ท่านอ่านหัวมู้ผมยังครับ ...
เด็กท่าน อ่านหนังสือปีละกี่บรรทัดครับ ถามจิง...

แม่งเอ้ย!! อยากขรรม

บางครั้งเด็ก ๆมาถามการบ้าน แล้วเขาจะได้คำตอบไหม ท่านรู้จักคำว่าสังคมแห่งการแบ่งปันไหมครับ

..มาอีกล่ะกระทู้แบบนี้ วนลูปเป็นเดจาวู

ผมเล่นบอร์ดนี้มาก็นานอยู่นะครับ ถึงจะสมัครช้าก็เหอะ

ท่านคิดว่าปัญหามันมาจากมดอย่างเดียวหรอครับ มันก็มดครึ่งนึงยูสครึ่งนึงน่ะแหละ
ไอ้กฎหยุมหยิมที่ท่านว่ามา มันก็เกิดมาจากกรณีศึกษาต่างๆจากยูสนั่นแหละครับ
ปัญหาต่างๆมันแก้ได้ง่ายๆซะที่ไหนครับ เพราะไม่มีทางที่ทุกคนจะพอใจในสิ่งเดียวกัน
แล้วพบกันครึ่งทางไม่ได้รึไงครับ เรียกร้องกันอยู่ได้ จากปัญหาที่พยายามล้ำเส้นกันเองน่ะแหละ

เมื่อก่อนเค้าก็ร่างกฎมาคร่าวๆ พอล้ำเส้นมากๆเข้ากฎมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเอสเอสมันจะพัง มันเป็นเพราะเพราะมดส่วนเดียวหรอครับ ไม่ใช่หรอกมั้ง

บอร์ดสนุก= มีดราม่าเยอะๆ

ผมว่าคิดแบบนี้มันก็ไม่ค่อยถูกนะผมว่า

1.ดูเหมือนคุณก็ยังไม่เข้าใจประเด็นอยู่ดีนะครับ ผมจะบอกอีกครั้งก็ได้ ว่ามันไม่เกี่ยวกับดราม่า ถามว่าดราม่ามันมีส่วนในเรื่องความสนุกไหม ตอบว่ามี แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และเป็นส่วนน้อย การที่SSไม่มีดราม่า ไม่ได้ทำให้ผมเบื่อ

แต่การที่SSเป็นเว็บบอร์ดสังคมออนไลน์ แต่ขาดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมบอร์ดต่างหาก ที่มันทำให้น่าเบื่อ(ผมพูดเฉพาะวาไรตี้นะครับ)

2.คุณอาจไม่เคยเล่นวาไรตี้ในช่วงสักปี-สองปีที่แล้ว มันสนุกกว่านี้จริงๆครับ มันสมกับเป็นสังคมออนไลน์ มีคนตอบกัน คุยกัน สนุกสนานเฮฮากัน ซึ่งมันหาได้ยากมากจากวาไรตี้ในทุกวันนี้

3.ผมเปรียบบอร์ดเป็นร้านกาแฟนะครับ ทุกคนติดใจในรสชาดของกาแฟนี้ แต่ที่คนส่วนหนึ่ง(อาจจะเป็นส่วนใหญ่)ติดใจมากกว่าคือบรรยากาศในร้าน ที่มีผู้คนมาเฮฮา คุยกัน สังสรรค์กัน มันจึงเป็นสังคมครับ

แต่อยู่มาวันนึงร้านปรับปรุงใหม่ รสชาดของกาแฟเปลี่ยนไปบ้าง แต่ผู้คนยังคงรู้สึกผูกพันธ์กับร้านกาแฟนั้นอยู่ ยังเข้ามากินทุกวัน แต่ไม่มีการคุยกัน เฮฮาสนุกนานกันแล้ว ต่างคนต่างมากิน กินเสร็จไป และเมื่อมันเป็นเช่นนี้ พวกที่ชอบในบรรยากาศเป็นหลักก็มากินน้อยลงและสุดท้ายก็จะเปลี่ยนไปร้านอื่นครับ

ใช่ครับ คนที่จะเข้ามากินกาแฟอย่างเดียว มันไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่คนที่เขาจะเข้ามาเสพย์บรรยากาศครึกครื้นนั้นละครับ จะทำอย่างไร ?

ถามว่าระหว่างร้านในตอนแรกที่ได้ทั้งบรรยากาศได้ทั้งรสชาดคนส่วนใหญ่ชอบ กับร้านหลังปรับปรุงที่รสชาดเปลี่ยนไป มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่บรรยากาศกลับหายไปเลย อย่างไหนมันดีกว่ากันครับ ?

ผมเชื่ออยู่นะ ..ถ้าไม่อคติกัน
เพื่อนๆทุกคน..ไม่เอะอะมา มาม่า ไร้สาระกันหรอกครับ ...
และที่มีกฎหยุมหยิม..เนี้ย ..ท่านคิดกันเองทั้งนั้น

ความจิงท่าน จขบ.ต้องการแนวทางไหน ผมเข้าใจครับด้วยปัจจัยอะไรที่โตขึ้นมาก..+สปอร์เซอร์ต่างๆ
แต่ท่านอย่าลืมว่า พวกยูสเก่าๆและคนติดตามบอร์ดนี้ ก็มีอดีตที่ดีๆกะบอร์ดนี้มามาก ..
มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยผมเข้าใจดีครับ ..
แต่บอร์ด(วาไรตี้)SS ผมเชื่อว่ามันไม่ไร้สาระขนาดนั้น เฉยๆครับ ..
หรือผมเข้าใจผิดไปเอง

เดี๋ยวนี้ผมก็เฉยๆนะครับ 2-3 ปี ก่อน ผมติดตามบอร์ดวาไรตี้มากๆเลย แต่เดี๋ยวนี้ ติดตามและคอมเม้นข่าว อย่างเดียว

ผมตอบน้อยลง เพราะไอ้เรื้อนนี้แหละ

เค้าบ่นๆกันเนี่ย ไม่ได้โหยหา ดราม่ากันขนาดนั้นหรอก อย่าสำคัญตัวmod ไปหน่อยเลย

เค้าบอกให้อดทน ..

และแล้วกระทู้นี้ก็จะเฟดหายไปเงียบ ๆ

ผมอ่านแล้วถึงตอบครับ สาระสำคัญมันก็คือเบื่อ ไม่ชอบความสงบ ต้องการให้มีดราม่า โดยหาประเด็นอื่นๆ เข้ามาสมทบเพื่อเรียกร้องให้ตัวเองดูมีความสมเหตุสมผล มันก็แค่นั้นแหละครับ วันก่อน คุณก็ต้องกระทู้เกี่ยวกับเรื่องเพศแล้วผมให้ใบเหลืองไปเพราะกระทู้มันไม่เหมาะสม บางทีเรื่องที่มันน่าสนใจไม่ใช่เรื่องที่ต้องทะเลาะกัน เรื่องเพศ เรื่องอะไรที่มันดูเสื่อมและเรียกแขกได้เยอะ เพราะบางคนเค้าเอาเรื่องที่ดีๆมาแชร์กันคนก็สนใจออกจะเยอะไป

การบ้านที่ท่านว่า ...ถามจิงผิดกฎบอร์ดไหมครับ
ผมไม่ได้ต้องการอะไรจิงๆ ท่านอ่าน มุ้ผมเคลียรึเปล่า +มู้ลายแทง
มู้วาไรตี้ ไม่ได้แคบ ผมคิดอย่างนั้น ..

คอมเม้นนี้ของลิงหล่อมากเลยครับ

เอาไป 5 กระโปก

อาจจะเพราะหลายๆคนโตขึ้น เริ่มเอาเวลาไปทำมาหากิน

แต่แผล่บๆ เรื้อนๆ มีผลทำให้ไม่อยากตอบ ไม่ได้กลัวอะไร แต่อยู่เฉยๆดีกว่า