งสำหรับท่าน” หลานสาววัย 27 ปีกล่าว

“ฉันถามท่านตอนอยู่ข้างเตียงว่า มีอะไรที่ท่านอยากจะสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งท่านก็บอกว่าอยากจะเจอกับนักเตะของแมนฯยูไนเต็ดสักคนก็ยังดี”

“พวกเราแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าพวกเขาจะมาและช่วยให้ฝันของชายที่กำลังใกล้ตายได้เป็นความจริง ที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลย นักเตะเหล่านี้ไม่ถือตัวเลยแม้แต่นิดเดียว”

“หลังจากนั้นเพียง 45 นาที คุณปู่ก็จากไป เรามั่นใจว่าท่านรอที่จะได้เจอกับพวกเขาก่อนที่จะสิ้นลม”

จากนั้นยูจีน ภรรยาวัย 71 ปีก็เสริมว่า “พวกเขาคือกลุ่มนักเตะหนุ่มที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับการทำเรื่องแบบนี้ให้เกิดขึ้นและมันช่วยเราได้เยอะมากเลยที่รู้ว่าเขาได้จากไปอย่างสงบและมีความสุข”

สำหรับนักเตะในดวงใจของแพ๊ดดี้นั้นก็คือจอร์จ เบสต์และไรอัน กิ๊ส์ สองตำนานของทีมนั่นเอง

หลับให้สบายนะครับคุณปู่

เหนภาพแล้วน้ำตาจะไหล

สวดยอดดดด
R.I.P. ครับลุง

สุดยอดจริงๆ

นี่แหล่ะ ด้านดีๆของฟุตบอล นอกเหนือจากในสนาม
หลับให้สบายครับปู่

R.I.P. ครับปู่

R.I.P ครับ

น้ำตาคลอเลย

Best of Palliative care!!
ลูกหลานคอยดูแลทุ่มเททำสิ่งที่คนไข้ระยะสุดท้ายต้องการ ดีกว่าไม่เคยดูแล แล้วฟาดเงินเอาทุกอย่างเพื่อยื้อชีวิตอย่างทรมาน
R.I.P

R.I.P

สุดยอดดด

Rip ครับ

สู่สุขคตินะครับคุณปู่

หลับให้สบายนะครับปู่ พวกผมจะเชียร์ทีมต่อจากปู่เอง ไม่เปลี่ยนทีมเชียร์แน่นวล

Rip ครับปู๋ได้ตามคำขอก่อนจากไป ขอให้ปู่ไปสู่สุขคติครับ

น้ำตาคลอเลย

เอาแชมให้ได้ we r united

หนุมาน ทหารเอกของพระรามผิดตรงไหนครับทำไมถึงเอาอย่างไม่ได้

นี่ถ้าญาตินักเตะไม่ไปเห็นก็คงจะไม่มีภาพน่าประทับใจแบบนี้ออกมา

อันที่จริงก็พอเข้าใจสโมสรนะว่าคงมีเมลไร้สาระอะไรเข้ามาหาเยอะ แต่อันที่จริงมันสะท้อนใจก็ตรงหลานสาวพิมพ์บอกในเฟสว่าได้แจ้งเรื่องให้สโมสรแมนยูแต่ทางสโมสรไม่มีการตอบสนองใดๆ.........

หลับให้สบายนะครับคุณปู่

R.I.P.

สุดยอดครับ
RIP ครับ

อายุ 73 แต่ดูเหมือนอายุ 93 เลย

นี่คือหนึ่งสิ่งที่สวยงามในวงการฟุตบอล...ทำให้เข้าใจว่าหลายๆทีมไม่ได้ถือว่าเป็นบริษัท

ไม่ได้ถือว่าเป็นเเค่สโมสร เเต่ให้ความสำคัญกับเเฟนบอลสเมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

อ่านละเศร้าเเต่มีความสุขครับ

แสดงว่าท่าน 30 40 ปีแล้วใช่มะ เห็นเรียกลุง 75 นี้บ้านผมเรียกคุณ ปู่ คุณตาละ