Review ภาพยนตร์เรื่อง "The Wolf Of Wall Street"
คะแนน 4.5/5



The Wolf Of Wall Street คือภาพยนตร์แนวดราม่าอิงชีวประวัติของ Jordan Belfort ผู้ที่ถือได้ว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จคนนึงในแวดวงการเล่นหุ้นในสหรัฐอเมริกา ทั้งยังผ่านประสบการณ์และอุปสรรคที่น่าตื่นเต้นทั้งดีและไม่ดีในชีวิตมากมาย ตัวหนังเป็นผลงานกำกับของ Martin Scorsese ผู้กำกับชื่อดังแห่งวงการ และได้ดาราชื่อดังอย่าง Leonardo DiCaprio มารับบทนำอีกด้วย

The Wolf Of Wall Street ถือว่ากระแสแรงตั้งแต่เปิดตัวมาแรกๆ ด้วยคะแนนและคำชมเชยมากมายจากหลากหลายสื่อรวมถึงนักวิจารณ์ และหลังจากที่ผมได้มีโอกาสไปดูด้วยตัวเอง ก็ไม่มีอะไรจะเถียงครับ บทภาพยนตร์และการลำดับเรียบเรียงเรื่องราวไปยังต้นจนจบนั้นทำได้ดีเอามากๆ บวกกับคุณภาพการแสดงระดับห้าดาวของดาราเจ้าบทบาทอย่าง Leonardo DiCaprio บอกได้เลยว่าโคตรสุดยอดจริงๆ คงไม่แปลกเลยถ้าหากปีนี้เขาจะได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แม้จะมีบ้างที่ตัวหนังเจอกระแสด้านลบจากคนดูบางกลุ่มถึงความไม่เหมาะสมของบางฉากที่ติดเรทเกินไป (นับได้ว่าเยอะมากอยู่เหมือนกัน) ซึ่งคงได้แค่แนะนำว่าคนที่เข้าไปดูต้องใช้วิจารณญานพอสมควร



และแน่นอนว่าสไตล์หนังชีวประวัติย่อมต้องมีข้อคิดสอดแทรกเป็นธรรมดา ซึ่งสำหรับ The Wolf Of Wall Street ผมโคตรชอบสคริปบทพูดของตัวละครต่างๆซะจริงๆ มั่นใจมากว่าหากคนดูทุกคนให้ความสนใจกับสิ่งที่ตัวละครพูดและนำมาคิด คุณจะฉุกคิดอะไรหลายๆอย่างในชีวิตประจำวันได้มากทีเดียว ไม่ผิดหวังจริงๆที่คาดหวังไว้สูงก่อนเข้าไปดู เจ๋งมากๆ

ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคนี้จากในภาพยนตร์นะครับ
‘Do you think I'm materialistic? Fuck you! Go get a job at McDonald's.’
'ถ้าคุณคิดว่าผมมันเป็นพวกวัตถุนิยม เชิญไสหัวออกไปทำงานในแมคโดนัลด์ซะเถอะ'
(มันไม่ใช่การดูถูกคนทำงานในแมคโดนัลด์ แต่มันคือการเปรียบเปรยให้เห็นว่าความพอเพียงและความทะเยอทะยาน มันคนละเรื่องกัน)

อยากเป็นใหญ่ใจต้องนิ่ง

ผมผิดหวังในการดำเนินเรื่อง
มันเป็นหนังที่ อมเริกันจ๋า คนอเมริกาดูสนุกเอามัน

เรื่องการทำธุรกิจผมว่ามันธรรมดามาก ไม่น่าเชื่อถือ
เนื้อเรื่องแต่งเอาสะใจ ทับถม กันเว่อ
รายละเอียดดีมาก แต่ก็มีจุดให้จับผิด

หนังสามชัวโมง เยอะไป
แต่ละตอนที่ ไม่มีประโยชน์กับเนื้อหาในหนังก็ใส่เยอะจนล้นไปหมด
ยิ่งฉาก ปาร์ตี้ ฉาก XX ฉากฉลอง ฉากเรือ มันไม่มีสาระในเนื้อหาอะไรเลย
เอาสะใจ เอามันให้สมกับพวก วัตถุนิยม

จุดพีคสุดของผม คือเพื่อนขายยา ขายปากกานั้นแหละ

คือเรื่องนี้มันไม่จุดพีคแบบ พีคสุดๆให้เห็นเลย
เนื้อเรื่องปูแบบ เยอะไปหมด กระจายความสำคัญไปหมด
เลยไม่มีจุดพีคที่จบให้เราเห็น

ให้ 7/10

ผมว่าตัวหนังต้องการแสดง จุดตกต่ำ และ จุดสูงสุด ในชีวิตของตัวละครหลักนะ
เห็นด้วยหลายอย่างดูกระจายๆ แต่ผมเข้าใจว่าผู้กำกับตั้งใจจะโปรยฉากพวกนี้ออกมาเพื่อส่งให้คนดูเข้าถึงปัญหาที่แท้จริงของ belfort นะ

แล้วด้วยการได้ leonardo มาเล่นด้วยเนี่ย
หลายspeech ที่แกต้องพูดในหลายๆฉาก เล่นโคตรดี เข้าถึงชิบ

ไม่มีจุดพีคก็เห็นด้วย แต่ผมชอบนะ หนังมันเหมือนจะเรียบราบเป็นกราฟเส้นตรง แต่มันไม่เบื่ออะ
ไม่ใช่หนังแอคชั่นแต่ดูแล้วมันส์ดี

sell me this pen.

3ชม นานไปจริงๆนะดูแล้วมีอารมณ์รู้สึกเริ่มเบื่อๆ

และมันเหมือนเม้นบนบอกมันอเมกันจ๋าไป ดูแล้วพอเดาได้

ผมว่าดี โอเค
แต่ขายปากกา
น่าจะ เน้น ให้ เด่นกว่านี้ นี่พูด แบบบทปกติ จบไปไวมากเลย

18+ ชัดๆ เรื่องนี้ 5555

จริงครับ ฉากนั้นไวไปนิด
แต่หนังได้มาย้ำอีกทีช่วงฉากจบ
สื่อได้โคตรดีอะ เป็นอีกหนึ่งฉากจบที่ทำเพื่อให้คนดูตีความออกมาได้ดีมากๆเลย

-...- กูนึกว่าดูขายตรง 3 ชม

ผมให้9/10เลยเรื่องนี้ แทบไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย ดิคาปริโอเหมาะกับบทแนวนี้สุดๆเลย

หนังแม่งก็เอากันเยอะเกิน เอากันทั้งเรื่อง ไม่เซ็นเซอร์อะไรบ้าง

นมกับจิ๋ม ก็ไม่ตัดออก จนผมรู้สึกว่ามันมากเกินไป

ผมเพิ่งจีบสาวชวนไปดูหนังเรื่องนี้ เรื่องแรก


คิดดูละกันผู้หญิงเค้าจะคิดยังไง

บทของหนังดีมาก แต่เนื้อเรื่องห่วยแตก

เต็ม 10 ผมให้ 6.5/10 คะแนน

ฉากให้เสนอขายปากกา หรือ บทในการขายหุ้นเพนนี ผมว่าทำให้หนังดีขึ้นมากหน่อย

เรื่องนี้ความเห็นส่วนตัวน่ะ ผมว่าทำไม่สุด ที่ว่าไม่สุด คือก่อนไปดูเรื่องนี้ภาพในหัวผม leonardo คงจะผมเห็นถึงความมั่งคั่งจนพีคสุด แต่ไปดูเฮ้ย หลังๆมันเริ่มไม่ใช่ เค้าหักมุมในส่วนของบท คือมันเริ่มเปลี่ยนฟิวช่วงหลังๆ ทำให้หนังมันผิดเพี้ยนไปจากความคาดหวังของคนดู ที่หวัง leonardo ต้องชนะทุกอย่าง เพราะเหมือนหนังจะมาแนวๆนี้ ให้ความหึกเหิมมั่งคั่ง แต่สุดท้ายจบแบบนี้ ผมว่าก็ไม่ได้เสียหายอะไร กลับดีด้วยที่แปลกใหม่และ บทดีมาก ผมอินเลยยิ่งฉากหลังตอนแย่งตัวลูก มันจริงฟิวนั้นเลย ถ่ายทอดได้ดี
สุดท้ายยังไงก็เป็นหนังที่ดีน่ะผมว่า เพียงแค่ผมดันไปหวังว่าต้องอย่างนั้นๆไว้ก่อน
ให้ 8/10 ถ้าเอาเรื่องความมั่งคั่งที่หนังให้มันไม่สุดน่ะ ที่ให้8 เพราะปรัชญา ถ่ายทอดได้ดีจริงๆ แทรกมาเล็กๆน้อยๆด้วย

ผมรู้สึกค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ว่ามันจะดูสนุกอยู่พอสมควร

แต่ฉาก 20+ เช่นการมี sex พี้ยา ด่าทอ มันเยอะเกินไป แรกๆ ก็ชอบนะ แต่ไปๆ มาๆ รู้สึกน่าเบื่อ 555+
การดำเนินเรื่องที่ผมคิดว่าคนทั่วไปเข้าถึงได้ยาก เลยไม่ค่อยอินไปกับตัวละครในหนัง
และบางฉากเร็วเกินไป คุยๆ โทรศัพท์อย่างเดียว ตัดมาอีกทีจากบริษัทเล็กๆ กลายเป็นบริษัทใหญ่แล้ว

ความสำเร็จของตัวละครในหนังนี่ มาจากการพูดอย่างเดียวเลย อารมณ์เหมือนฟังพวกขายตรง

มันเป็นความสนุกในความผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก 7/10 ครับ

เ้รื่องขายตรง และการพูด
ผมว่าด้วยบริบทของอาชีพตัวละคร ถ้าจะโตในสายงานนี้
จุดเด่นก็ไม่พ้นเรื่องทักษะการปั้นน้ำเป็นตัวนั่นแหละครับ

ซึ่งผมเข้าใจนะว่าบางคนไม่ชอบ เหมือนมีคนมาขายตรงให้ยังไงยังงั้น
แต่ส่วนตัวผมมองว่า มันคือการโชว์เทคนิกของคนที่มีความสามารถด้านนี้มากกว่า

อย่างที่ฉากจบได้พยายามสื่อให้คนดูเข้าใจไว้ว่า ใช่ว่าทุกคนจะทำได้อย่าง beltford
กับไอ้แค่การขายปากกา ถามไป3 ตอบมาแนวเดียวกันหมด
ทั้งๆที่วิธีจะทำให้คนซื้อฉุกคิด สามารถใช้ประโยคง่ายๆสตั้นคนไปได้ด้วยคำไม่กี่คำ