02 February 2016 08:47 AM by น้าลูกอม
เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era
แมนเชสเตอร์ ซิตี้เคยหยุดโลกทั้งใบมาแล้วในวันเด๊ดไลน์ของตลาดซื้อขายนักเตะ ย้อนกลับไปในวันที่ 1 กันยายน 2008 พวกเขาประกาศเรื่องการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรโดยกลุ่มทุนอาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ปและหลังจากนั้นก็ซื้อตัวโรบินโญ่จากเรอัล มาดริดที่ราคา 33 ล้านปอนด์

จากวันพิเศษวันนั้นผ่านมา 7 ปีครึ่ง ซิตี้กำลังเหยียบย่ำเข้าสู่วัฏจักรความวนเวียนของการเติบโตและความรุ่งโรจน์ อย่างไรก็ตามถือเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วที่เส้นทางนำพามาอย่างไม่ย่อท้อสู่ป้ายหยุดสุดท้ายสำหรับพัฒนาการของพวกเขา

เป๊บ กวาร์ดิโอล่า โค้ชผู้ซึ่งแพ้ไปเพียง 19 จาก 239 ในการแข่งขันเกมลีกกับทั้งบาร์เซโลน่าและบาเยิร์น มิวนิค ชื่อของเขาพัวพันกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้มายาวนานกว่าสังกัดปัจจุบันที่ประเทศเยอรมนีเสียด้วยซ้ำ

อย่างที่ซิตี้ประกาศชัดเจนในแถลงการณ์ของพวกเขาเมื่อวันจันทร์ การพูดคุยกับกวาร์ดิโอล่าเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2012 ถือเป็นเวลาหนึ่งปีก่อนที่เขาจะตอบรับงานคุมทีมบาเยิร์น มิวนิค

ณ จุดใดจุดหนึ่ง ซีอีโออย่างเฟร์ราน โซเรียโน่และซิกี้ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ซึ่งเคยร่วมงานกับกวาร์ดิโอล่าที่บาร์เซโลน่าทราบดีว่าเพื่อนของเขาคนนี้จะ "เซย์เยส" ในที่สุด

ซิตี้เป็นสโมสรที่เพียบพร้อมสำหรับการมาของอดีตผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่า พวกเขารู้มาเสมอว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น การประกาศข่าวออกไปทำให้วันจันทร์กลายเป็นหลักเขตสำคัญสำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก

ในวงการกีฬานั้นเรื่องสำคัญคือช่วงจังหวะเวลาและฟุตบอลก็ไม่แตกต่างออกไป ลองให้โค้ชที่ดีที่สุดไปอยู่ในสโมสรที่ไม่เหมาะ หรือจับไปคุมทีมที่ใช่ในช่วงเวลาที่พลาดความเสี่ยงก็จะเพิ่มทวีคูณยิ่งขึ้น

สำหรับการแต่งตั้งกวาร์ดิโอล่าขึ้นมาในตอนนี้ ไม่ว่าจะด้วยโชคหรือการพิจารณาที่ถี่ถ้วน ซิตี้มีช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม มันไม่ได้รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเดิมพันอะไรบางอย่างแม้แต่นิดเดียว

'เรือใบสีฟ้า' ในยุคปัจจุบันเป็นอิสระหลุดพ้นจากเงามืดของกฎแฟร์เพลย์ทางด้านการเงิน แถมยังแข็งแกร่งขึ้นด้วยการลงทุนสดๆร้อนๆจากประเทศจีนและในที่สุดพวกเขาก็สามารถสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นทีมที่จะต้องผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นอย่างน้อยได้แล้วด้วย

ฝ่ายบริหารของสโมสรมีคนที่กวาร์ดิโอล่ารู้จักเป็นอย่างดีคอยดูแล, ขุมกำลังของทีมก็มีความพร้อมส่วนเรื่องทรัพยากรก็ยิ่งแข็งแกร่งเข้าไปอีก ด้านระบบเยาวชนถูกจัดตั้งในแนวทางที่จะสามารถแสดงผลงานให้เห็นเร็วๆนี้ หากกล่าวถึงแง่มุมด้านฟุตบอล ยามที่กวาร์ดิโอล่าเดินเข้าสู่สโมสรช่วงปลายเดือนมิถุนายนนั้นเปรียบเสมือนกับมีพรมแดงคอยรอต้อนรับเขาอยู่

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของแมนเชสเตอร์ ซิตี้เองที่ทลายแนวกั้นของเขื่อนลง เขาแปรเปลี่ยนข่าวลือที่เกิดขึ้นให้กลายเป็นความจริง

เป็นการตัดสินใจของเปเญกรินี่ในการจบท้ายเพรส คอนเฟเรนซ์ก่อนเกมการแข่งขันด้วยข่าวการเตรียมอำลาตำแหน่งของเขา ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็ยืนยันเรื่องบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนเขา

เปเญกรินี่ถือเป็นตัวเลือกที่สองของสโมสรตอนที่ถูกจ้างมาทำงานในปี 2013 โอกาสคือว่าเขาทราบดีอยู่แล้ว ณ ตั้งแต่เวลานั้นจนมาถึงปัจจุบันนี้

นายใหญ่ชาวชิลีรับงานดูแลทีมเฝ้ารออดีตคู่แข่งของเขาเองในลา ลีกาและเราก็ต้องยกเครดิตให้กับอดีตผู้จัดการทีมเรอัล มาดริดที่สามารถส่งมอบถ้วยแชมป์ในระหว่างเส้นทางที่ผ่านมาด้วย

ภายใต้การนำของเปเญกรินี่ เช่นเดียวกับผู้จัดการทีมคนก่อนอย่างโรแบร์โต้ มันชินี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกสองสมัย, ลีก คัพหนึ่งสมัยและเอฟเอ คัพอีกหนึ่งสมัยในช่วงเวลา 4 ปีครึ่ง ปัจจุบันในฤดูกาลนี้พวกเขายังมีลุ้นอยู่ทั้ง 4 ถ้วย

สิ่งดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของสโมสรที่ไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลยตั้งแต่ปี 1976 จนถึง 2011 อย่างไรก็ตาม 'เรือใบสีฟ้า' ไม่ได้รุดก้าวไปข้างหน้าตามที่พวกเขาพอใจภายใต้การนำของโค้ชแต่ละคนที่ผ่านมา...มันชินี่คว้าแชมป์ลีกในปี 2012 แต่จากนั้นต้องเห็นทีมของเขาสะดุดลงจากระเบียบวินัยที่ย่ำแย่ เปเญกรินี่เองก็ได้ประจักษ์กับเรื่องดังกล่าวถึงแม้ว่าจะด้วยเหตุผลที่แตกต่างออกไป

ซิตี้ชุดปัจจุบันเดินละเมอหลับมาพักหนึ่งแล้ว พวกเขาอาจจะสามารถคว้าแชมป์ในพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลที่ย่ำแย่ปีนี้แต่หากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะดูเหมือนว่าไม่มีทีมใดที่ต้องการสัมผัสถ้วยแชมป์กันสักเท่าไหร่

คะแนนรวม 44 คะแนน ณ เวลานี้ (หลังแข่งไป 23 เกม)เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดจากหลายๆฤดูกาลที่ผ่านมาของพวกเขา

หน้าที่ของกวาร์ดิโอล่าในช่วงซัมเมอร์และฤดูกาลหน้านั้นชัดเจนมาก เขาต้องทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้กลับมามีชื่อเสียงเรื่องความสมบูรณ์แบบรอบด้านอีกครั้ง หากเขาทำได้ ทีมอื่นๆในพรีเมียร์ ลีกอาจจะต้องลงแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงอันดับ 2 ขุมกำลังชุดนี้ไม่ได้ดีกับชุดที่กวาร์ดิโอล่าได้รับตอนเข้าคุมบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2008 - บัลเดส, ปูโยล, อบิดาล, ชาบี, ตูเร่, อิเนียสต้า, เมสซี่, เอโต้ และก็ไม่ได้ดีเท่ากับทีมบาเยิร์นตอนที่เขารับหน้าที่ซึ่งมีนักเตะอย่างนอยเออร์, ลาห์ม, ริเบรี่, ร็อบเบน, มุลเลอร์และชไวน์สไตเกอร์

เปเร่ น้องชายของเป๊บได้เข้าชมเกมการแข่งขันของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนตัวว่าที่โค้ชคนใหม่เองก็เข้าไปนั่งในสแตนด์ที่คัมป์ นูตอนที่ลูกทีมของเปเญกรินี่ผิดพลาดมหันต์ยามแข่งขันกับทีมที่ดีที่สุดของยุโรป

ฝ่ายจัดหานักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังคงต้องทำหน้าที่กันให้ดีกว่านี้ กวาร์ดิโอล่าไม่จำเป็นต้องแจ้งให้โซเรียโน่และเบกิริสไตน์รับทราบ ในทางเดียวกันเป๊บเองก็ต้องแสดงฝีมือของเขาและจุดนี้แหละที่ทำให้เขาได้รับเงินค่าเหนื่อย 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

โค้ชผู้ยิ่งใหญ่ทำให้นักเตะที่ดีกลายเป็นนักเตะที่ดีมากๆส่วนนักเตะที่ดีมากๆอยู่แล้วก็กลายเป็นพวกที่แทบจะไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ - ยาย่า ตูเร่อาจไม่มีความสุขกับฤดูกาลสุดท้ายของเขาภายใต้การร่วมงานกับกวาร์ดิโอล่าก่อนย้ายออกจากบาร์เซโลน่ามาค้าแข้งให้แมนฯ ซิตี้ในปี 2010 แต่สองปีก่อนหน้านั้นเขายอดเยี่ยมไร้ที่ติ

ยาย่าเคยถูกตั้งคำถามว่าเขาสามารถปรับตัวลงไปเล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลางที่ไม่ถนัดในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกรอบชิงชนะเลิศปี 2009 กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่กรุงโรมได้อย่างไร โดยแข้งชาวไอวอรี่ โคสต์ก็ได้ตอบว่า "มันก็ไม่ยากหรอกครับ เมื่อเป๊บบอกคุณว่าคุณสามารถทำอะไรบางอย่างได้ คุณก็เชื่อไปแล้วว่ามันต้องเป็นแบบนั้น นั่นแหละผมเลยทำได้"

นี่คือความอัจฉริยะของกวาร์ดิโอล่า เขาจะถูกคาดหวังให้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงนักเตะ หากเป๊บสามารถทำแบบนั้น บทตอนครั้งที่สองของเขากับแมนฯ ซิตี้คงจะก้าวหน้าขึ้นมาก

ย้อนกลับไปในปี 2005 กวาร์ดิโอล่าที่กำลังมองหางานระดับท็อปเคยทดลองงานกับแมนฯ ซิตี้ - สจ๊วรต เพียรซซึ่งเป็นผู้จัดการทีมเรือใบสีฟ้าในเวลานั้นเลือกที่จะไม่ยื่นข้อเสนอระยะยาวให้กับกวาร์ดิโอล่าโดยสิ่งที่สะท้อนออกมาอาจแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจของเขา ณ เวลานั้นก็เหมาะสมดี

ผ่านมาหนึ่งทศวรรษกว่าๆ กวาร์ดิโอล่ากลับมาด้วยแนวทางของตัวเอง ดูเหมือนว่าเป็นอีกครั้งที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง...

แปลจากบทความของ Ian Ladyman - Daily Mail
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3321
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 8:59 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
ประเด็นหลักที่เขาเข้ามาคุม แมนซิตี้

อาจจะอยากต่อสู้กับยอดโค้ช ผู้ไม่เคยลุกจากเก้าอี้ก็ได้นะ
"ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย ยังไม่เคยชมชิดพิสมัย
ถึงร้อยรสบุปผาสุมาลัย จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย"
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 10994
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 9:08 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
อยากจะบอกว่า มันน่ะะ ถ้าเจ๊ซื้อระดับโลกมาไฟว้หน่อย
0
0


เข้าร่วม: 13 Jul 2008
ตอบ: 3068
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 9:15 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
ไปอยู่ทีมไหนก็ดีขึ้นจริงๆ แต่ผมอยากให้เค้าลองมาทีมระดับกลางๆมากกว่า อยากเห็นฝีมือแบบเริ่มสร้างทีมเลย มาแบบทีมกลางอย่าง หง สเปอร์ แล้วพาทีมคว้าแชมป์มันดูเท่ห์และได้โชฝีมือจริงๆ แต่ก็เข้าใจนะครับว่าเค้าเป็นระดับท็อปไปแล้วทั้งค่าเหนื่อย ทั้งชื่อเสียง แต่พอเค้าคุมบาซ่า บาเยิน แมนซิ มันเป็นทีมระดับที่ต้องได้แชมป์แน่นอนและมีโครงสร้างขนาดใหญ่ ก็เลยเสียดาย อยากให้พาทีมกลางมากลายเป็นทีมบิ้กอีกสักทีม มันจะสนุกมาก

ปล. อยากเหนโค้ช แบบป๋าอีกสักครั้งที่พาจากทีมที่ไม่มีอะไรมาครองความยิ่งใหญ่ เพราะผมคิดว่าเป็ปอาจทำได้
เข้าร่วม: 03 Feb 2007
ตอบ: 1279
ที่อยู่: กทม.
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 9:55 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
ในขณะที่ทีมกุยังต้องทนกับไอกาวต่อไป
0
0
เข้าร่วม: 07 May 2009
ตอบ: 3022
ที่อยู่: Bangkok,Thailand
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 10:01 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
ภาพรวมต่อทีมคือซิตี้ดีขึ้นแน่นอน แต่ระยะยาวต้องวัดกันหลายองค์ประกอบ เพราะบอลพรีเมียร์เป้นบอลที่มีการปรับตัวกันเร็วมาก

ปีแรกอาจไม่คุ้น แต่ขอให้ได้ลองปีที่ 2 ทีมแต่ละทีมจะมีการพัฒนา แก้เกมส์ วางแผนกันทำให้ทีมหัวตารางหรือทีมแชมป์เล่นยากกว่าเดิม

ต่อมาโดยภาพรวมของลีก มีแต่ได้กับได้ครับ ลิขสิทธิ์จะสูงขึ้นเรื่อยๆตลอดเวลา 3 ปีเป็นอย่างน้อยแน่นอน และจะเตะกันสนุกกว่าเดิม เพราะระบบที่เปปเอาเข้ามาจะบังคับให้ทีมในลีกปรับตัวตาม

ด้วยมูลค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้น และการแบ่งชิ้นเค้กกันอย่างแฟร์ๆ ลีกอังกฤษจะพัฒนาไปอีกไกลเลยครับ

อยากให้ถึงซัมเมอร์เร็วๆ อยากดูการซื้อตัวของเปปว่าจะหิ้วใครติดมือมาบ้าง และอยากเห็นการคุมทีมนัดแรกเร็วๆ

ปล.แต่อย่าไปพูดถึงบอลทีมชาตินะ อันนั้นไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไร

1
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 721
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 10:04 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
แพ้ไปเพียง 19 จาก 239 นัด สถิติโคตรจะดีเลย
0
0
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 314
ที่อยู่: Chiang Mai
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 10:56 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
รอคอย จะมีอะไรตื่นเต้น ตามมาอีกมั้ย
0
0
เข้าร่วม: 11 Jan 2014
ตอบ: 3659
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 11:23 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
จุดเด่นที่ทำให้เป๊บเหนือว่าโค้ชคนอื่น(ในสายตาผม)คือเป๊บไม่ได้มีแค่ tactic แต่มี technique ด้วย

ผู้จัดการทีมคนอื่นวางแผนให้ชนะ อย่างมากก็วางแผนให้เข้ากับนักเตะทำให้นักเตะเล่นดี แต่เป๊บฝึกนักเตะได้ พัฒนาฝีมือนักเตะได้ด้วย นักเตะที่เล่นให้เป๊บไม่ได้แค่เล่นดี แต่แทบทุกคนจะมีลูกเล่นเหนือๆ เทคนิคที่ดูดีขึ้นผิดหูผิดตาแทบทุกคน มันไม่ได้เกิดจากแท็คติกแน่ๆ มีผู้จัดการทีมไม่กี่คนบนโลกหรอกที่วางแผนได้ โค้ชชิ่งเองได้แบบนี้
เข้าร่วม: 10 Apr 2009
ตอบ: 1437
ที่อยู่: AREA 51
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 11:28 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
รอดูผลงานนะครับ...แต่บอกเลยว่าลีกอังกฤษไม่ได้มีทีมเก่งๆแค่ 2 หรือ 3 ทีม เหมือนลีกอื่นนะครับ..
0
0
เข้าร่วม: 15 Dec 2009
ตอบ: 1352
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 12:37 pm
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
"ขุมกำลังชุดนี้ไม่ได้ดีกับชุดที่กวาร์ดิโอล่าได้รับตอนเข้าคุมบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2008 - บัลเดส, ปูโยล, อบิดาล, ชาบี, ตูเร่, อิเนียสต้า, เมสซี่, เอโต้ และก็ไม่ได้ดีเท่ากับทีมบาเยิร์นตอนที่เขารับหน้าที่ซึ่งมีนักเตะอย่างนอยเออร์, ลาห์ม, ริเบรี่, ร็อบเบน, มุลเลอร์และชไวน์สไตเกอร์"

ตามนี้ครับ ต้องบอกว่าแมนซิมีผู้เล่นที่ดีมากอยู่พอสมควร แต่เทียบกันตัวๆหลายตำแหน่งยังเป็นรองสองทีมข้างต้นนิดๆ เป๊ปจะได้แสดงฝีมือมากกว่าทุกครั้ง ส่วนเรื่องคู่แข่งในลีกผมไม่ขอกล่าวให้เป็นประเด็น
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5473
ที่อยู่: New World
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 5:59 pm
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
อยากเห็นเรือใบเป๊บว่าจะเล่นกันยังไง น่าตื่นเต้นดีจริงๆ ปีหน้า ถ้าไอ้ลุงอ้วนลุกออกไปพ้นๆ นี่จะแหล่มมาก
0
0

เข้าร่วม: 31 Dec 2013
ตอบ: 536
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 02, 2016 6:12 pm
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
ผมว่า เป๊ป คงจะสนุกน่าดูที่มา ลีคอังกฤษ ทีมใหญ่ค่อนข้างเยอะ สิงห์ หงส์ ผี ปืน สเปอร์ ไหนจะม้ามืดเยอะแยะเต็มไปหมด มันแน่นอน
0
0


เข้าร่วม: 14 Aug 2008
ตอบ: 10518
ที่อยู่: มหานคร
โพสเมื่อ: Wed Feb 03, 2016 12:04 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
ดูแนวทางการเล่นและฝีเท้านักเตะก็เหมาะสมกับการทำทีมของเป๊ปดีนะ ต่อไปนี้ไม่รู้แมนเชสเตอร์จะเป็นสีฟ้าไปถึงเมื่อไหร่
แต่ยังไงก็ตามเหอะ แมนเชสเตอร์ดาร์บี้เมื่อไหร่ ขอดูทีมสู้สุดใจหน่อยแล้วกัน อย่างน้อยก็ให้สมศักดิ์ศรีขั้วอำนาจเก่าหน่อยก็ยังดี
0
0
เข้าร่วม: 01 Nov 2007
ตอบ: 199
ที่อยู่: โรงละครของ จูซเซ็ปเป้ เมอัสซ่า มิลานเชสเตอร์
โพสเมื่อ: Wed Feb 03, 2016 8:07 pm
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
- ก็แค่ มนุษย์ ที่เกิดมาบนความโชคดีที่สุด คนนึงก็เท่านั้น
0
0
เกิดมากับ แดงดำ ชุ่มฉ่ำกับ ผีแดง
เข้าร่วม: 13 Oct 2010
ตอบ: 605
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 04, 2016 8:53 am
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
น้ำตาจิไหล แล้วใครเหมาะแทนเวนเกอร์
0
0
เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 859
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 04, 2016 4:03 pm
[RE: เป๊บ กวาร์ดิโอล่า : Beginning of a New Era]
santaJL พิมพ์ว่า:
"ขุมกำลังชุดนี้ไม่ได้ดีกับชุดที่กวาร์ดิโอล่าได้รับตอนเข้าคุมบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2008 - บัลเดส, ปูโยล, อบิดาล, ชาบี, ตูเร่, อิเนียสต้า, เมสซี่, เอโต้ และก็ไม่ได้ดีเท่ากับทีมบาเยิร์นตอนที่เขารับหน้าที่ซึ่งมีนักเตะอย่างนอยเออร์, ลาห์ม, ริเบรี่, ร็อบเบน, มุลเลอร์และชไวน์สไตเกอร์"

ตามนี้ครับ ต้องบอกว่าแมนซิมีผู้เล่นที่ดีมากอยู่พอสมควร แต่เทียบกันตัวๆหลายตำแหน่งยังเป็นรองสองทีมข้างต้นนิดๆ เป๊ปจะได้แสดงฝีมือมากกว่าทุกครั้ง ส่วนเรื่องคู่แข่งในลีกผมไม่ขอกล่าวให้เป็นประเด็น  


ขุมกำลังตอนเป็ปพึ่งเข้ามาคุมที่บาซ่า

ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นนะครับ

แสดงให้เห็นว่าคนเขียนน่าจะรู้จักเป็ปน้อยมาก

ก่อนเริ่มยุคของเป็ปนั้น บาซ่ามีโรนัลดิญโญ่ และเดโก้

ที่เป็นตัวหลักอยู่นะครับ ซึ่งเป็ปก็เข้ามาแล้วก็จัดการกับ2คนนี้ซะ

ก่อนหน้ายุคเป็ปเมสซี่เป็นแค่ดาวรุ่งคนนึงที่ยังอยู่ให้ร่มเงาของดิญโญ่

ชาบี้แม้พึ่งประสบความสำเร็จคว้าแชมป์กับสเปน

แต่เผชิญกับสถานะที่ไม่แน่ไม่นอนที่บาเซโลน่า

ถ้าใครจำได้แมนยูเกือบได้ชาบี้มาก็ช่วงนี้

ก่อนที่เป็ปจะมาเบรคชาบี้ไว้

กองหลังก็เป็นมาเกรวซอยู่เลยนะครับ

ก่อนที่จะมีอาการบาดเจ็บ ติโต้เลยบอกเป็ปให้นำปิเก้กลับจากแมนยู

บาซ่ายุคเป็ปแถมออกสตาร์ทได้ห่วยมาก แม้จะครองเกมได้หมด

จนเกิดกระแสกดดันที่ตึงเครียดเกิดขึ้น

ถึงขนาดที่เป็ปเครียดมาก ถึงขนาดต้องไปปรึกษาโยฮันครัฟ

อินเนสต้าก่อนห้านี้ก็ไม่ได้เป็นเพลเมคเกอร์สมองเพชรเช่นทุกวันนี้นะครับ

ออ ส่วนในรายของบัลเดสเป็ปแกบอกว่าเอ็งต้องเล่นบอลกับเท้านะ

เซนเตอร์เบคเองก็ต้องฉีกไปรับบอลด้านข้าง

ปูโยลยังบอกว่างงๆ ถึงขนาดเข้าไปคุยกับเป็ปเลย

ปล.รอดูเป็ปกับซิลบาที่แมนซิตี้ ซิลบาเป็นนักเตะที่เป็นเป้าหมาย

มาตั้งแต่สมัยอยู่บาเลนเซีย แต่บาเลนเซียไม่ยอมขาย

ทางเป็ปจึงต้องเบี่ยงเป้าหมายมาที่เชส

ส่วนในรายของยาย่าไม่ได้อยู่ต่อแน่ๆครับ

ความสัมพันของสองคนนี้ท่าจะแย่มากทีเดียว

1
0
"Congratulations on signing the best coach in the world."LVG

จงเชื่อในปรัชญา