เฟเรนซ์ ปุสกาส "ยอดขุนศึกฮังกาเรียน"
หนึ่งในนักเตะที่เยี่ยมยอดที่สุดของโลก แต่ เฟเรนซ์ ปุสกาส ไม่เคยได้เติมเต็มความใฝ่ฝันและเป่าประกาศความสามารถของตัวเองให้ลุล่วงไปได้ด้วยดีเลยใน ทัวร์นาเมนต์ เวิล์ด คัพ แม้ว่าจะได้ขึ้นรับเหรียญเงินเมื่อปี 1954
ปุสกาส เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งเมื่อปี 1943 ที่คิสเปสต์ ชาญกรุ่ง บูดาเปสต์ เมื่อเข้าวัยหนุ่มอายุได้ 18 ปี ก็ได้ลงเล่นให้ทีมชาติฮังการีเป็นนัดแรกปี 1945 เจอกับ ออสเตรีย เป็นเป็นการได้รับใช้ชาติก่อนสงครามโลกเกมแรกของ ปุสกาส
ต่อมา ปุสกาส กลายเป็นตัวหลักให้ทีมชาติฮังการี และโชว์ฟอร์มได้เตะตามากๆกับเกมไล่ยำอังกฤษ คาเวมบลีย์ 6-3 ในปี 1953 ส่งผลให้ฮังการี เป็นทีมแรกนอกสหราชอาณาจักร์ ที่บุกไปชนะอังกฤษถึงบ้าน
ปุสกาส เกิดเมื่อปี 1927 มีความสนใจในเกมลูกหนังตั้งแต่ยังเยาว์เหมือนนักเตะระดับตำนานคนอื่นๆ แต่ด้วยรูปร่างที่ อ้วนๆล่ำๆ แถมเตี้ยอกตันอีกต่างหาก แทบไม่มีใครคิดว่าจะก้าวมาถึงได้ขนาดนี้ แถมเล่นบอลถนัดเท้าข้างเดียวด้วย
แต่ ปุสกาส เข้าตำราหุ่นไม่ให้แต่ใจรัก มีความขยันเป็นเลิศ สมัยหนุ่มๆกระเตาะเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพ และก็เล่นฟุตบอลให้กับทีมกองทัพ
ในวงการฟุตบอลฮังกาเรียน ปุสกาส ประสบความสำเร็จมากกับ คิสเปสต์ ฮอนเว็ด คว้าแชมป์ลีก 4 สมัย ก่อนได้ย้ายมาสู่ยอดทีมแห่งยุโรปอย่าง เรอัล มาดริด
ที่นครหลวงแห่งสเปนชีวิตประสบความสำเร็จมากทั้งในสนามและนอกสนาม ยิ่งได้คู่หูดีอย่างนักเตะที่ยิ่งใหญ่ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน ในแดนหน้าดวยแล้วสร้างความหวั่นเกรงและสั่นประสาทคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
ใน ลา ลีกา สเปน ปุสกาส ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของลีกถึง 4 สมัย ช่วยทีมคว้าแชมป์ 6 สมัย รวมถึงแชมป์ ยูโรเปียน คัพ อีก 3 สมัย ในปี 1960 เกมยูโรเปียน คัพ ปุสกาส ยิงคนเดียว 4 ประตูมในนัดชิงชนะเลิศ พามาดริด ชนะ ไอทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต 7-3
ฮังการี ที่มีปุสกาส เป็นตัวหลัก เคยบันทึกสถิติไม่แพ้ใครเลยนานถึง 4 ปีเต็ม ก่อนเข้าแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1954 ที่สวิตเซอร์แลนด์
และก็ดูเหมือนว่า ฮังการี จะยังคงเส้นทางสดใสในการรักษาสถิติหลังไล่ถลุงเกาหลีใต้ไป 90 ตามด้วยทีมแกร่งอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน 8-3
เกมในรอบ ควอเตอร์ ไฟนัล และ เซมิ ไฟนัล ปุสกาสไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ แต่เพื่อนร่วมทีมก็ทำหน้าที่กันได้อย่างดีเยี่ยม เอาชนะเต็งอย่าง บราซิล ไป 4-2 ก่อนจะไปชนะแชมป์เก่า อุรุกวัย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ฮังการี ได้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเจอกับ เยอรมัน ตะวันตก ซึ่งปุสกาส ลั่นวาจาไว้ว่าเป็นตายยังไงก็ขอลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ แม้สภาพร่างกายจะไม่ฟิตเต็มร้อยก็ตามที
และก็เป็นไปตามนั้น ปุสกาส ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงสนามด้วย หลังจากเกมผ่านไปได้เพียง 8 นาที ฮังการี ขึ้นนำไปแล้ว 2-0 จากฝีเท้า ปุสกาส 1 ประตู อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ตอนจบของเกม เยอรมัน แสดงศักยภาพความแข็งแกร่ง พลิกสถานการณ์กลับมา ชนะไป 3-2
นับเป็นผลการแข่งขันที่ช็อคความรู้สึกฮังการี ไม่น้อยเป็นการยุติสถิติไม่แพ้ 4 ปีที่เจ็บปวดมากที่สุดสำหรับ ปุสกาส และ ฮังการี
กับทีมชาติฮังการี ปุสกาส ลงเล่นไป 84 เกม ยิง 83 ประตู เป็นสถิติที่ไม่มีใครทำได้ในระดับทีมชาติ แม้แต่เปเล่ ก็ตาม
ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด ปุสกาสคุมทีมมาแล้วถึง 14 ทีม โดยทีมแรกที่เขาคุมคือ เฮอร์คิวลิส ลีกเล็กๆในลีกสเปน และก็มีอีกหลายทีมที่เขาเคยคุม เช่น พาราติไนกอส, โคโล-โคโล่, เออีเค เอเธนท์, และงานสุดท้ายที่เขาได้คุมคือ ทีมชาติฮังการี เมื่อปี 1993
ที่มา : sport-idol