BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 16342
ที่อยู่: Promised Land
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 02:26
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
SNOWFEG พิมพ์ว่า:
MANCUNIENX พิมพ์ว่า:
เป็นมุมแห่งความหวัง
เป็นมุมประมาณ..สังคมอุดมคติ อะไรเทือกนั้น

มันฟังดูดีนะ

แต่มอยส์ไม่ได้โชว์อะไรให้เห็นเลยว่า สิ่งทีหมอนั่นพยายามชักจูง มันมีเค้าลางของความเป็นไปได้เลย

เวลา จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อคุณพยายามใช้ปรับปรุงทีม ปรับปรุงแนวทาง ที่คุณเริ่มทำมาจนถึงตอนนี้มันเห็นได้ชัดว่า มันไม่น่าจะใช่ทางที่โอเค (จากผลงานของคุณไง)

 


ใช่ๆ ที่สำคัญ แพ้โทษโชค เล่นห่วยโทษดวง แม่มไม่โทษตัวเองเลย

มองไม่เห็นจุดออ่นตัวเอง แล้วจะพัฒนาได้ไง เบื่อมันจิงๆ  


จะว่าไปก็ถกกันเรื่องมอยส์มากันมากเหลือเกิน สุดท้ายแล้วเราก็ต้องอดทนแหละ อดทนรอวันเปลี่ยนโค้ช



ไม่รู้จะสรรหาคำใดมามอบให้พี่แกแล้ว

รอดูหลังตลาดปิดก่อน เมื่อนักเตะทั้งหลายติด คัพไท ไม่คุ้มต่อการทุ่มเงินแล้ว เขาจะมีสายตากว้างไกล เฉียบคมพอที่จะมองหานักเตะจากทีมระดับรองลงมา แต่มีศักยภาพจะพัฒนาต่อเป็นเกรด A ได้ไหม

ที่หามาช่วงนี้น่ะเพื่อเซฟเก้าอี้เขาเลยล่ะ แต่ดูซิว่าจะมีน้ำยาสักแค่ไหน จะทำได้สักคนหรือเปล่า แล้วนักเตะที่ปฏิเสธไปว่ายังไม่ได้เอา อย่างโคเอนเทราน่ะ ณ ตอนนี้ไม่ใช่ต้องมามองหาใครแล้วนะ คุณควรมีนักเตะในใจที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ ตลาดซัมเมอร์ได้ปิดตัวลง และชวดไปนั่นแหละ ว่าจะเอาไงต่อไป จะหาใครมาเสริมในช่วงวินเทอร์ดี

โอ๊ยย ไม่รู้จะไปเอาความเชื่อมั่นที่ไหนมาสนับสนุนแกแล้ว คุณมอยส์เนี่ย

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Apr 2006
ตอบ: 2156
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 02:33
ถูกแบนแล้ว
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
pommeinss พิมพ์ว่า:
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=886365

ตามลิ้งนี้เลยคับ

หรืออ่านได้เลย เครดิต โดย ลูนาร์


-1-


เคยมีคำพูดบางคำจากใครที่ไหนก็ไม่รู้ ทำวลีหล่อๆ ตกหล่นไว้

'ฟุตบอล คือชีวิต' หรือ 'ฟุตบอล เป็น ยิ่งกว่าชีวิต'

แต่ที่แน่ๆ คือมันสะท้อนชีวิตคนเราในชีวิต แม้แต่โยงมันไปผูกกับเรื่องอื่น

เดวิด มอยส์ กับความกดดันจากความคาดหวัง ของแฟนบอลที่คุ้นเคยกับความสำเร็จมาตลอด 2 ทศวรรษ

โชเซ่ มูรินโญ่ หนังภาคสองที่ไม่มีวันติดตราตรึงใจไปตลอดกาลเหมือนภาคแรก

หลังความพ่ายแพ้ 4-1 มีแฟนบอลที่ส่วนใหญ่เก่งจากการคุมทีมในโลกของเกม Football Manager เข้ามากดดัน ทับถม

ชื่อของ เดวิด มอยส์ คงทำให้แฟนบอลผู้มองโลกตื้นเขินร้องยี้ ตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้ง พวกเขามองหา มูรินโญ่, เป๊บ, หรือ คล็อปส์

โดยลืมหน้าที่ของแฟนบอลที่ดีที่ เซอร์ อเล็กซ์ เคยสั่งเสียไว้หลังเกมกับ สวอนซี เมื่อเดือนพฤษภาคม

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ เล่นเกมพวก Manager แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ผมมองคือผลงานในอดีต คือรูปแบบการเล่น ในตัวเลือก มูรินโญ่,เป็ป,คล๊อปส์ ผมชอบ เป็ป ผมอยากเห็นการสร้างทีมจากเยาวชน กับ สไตล์การเล่นที่เป็นสมัยใหม่ การเล่นบอลบนพื้น การผ่านบอลสั้น การครองบอลกับทีมเพื่อสร้างโอกาส และ ตัดโอกาสจากคู่แข่งไปในตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันไม่ใช่ มอยส์ สไตล์ที่เอฟเวอร์ตัน แม้ว่ามอยส์จะเป็นโค๊ชที่เน้นทีมเวิร์ค สร้างเยาวชน มีฐานข้อมูลลับ CM/FM ก็ตาม แต่ยังเป็นโค๊ช แนว เน้นร่างกายเป็นหลัก สไตล์การเล่นยังไม่ในฟุตบอลสมัยใหม่เท่าไหร่


-2-



มันไม่ต่างอะไรกับการการทำงานให้ผ่านโปรฯ ที่มีระยะเวลาที่สั้น และต้องเห็นผลงานในระยะเวลาที่กำหนด

โลกของฟุตบอลก็สะท้อนสังคมปัจจุบัน สะท้อนเทคโนโลยี ที่คนหลงลืมไปว่า โลกใบนี้ยังมี ความช้า อยู่

หากคุณอดทน คุณจะได้รับมันมาแบบรู้คุณค่า ไม่ต่างจากการเลือกผู้หญิง มองหน้า สบตา มันใช่ว่าแค่อ้าขาแล้วจบ

มันเป็นแนวทางความสำเร็จแบบฟาสต์ฟู้ด ที่คนรุ่นเจนวายและซี เข้าใจยาก เพราะพวกเขาไม่ลึกซึ้งมากพอ

พวกเขาต้องการซูชิขั้นเทพ ที่พร้อมเสิร์ฟ พวกเขาไม่ได้ไปสนใจว่า ความคลุ้มคลั่งยามเช้าที่ตลาดปลาซึกิจิเข้มข้นเพียงใด

พวกเขาไม่สนที่มา สนเพียงที่พวกเขาได้รับ


ผลงานที่เห็นมันแย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนมาถึงในวันนี้ จะเห็นสิ่งที่เน้นคือ การเปิดบอลโด่งจากด้านข้าง การพยายามพุ่งล้ม เพื่อสร้างโอกาส ยิ่งนานวันมันก็ยิ่งทรุด เหมือนกับเป็นเนื้อร้าย (มะเร็ง) ถ้าคุณเริ่มรักษาไว ก็มีโอกาสหาย ปล่อยไว หมอเทวดาก็รักษาไม่ได้(ในปัจจุบัน)
-3-



คนที่บอกว่าดูบอลมานานกี่สิบปี มันไม่ได้การันตีว่าคุณเข้าใจทุกอย่างนะ แล้วมันก็ยากกว่าการเล่นเกมอยู่หน้าจอ

ล้วนแล้วแต่เป็นพวกนักวิจารณ์ขี้แพ้ ไม่ก็กลุ่มคนปัญญาอ่อน ผมไม่ได้บอกว่าผมถูก แต่การที่ไปขับไล่ เดวิด มอยส์

ทั้งที่ลีกเริ่มไป 5 นัด แฟนบอลยูไนเต็ดพวกนั้นก็ไม่ต่างกับแฟนบอลของทีมที่ใช้เงินทุ่มซื้อความสำเร็จในทุกปี

ผมขอให้คุณมองดูแฟนบอล อาร์เซน่อล เป็นตัวอย่าง พวกเขาต้องทนต่อสู้ไปกับทีม กับ อาร์แซน เวนเกอร์ มาเท่าไหร่?

พวกเขาไม่ได้แชมป์มาตั้งแต่ปี 2005 แล้วมองดูทีมวันนี้ที่เขามีสิ?

ช่วงเวลาที่ผ่านไป ไร้แชมป์ สำหรับผมไม่ใช่ช่วงเวลาที่สูญเปล่าไปทั้งหมด มันเคยเป็นทีมเด็ก

มันเคยเป็นทีมอุดมคติของ เวนเกอร์ ที่ต้องการจะทำทีมอายุเฉลี่ยที่ 23

เขาก็ได้เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงทีมในช่วง 3 ปีหลังมาแล้วว่า จะลุ้นแชมป์ จะทำงานใหญ่

ปรัชญานั้นใช้ไม่ได้ใน EPL ต้องมีคนที่มีประสบการณ์เป็นแกนหลักของทีมด้วย

ถ้าถามผมว่าเกมไหน ที่เวนเกอร์ตาสว่าง?

แน่นอนว่า 8-2 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องเป็นหนึ่งในเหตุผลนั้น

ถึงแม้แมนยูจะยิ่งใหญ่ในช่วงที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กุสัน เป็นผู้จัดการทีม แต่ผมก็ศรัทธา ในตัวเวนเกอร์ มากกว่าเฟอร์กี้ซะอีก เขาเป็นมากกว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอน เวนเกอร์ ต้องทำทีมในสภาพที่ถูกบีบในรอบทิศทาง แน่นอนว่า ผมชอบเวนเกอร์ ที่มีแนะคิดและวิธีการเล่นที่ทันสมัย มากกว่า เฟอร์กุสัน มุมมองของแต่ละคนต่อทีมไม่เหมือนกัน ความคิดแตกต่างกัน มีหลายคนที่เชียร์แมนยู แต่ไม่ชอบเฟอร์กุสัน แต่นั้นเป็นส่วนน้อย สำหรับสถานการณ์ของ อาร์เซน่อล บอกได้ว่า ไม่มีใครดีกว่า อาร์เซน เวนเกอร์ อีกแล้ว Arsene = Arsenal ผมก็อยากให้ เวนเกอร์ เป็นผู้จัดการทีมคนต่อไปของ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2003 ที่เฟอร์กุสันประกาศวางมือ

-4-



แมนฯ ยูฯ ไม่ได้มีประธานที่เข้ามาก้าวก่าย หรือบ้าคลั่งฟุตบอลเหมือน ซามปารินี่ (ปาแลร์โม่), เปเรซ,

อบราโมวิช, หรือชีค มันซูร์ แต่พวกเขามีนักธุรกิจ นักลงทุน ที่ทำงานในอีกมุมมองหนึ่ง

เพราะฉะนั้น แม้ เดวิด มอยส์ จะไม่ได้มีเวลา 4 ปีในการหาแชมป์แรกเหมือน เฟอร์กี้ ในปี 1990

แต่แน่นอนว่าเขาจะมีเวลาอย่างน้อย 2-3 ฤดูกาล ที่จะเรียนรู้และสร้างผลงาน

ด้วยวัฒนธรรมขององค์กร ต่างจาก เชลซี แมนฯ ซิตี้ ที่เติบโตขึ้นมาได้จากการลงทุนระยะสั้น

ยูไนเต็ด ให้โอกาสเด็กท้องถิ่น และทำงานกับนักเตะดาวรุ่ง เฟอร์กี้ทิ้งทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะโฮมกราวน์

และเป็นนักเตะในสหราชอาณาจักร ไว้มาก หากเขาเลือก มูรินโญ่ มาทำทีม เด็กอย่าง เวลเบ็ค, เคลฟเวอร์ลีย์, สมอลลิ่ง

เอแวนส์, โจนส์ ไม่มีทางแจ้งเกิด แน่นอน เพราะเขาต้องการบิ๊กเนม เพื่อการันตีว่า จะไม่ต้องมาทนเห็นความผิดพลาด

ของเด็กหัดเดินพวกนี้

เดเกีย
สมอลลิ่ง
โจนส์
เอฟร่า
วิดิช
เฟอร์ดินาน
คาริค
คากาวะ
ฟาน เปอร์ซี
นานี่
ยัง
ล้วนแล้วแต่ซื้อมาทั้งนั้น ตัวปั้นอย่าง พ๊อคบ้า ก็ปล่อยออกไป ใช่ มอยส์ขึ้นชื่อในการสร้างเด็กขึ้นมา แต ผมไม่ได้ โฟกัสไปที่มูรินโญ่อย่างเดียว มีโค๊ช ยอดฝีมือคนอื่นๆ อย่าง เปรเญกรินี่(รับค่าเหนื่อยน้อยกว่ามอยส์),ฮิสดิ้ง, ที่มีประสบการณ์กับทีมใหญ่มากกว่า แต่ติดตรงที่ 1.เซอร์ อเล็กซ์ไม่เลือก 2.ไม่ใช่ชาว บริติช

-5-



จากโครงสร้างทีมที่เฟอร์กี้ทิ้งไว้ คุณจะเห็นว่า 4-4-2 แทบไม่มีอยู่จริงแล้วในยุคนี้ เพราะมันถูกตัดแต่งพันธุกรรมใหม่

ให้ปรับตัวกับแวดล้อมการแข่งขัน เหตุไม่ใช่เพราะมันล้าสมัยในตัวของมัน แต่เป็นเพราะว่า ทุกทีมต้องการ

ที่จะครองบอล ไม่อยากการเสียประตูจากพื้นที่ที่พวกเขาเหลือไว้ให้คู่ต่อสู้

เฟอร์กี้ สร้างแมนฯ ยูฯ ให้ขึ้นเกมออกปีกสองข้าง ตั้งแต่ ชาร์ป-แคนเชลสกี้ส์, กิ๊กส์-เบ๊คแฮม, ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลง

ในปี 2008 เพื่อ เตเวซ รูนี่ย์ โรนัลโด้ ได้ดึงศักยภาพออกมาด้วยกันสูงสุด พอ โรนัลโด้ย้าย ออกไปในปี 2009

แมนฯ ยูฯ กลับมาเป็นทีมที่ใช้ปีกสองข้างอีกครั้ง วาเลนเซีย-นานี่ แอชลีย์ ยัง และมีหน้าต่ำ เป็น รูนีย์ สนับสนุน เบอร์บาตอฟ

ถ้าจะออกข้างอย่างเดียวแล้ว โยนเข้ากลาง อาจต้องหา นิว โครเซ่ มาช่วยทีมแล้ว จุดเด่นของ เซอร์ อเล็กซ์ คือการปรับตัว และหาทีมงานที่มีคุณภาพมาช่วยทำงานให้เขา ในเชิงกลยุทธ เฟอร์กี้ ก็เหมือน โจโฉ ใน 3 ก๊กนั่นหละ


-6-



ปีที่แล้ว ชินจิ คากาวะ เข้ามาสร้างความแตกต่าง เขาเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า อยากให้จ่ายทะลุช่อง เจาะตรงกลางมากขึ้นด้วยซ้ำ

เพราะเห็นเพื่อน พยายามผ่านบอลออกปีก แล้วใช้วิธีครอสบอลเข้าเขตโทษ วาเลนเซีย มีข้อดีตรงนี้ชัดเจน ที่พยายามจะเปิดเข้าไป

การเปิดเข้าเขตโทษก็เป็นการกดดันอย่างหนึ่ง แต่หลายคนมองว่ามันเป็นวิธีล้าสมัย ทุกวันนี้บอลต้องเจาะ ทำชิ่ง ตึ๊ดๆ เข้าไปยิงเท่ๆ

แต่คุณคงลืมไปว่า แมนฯ ยูฯ ไม่ได้มีอะคาเดมี่ ชื่อ ลาร์ มาเซีย นะ ไม่ต้องเทียบกัน มันเป็นเพียงวิธีการ ที่ต่างกัน

ปรัชญาฟุตบอลต่างกัน แล้วการเปิดเข้ากลาง ก็อันตรายของมันเองอยู่แล้ว ซึ่งแมนฯ ยูฯ ยุคเฟอร์กี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า

พวกเขาก็หากินด้วยรูปแบบนี้มาตลอดจนประสบความสำเร็จ

เพราะฉะนั้น มันจะต้องเป็นวิธีการที่ทุกคนต้องยอมรับ และไม่สามารถดูแคลนได้

จะ ลามาเซีย หรือ มาลาเลียก็ชั่ง แต่ คลาส 92 ก็แสดงให้เห็นว่า Academy แมนยูมีคุณภาพเหมือนกัน บาร์เยิน มิวนิค ในช่วง ไฮเกยส์ กับ กวาดิโอล่า ทำทีมผู้เล่นตัวหลักเหมือนกัน แต่สไตล์การเล่นเปลี่ยนไป มอยส์เข้ามาทำทีม ยูไนเต็ด ก็เปลี่ยนไปอย่างที่เขาถนัด คือ เล่นด้วยพละกำลัง ต้องซ้อมให้หนัก เน้นการไล้บี้บอล เข้าปะทะ พุ่งล้ม ดังนั้น มันอยู่ที่ โค๊ชด้วย ว่าคุณต้องการพัฒนาทีมให้เล่นในรูปแบบไหน แมนฯยูปัจจุบัน ก็คือ เอฟเวอร์ตัน สมัยมอยส์ อันดับ เอฟเวอร์ตัน ก็ประมาณนี้หละ

-7-



คุณมี รูนี่ย์ คากาวะ ฟาน เพอร์ซี่ อยู่ในทีม จะทำอย่างไร? แน่นอนว่าพวกเขาต้องได้เล่นด้วยกัน เฟอร์กี้ วางระบบ 4-2-3-1

โดยมี คาร์ริค และ สโคลส์ คอยคุมกลาง แน่นอนว่ายังมีนักเตะแบบ กิ๊กส์ แบบ เคลฟเวอร์ลี่ย์ แอนเดอร์สัน หรือเฟล็ทเชอร์

ที่พร้อมเล่นตรงนี้ การมาของ เฟลไลนี่ ก็สร้างความแกร่งในเกมรับได้ แต่เขาไม่ใช่ตัวรุกธรรมชาติ เพราะฉะนั้นทำความเข้าใจใหม่

ว่า กลางรับสองตัวที่ ยูไนเต็ดมี ไม่ได้ถูกคาดหวังว่าจะทำเกมบุก เพราะมี ตัวรุก สามคน รับหน้าที่อยู่แล้ว

นั่นคือ คากาวะ รูนี่ย์ และ วาเลนเซีย ตำแหน่งของ คากาวะ จะยืนค่อนไปทางซ้าย รูนี่ย์ หน้าต่ำ จะเห็นว่าระบบนี้

ทำให้มีการสลับตำแหน่งเคลื่อนที่ได้อิสระ คือมีตัวบุก 4 ตัวรับ 6 โครงสร้างระบบจึงค่อนข้างแน่น แม้ว่านักเตะในทีม

จะไม่ใช่ระดับท็อป เหมือนทีมอื่น แต่เวลาลงไปเล่น เฟอร์กี้แสดงให้เห็นว่า เอาชนะได้ เพราะทีมเวิร์คและระบบการเล่น

ที่ ดึงศักยภาพของนักเตะ ได้ออกมาใช้สูงสุดไงครับ

ปัจจุบันก็เล่นด้วย 4-2-3-1 แต่ การเล่นด้วย 4-2-3-1 มันก็มีวิธีการเล่นที่หลากหลาย อย่างเช่นการเล่นดนตรี เปียโน 1 หลัง ยังเล่น ป๊อบ,ร๊อค,แจส,คลาสสิคได้ ในหลังเดียวกัน จะให้
สเปน 4-2-3-1 จะเน้นการเล่นสั้นๆ ผ่านบอลตามช่อง
เยอรมัน 4-2-3-1 เน้นการเปลี่ยนทางบอล เล่นกันเต็มพื้นที่


-8-



แล้วนักเตะที่มีอยู่ในทีม ที่ยูไนเต็ดมี ผมจะแยกให้ชัดเจนว่า ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ในทีมได้ ทั้งที่ตำแหน่งเดียวกัน

มันคือการที่ทีมขนาดใหญ่ จะต้องมีนักเตะที่เล่นในหลากหลายสไตล์ไงครับ ถ้าเหมือนกัน เขาไม่ซื้อมาหรอก ดูอย่าง โอซิล ก็ได้

จากมิดฟิลด์ คาร์ริค คือตัวออกบอลจากหลัง เขามีวิสัยทัศน์ การอ่านเกม การประคองเกมตรงเกม ทำอย่างไรไม่ให้เสียเปรียบ

เข้าใจภาพรวม สั่งการได้ แม้ว่าจะช้า แต่เขาจะคอยมองเกมจากด้านหลังบอลเสมอ



เคลฟเวอร์ลีย์ เป็นนักเตะที่ให้บอลเร็ว จ่ายบอลง่าย ทำให้สปีดเกมเร็วขึ้น และมีความขยัน คล่อง เคลื่อนที่ดี

ต้องการเอาบอลมาเล่นตลอดเวลา เขาจะหาที่ว่างเพื่อรับบอลได้ดี ถ้ามองภาพรวม นักเตะแบบนี้ทำให้ทีมครองบอลได้มากขึ้น

แต่หากมองในมุมส่วนบุคคล ข้อเสียคือ ผ่านบอลยาวไม่แม่น ผ่านบอลแล้วเพื่อนไม่ได้เปรียบเท่าไหร่ จึงไม่เด่นในเกมบุก เหมาะเป็นผึ้งงานได้



อันแดร์สัน ออกบอลเร็ว จังหวะเดียว ชอบผ่านบอลไปข้างหน้า และจ่ายทะลุช่องดี เติมขึ้นไปลุ้นยิงได้ แต่จังหวะจบแย่

อันแดร์สันต่างกับกลางคนอื่นตรงไปกับบอลดี เลี้ยงพาบอลไปข้างหน้าได้ เปิดช่องให้ทีมได้เปรียบ

แต่จังหวะจ่ายบอลยังไม่ละเอียด เพราะยังใจร้อน

แต่ภาพรวมคือมีพลังขับเคลื่อนให้เกมเร็วขึ้นได้



เฟลไลนี่ เด่นที่ความแข็งแกร่ง การแย่งบอล และลูกกลางอากาศ เด่นในการเชื่อมเกม รับบอล จ่ายบอล

สร้างสมดุลให้ทีมมากกว่า ที่จะเป็นกลางคอยออกบอลสั้น ยาว เหมือนคาร์ริค แน่นอนว่า เล่นเกมรับได้ดีกว่า

จะเห็นเลยว่า เกม แพ้ซิตี้ 4-1 พอเฟลไลนี่ ถูกดันไปเล่นหน้าต่ำ แล้วทำไม่ได้ เพราะช้า และไม่ได้มีเทคนิคเยอะ

แต่ที่ไม่ถูกเปลี่ยนออกเพราะ เดวิด มอยส์ ติดนิสัยมาจากการคุมทีมเล็กแบบเอฟเวอร์ตัน มุมมองในเกมนี้

จึงถอดใจ เน้นการครองบอลเพื่อไม่ให้ทีมเสียประตูมากกว่านี้ และมุมมองนี้ถือเป็นบทเรียนที่สอนเขาแล้วว่า

การคุม แมนฯยูฯ ต่างจาก เอฟเวอร์ตัน แค่ไหนในเรื่องความทะเยอทะยานและความเสี่ยง

นักเตะในทีมใช่ว่าไม่เก่ง แต่วิธีการเล่นมันไม่เหมาะสมกับทีมชุดนี้ กองหน้า ตัวจบสกอร์ ไม่ได้มีใครที่เด่นลูกกลางอากาศ


-9-



ปีกที่เฟอร์กี้ทิ้งไว้มีเยอะมาก เพราะปรัชญาการขึ้นเกมทางปีก เฟอร์กี้มีปีกให้เลือกเยอะจนมาถึงยุคมอยส์

นานี่ เด่นที่เทคนิค ลากตัดเข้าใน ยิงไกลได้ดี ครองบอลดี ไปกับบอลได้ และเปิดบอลได้ทั้งสองเท้า แต่เสียที่ผ่านบอลยาก

คร่อมจังหวะกับเพื่อนบ่อย เพราะมัวแต่ยึกยัก



แอชลีย์ ยัง เป็นปีกที่เล่นหน้าต่ำได้ดีตั้งแต่สมัยอยู่ แอสตัน วิลล่า มีทีเด็ดเรื่องของความเร็วจัด การเลี้ยงบอล

ลากตัดจากซ้ายเข้ามายิงได้ดี และเด่นที่สุดคือเรื่องการหาพื้นที่ เปิดบอลทแยงมุมเข้าไปกดดันในเขตโทษ

บอลจะโค้งและมีน้ำหนัก แต่เสียที่เล่นมิติเดียวเกินไป พยายามล็อกเข้าขวาก่อนทุกครั้งจนเคยชิน พอตันก็จ่ายคืนหลัง

แล้วก็มีปัญหากับการประสานงานกับเพื่อนอยู่



วาเลนเซีย เด่นที่สภาพร่างกาย วิ่งขึ้นลงได้ไม่มีปัญหา แข็งแกร่ง แต่ขาดความคล่องตัว การเปลี่ยนทิศทางขณะเร่งสปีด

ทำได้ช้ากว่า เพราะมีช่วงบนที่หนา เพราะฉะนั้น หากใครมาแข่งกับเขาเรื่องทางตรง ก็ยากหน่อยเพราะเร็วจัดมาก

นั่นเลยส่งผลต่อสไตล์การเล่นเขาด้วย ที่จะออกไปสุดเส้นแล้วเปิดยัดเข้ามา ข้อดีของวาเลนเซียคือ เล่นเป็นทีม ไม่ฝืน

ไปไม่ได้ก็คืนหลังหรือฝากไว้ที่ กองกลาง และก็ทำงานได้ตามแท็คติกคือ เปิดบอลเข้ากลางได้ตลอด การครอสบอลนี่แหละ

คือ 'ผลลัพธ์' ที่เฟอร์กี้ต้องการหลังยุคโรนัลโด้ ไม่สนใจว่า 'วิธีการ' จะหวือหวา ต้องสับขา หลอกล่อ ต้องลากตัดเข้ามายิงเท้าซ้าย

เอาเป็นว่า เปิดบอลเข้ามาในเขตให้กดดันได้ นั่นคือหน้าที่คุณ แค่นั้น และเขาช่วย ราฟาเอล เล่นเกมรับได้ดีที่สุดในบรรดา

ปีกที่มีทั้งหมดด้วย

ถึงแม้จะเป็นปีก แต่วิธีการเล่นมันก็มีหลายรูปแบบ จะเล่น 4-3-3 หน้าแบบกึ่งปีก ใน โททัล ฟุตบอลก็ได้ และคุณก็ได้วิเคราะห์นักเตะแมนยูให้ดูแล้ว แต่หน้าที่ของปีกตอนนี้เหมือนกันหมด คือ ทำยังไงก็ได้ให้บอลไปถึงเส้นหลัง ใกล้มุมธงแล้ว เปิดเขามา



-10-



คากาวะ เข้ามาเพิ่มมิติการบุกให้หลากหลาย สไตล์ของเขาคือ ผ่านบอลง่าย เคลื่อนที่ ให้คู่ต่อสู้ตามเขาไป เกิดช่องว่าง

เขายืนด้านซ้ายก็จริง แต่เขาเคลื่อนไปรอบๆ รวมถึงถอนต่ำไปเชื่อมบอลกับ มิดฟิลด์คู่กลางด้วย บทบาทเขาเลยหลากหลาย การจ่ายบอล

รวมถึงชอบไปแทรกระหว่างช่องของแนวรับของฝ่ายตรงข้าม นั่นคือจุดอันตรายที่เขาทำได้ดีมาก เหมือนหนูที่คอยซ่อนตัวอยู่

เราจะเห็นว่าเขาได้บอลในพื้นที่ไม่อันตราย 35-40 หลา เคาะบอล ไปเรื่อยๆ แต่เขาเคลื่อนตลอดเวลา แว๊บเดียวก็และแทรกเข้าไป

อยู่ในพื้นที่ยิงประตูได้ ซึ่ง ยูไนเต็ดขาดคนแบบนี้ มานานมาก อาจบอกได้ว่าไม่เคยมีเลยก็ได้ในช่วง 15 ปีหลัง

ข้อเสียคากาวะคือ สภาพร่างกาย และการปะทะหนัก คากาวะ แสดงให้เห็นว่ามีปัญหา รวมถึงการประสานงานยังขาดๆ เกินๆ บ้าง

บางครั้งก็ฝืนครองบอลนานไปบ้าง แต่เขาไม่เจอปัญหานี้ที่เยอรมัน นี่เลยเป็นสิ่งที่เขาต้องปรับตัว



เมื่อคุณมี เวลเบ็ค ล่ะ? แดนนี่ น่าจะเป็นนักเตะที่ underrated นะ สำหรับผม ถ้าใครได้ดูและสังเกต เวลเบ็คได้ออกสตาร์ทก่อน

คากาวะเพราะ เป็นนักเตะที่ครบเครื่องนะ แข็งแกร่ง มีความเร็วจัด คล่องตัว เก็บบอลได้ ขยัน สร้างความแตกต่างได้

และเด่นลูกกลางอากาศด้วย เกมที่เบอร์นาบิวปีเมื่อต้นปี เวลเบ็ค สร้างปัญหาให้แนวรับมาดริดของ มูรินโญ่ มาก เวลามั่นใจ

เขาจะกล้าเลี้ยงทะลุทะลวง แต่ข้อเสียคือ ตัดสินใจไม่ดี ไม่รู้ว่าเวลาไหนควรเก็บบอลไว้ หรือ ผ่านบอล รวมถึงความมั่นใจ

ในการจบสกอร์ ที่เขามีปัญหา ทำให้หลายคนมองข้ามเขาไป จุดดีเขาก็มี และเล่นเพื่อทีมมากๆ ด้วย แต่ความผิดพลาด

ทำให้หลายคนเลือกที่จะมองในด้านลบมากกว่า แต่ผมมองว่าเขาพัฒนาได้อีกไกล จากสิ่งที่มี ต้องการอีกไม่มาก

เพราะเหตุนี้ โค้ชบ้านเขา ทั้งมอยส์ และเฟอร์กี้ ก็พยายามดัน เด็กท้องถิ่นที่มีแววไว้ก่อน ยังไงก็ไม่ถูกแช่แข็งแน่นอน

และผมว่าเขาก็มีความสามารถสูง แฟนบอลต้องมองในมุมบวก ที่เขามอบให้ทีมครับ

ก็อย่างที่บอกไง มอยส์เน้นด้านร่างกายไว้ก่อน วิ่งต้องอึด ชนได้ ปะทะได้ ไม่ได้เน้นการทำชิ่งทะลุช่อง นั่นเท่ากับ ไม่ได้ใช้จุดเด่นของ คากาวะเลย การส่ง เวลเบ็ค ลงก่อนมันผิดตรงไหนถ้าเล่นตามแทคติคมอยส์ ต้องยอมรับว่า คากาวะ เป็นคนเอเชียนะ

-11-



ที่ผมร่ายยาวมาขนาดนี้ เป็นเพราะต้องการอธิบาย ว่าฟุตบอลมันเล่นกัน 11 คน คนที่เข้าใจโครงสร้างของทีมโดยรวม จะเข้าใจ

และรู้ว่าทำไมตัวเองต้องอดทน หรือยอมรับบางสิ่งอย่างที่เราอาจไม่เห็นด้วยได้ เพียงถอยออกมามองในมุมที่กว้างขึ้น

และพยายามมองใน ภาพรวม เหมือนคุณเป็น อันเดรีย ปีร์โล่ เพลย์เมกเกอร์ที่ยืนอยู่หน้ากองหลัง ไม่ต้องไปลุ้นยิงประตู แต่คุณเข้าใจ

แล้วว่าภาพรวม การยืนตำแหน่ง ของเพื่อนร่วมทีมรอบๆ คุณ เป็นอย่างไร แล้ว พยายามทำให้มันสมดุล

การจ่ายบอลสั้นๆ ง่ายๆ แล้วขยับตัวเองมาในพื้นที่ที่รับบอลได้ การทำเรื่องที่คุณคิดว่าจ่ายบอลง่ายๆ แบบ ชาบี เอร์นานเดซ นั้น คุณคิดว่า

ทำไมเขาถึงได้รับการยกย่องว่าเป็น the master เพราะเขาเป็นคนที่มองเห็นภาพรวมทั้งหมดของบาร์เซโลน่า และรู้ว่าจังหวะไหน

ควรฝากบอล ออกบอล หรือขวางบอลซื้อเวลา รอช่องแนวรับเปิด หากเรามองในภาพนี้ได้ เราจะเข้าใจครับ

ว่า เดวิด มอยส์ ต้องการเวลา แม้แต่การซื้อขายนักเตะ เราไม่ควรซ้ำเติมเลย เพราะเขาเพิ่งเข้ามาคุมทีม เขาต้องเห็นนักเตะก่อน
ไหนว่าจะปั้นไงหวะ สรุปเอาไง

จากเกมอุ่นเครื่อง เขาต้องทำงานร่วมกับนักเตะมากมาย เขาจึงจะมองออกว่าเขาต้องเสริมจุดไหน แม้แต่เฟลไลนี่ ผมก็ยังไม่คิดว่า

เขาตั้งใจจะซื้อแต่แรก แต่การซื้อเขามาก็ไม่ได้เลวร้าย อาจสร้างความต่างจากที่มีได้ในบางมุมมอง เพียงแต่เราไม่ควรไปด่วนตัดสินเขา



มันก็เหมือนกับชีวิตคนเราจริงๆ ที่เราควรศึกษาและรู้จักเลือกมองสิ่งต่างๆ ในหลายๆ มุมก่อน เราอาจจะพลาดสิ่งดีๆ ไปก็ได้

และผมยังเชื่อว่า เดวิด มอยส์ คือ คนที่ใช่สำหรับยูไนเต็ด ที่มีรอยัลตี้ และสปิริตแบบบริติชดั้งเดิม ซึ่งยังหลงเหลืออยู่ใน้อยเต็มทีในฟุตบอล

สมัยใหม่ เฟอร์กี้สร้างทีมมาด้วยความเชื่อมั่น และสปิริต แมนฯ ยูฯ ยังเป็นทีมที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ตายยากอยู่ ด้วยทัศนคติที่

โค้ชคนก่อนได้ปลูกฝังไว้ และมอยส์ จะเดินไปด้วยความเชื่อมั่นแบบเดียวกันแน่นอน

ในฐานะแฟนบอล ผมก็ต้องให้ความเชื่อแบบนั้นกับเขาเหมือนกัน ผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่า แมนฯยูฯ จะตกต่ำไปแค่ไหน

รสชาติของการดิ้นรนมันเป็นอย่างไร ผมก็รับได้นะ ถ้ามันมีวันนั้นจริงๆ

สรุป จะร่าบจะรำ จะเต้น ก็ต้องยอมรับว่าความคิดคนเราไม่เหมือนกันเขาอาจะคิดไม่เหมือนคุณก็ได้ เช่นผมเป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจคือ มอยส์เป็นโค๊ชที่ดีกว่า คนเขียน บทความนี้แน่นอน







"งานของพวกคุณคือ จงยืนเคียงข้างผู้จัดการทีมคนใหม่ เหมือนที่พวกคุณเคยยืนข้างผม"

-เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน-
[ถ้าไม่มี ^ คิดหรือว่ามอยส์จะได้มาทำทีมในโรงละครแห่งความฝัน]

 
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Sep 2013
ตอบ: 980
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 02:59
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2010
ตอบ: 281
ที่อยู่: San Diego CA, US
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 03:17
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
เพราะมอยส์ไม่ได้ใช้ระบบ

communucation system ครับ

ท่าน ซัวเหยินน กล่าวไว้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Mar 2008
ตอบ: 1364
ที่อยู่: ล่องลอย เคว้งคว้าง วังเวง
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 04:46
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
สำหรับผมฟุตบอลคือเกมส์กีฬาที่ทำให้ผมสนุกและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ดู เพียงแค่ระยะหลังดูแมนยูฯเล่นทีไรมันทำให้ผมเครียด ไม่ใช่แค่จากผลแพ้ชนะแต่มันเครียดตั้งแต่นักเตะยังวิ่งอยู่ในสนาม มันเกิดคำถามแทบตลอดทั้งเกมส์ ที่เจอบ่อยๆ ทำไมเล่นแบบนี้วะ ทำไมตัวนี้ไม่วิ่งแบบนี้วะ ทำไมไม่จ่ายบอลแบบนี้วะ
ปล.ใครก็ตามอย่าบอกว่า..งั้นก็อย่าดู ถ้าดูแล้วเครียด เพราะผมจะบอกว่าผมจะดูแต่อยากจะดูไปพร้อมกับความสนุกสนานเพราะนอกจากแมนยูฯแล้วผมไม่คิดที่จะดูทีมอื่น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
สิ่งที่หวัง สิ่งที่ทำ สิ่งที่เป็น อยู่ที่ตัวเราเอง...
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2013
ตอบ: 497
ที่อยู่: Anfield , England
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 05:06
ถูกแบนแล้ว
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
"งานของพวกคุณคือ จงยืนเคียงข้างผู้จัดการทีมคนใหม่ เหมือนที่พวกคุณเคยยืนข้างผม"
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: จำได้ว่าเกิดมาผมก็เป็นเด็กผี
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jan 2010
ตอบ: 13395
ที่อยู่: อาณาจักรล้านนา
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 09:04
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
โอกาสเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องการได้ มอยส์ก็เช่นกัน


ถ้าชอบความสำเร็จแบบแดกด่วนแชมป์ทุกปี แนะนำว่าให้เลือกเชียร์เฉพาะทีมนำจ่าฝูงทุกลีก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status: Haerin 해린 แฮริน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 May 2010
ตอบ: 18028
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 09:30
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
สิ่งที่มอยทำอยู่

มันสร้างความน่าเชื่อถือได้ป่ะละ

ทำไมผมไม่เห็นทางสว่างเลย

เห็นแต่ความล่มจม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: daddy's keane.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 12435
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 09:41
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
ผมไม่ได้ต้องการจะไล่หรือกดดันอะไร เพียงแต่ทุกครั้งที่บ่นที่ด่าคือ

คุมมาครึ่งปี ทิศทางของทีมคืออะไร ? ยังไม่เคยเห็นอะไรที่จับต้องได้

จากการคุมทีมของชายคนนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
u n i t e d
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: ผู้ปกป้องคุ้มกันภัย
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Apr 2006
ตอบ: 2940
ที่อยู่: Gotham city, Metropolis, Central city, Star city, Coast city
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 11:10
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
วิเคราะห์ได้ดีครับ เยี่ยมครับ
ผมไม่เข้าใจคนที่ว่าให้มอยส์นะ การคุมทีม ๆ หนึ่งมันยากนะครับ การที่จะทำให้ลูกทีมเชื่อมั่นในตัวเรานั้น มันไม่ง่ายนะครับ ต้องเรียนสภาพผู้เล่นให้ลึกไปจนถึงจิตใจ ผมเคยเป็นครูและเคยเป็นโค้ชให้ทีมฟุตบอลโรงเรียน ถึง 3 ปีซ้อน ทั้งพาเด็กฝึกซ้อมทุกวัน ก็เจอปัญหาทุกวัน ทั้งมาซ้อมบ้าง ไม่มาบ้าง จิตใจเด็ย่ำแย่ มันก็เล่นไม่ดี(เด็กโดน พ่อ-แม่ด่ามานะ) ความมีวินัยในการฝึกซ้อมแทบไม่ต้องบอกเลยว่าไม่มี ไม่ขยัน ไม่ค่อยวิ่ง รับ ส่ง เลี้ยง ยิง ไม่ได้เลย แต่พอผ่านไป 3 ปี เด็กที่เคยฝึกซ้อมผ่านมาด้วยกัน มันก็ซึมซาบเอาความรู้ที่ผมปลูกฝังให้มาใช้จนได้ประโยชน์ จนปีที่ 3 ผมก็ทำได้สำเร็จ มันได้แสดงออกมา(มันออกผลให้ผมและก็โรงเรียนครับ) สร้างประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลในละแวกแถวบ้าน คว้าแชมป์ครั้งแรก โดยครั้งก่อนที่เข้าร่วมไม่เคยแม้แต่จะผ่านรอบคัดเลือกเลยด้วยซ้ำ คนเรามันต้องอดทน และเรียนรู้ข้อผิดพลาด แล้วนำมาแก้ไข อันนี้ผมเข้าใจ ชีวิตจริงไม่ใช่เกม FM นะครับ และก็ไม่ใช่ทีมอย่างแมนฯซิตี้ เชลซี ปารีสฯ ที่พอทีมแย่แล้วเปลี่ยนโค้ช มันไม่ใช่ เราต้องดูไปเรื่อย ๆ มอยส์ต้องมีดีอะไรซักอย่างที่แมนฯยูฯ ได้เลือกเข้ามา เพียงแต่ตอนนี้มอยส์ยังหาจุดตรงนั้นยังไม่เจอ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3078
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 09, 2014 13:45
[RE: สำหรับสาวกผีด้วยกัน]
วิเคราะห์ ซะยาว ง่ายๆๆ สั้น มอยส์ ออก...........จบ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel