ทำงานโรงแรม
เป็นเด็กเสิร์ฟ เงินเดือน 9K + Service7-8 K +ประกันสังคม+ประกันชีวิตหมู่

1 เริ่มต้นชีวิตการทำงานเงินเดือนเยอะกว่าเพื่อนร่วมรุ่นบางคน (บางคน) 16-17K / เดือน

2 หยุดอาทิตย์ละ 2 วัน

3 ได้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง ทั้งสนทนาและงานเอกสาร

4 ทำงานไม่ต่างกับ "จับกัง"ในห้องแอร์/ยิ่งบุฟเฟ่ต์อาหารเช้านะ
(ร้านหมูกระทะติดแอร์ชัดๆ)

5 วันหยุดฤขัตฤกษ์ที่ชาวบ้านหยุดกันเช่น ปีใหม่ สงกรานต์ วันพ่อ วันแม่
ฝันไปเถอะที่จะได้หยุด

6 วันหยุดสุดสัปดาห์ หากมีงานEventจัดเลี้ยงต่างๆ จะโดน ยกเลิกวันหยุดวันนั้นโดยอัตโนมัติ แล้วเก็บวันหยุดไว้ใช้ในวันที่หัวหน้างานอนุญาต


7 ใครได้วันหยุด เสาร์- อาทิตย์ (บางโรงแรมให้เลือกได้) จะได้เสียงสงสัยในวันหยุดว่า ทำงานโรงแรมหรือรับราชการ


8 ชั่วโมงการทำงาน ทำงาน9ชม.+พัก1ชม. (อย่าอย่าโลกสวยคิดว่าจะได้กลับตรงเวลา) ยิ่งถ้าเป็นกุ๊ก+แม่บ้าน เข้างาน08.00-18.00 น. แต่เลิกจริงๆ 21.00 น. ไม่ได้OT คงได้แต่ โอฟรี นะจ๊ะ (ใจป่ะล่ะ)


9 ทำงานล่วงเลยเวลาเลิกวันละ1ชั่วโมง =(กลับตรงเวลา) ON TIME / แต่..!! มาสายเกิน 23 นาทีต่อเดือน=โดนหักตังค์
0.5 ของService ที่ได้รับ



10 จะทะเลาะกับแฟนบ่อยมากเรื่องเวลาเลิกงาน...หากแฟนคุณไม่ใช่มนุษย์โรงแรมเหมือนกับคุณ เพราะเค้าจะคิดตามหลักทฤฎีคนทำงานออฟฟิต



11 อย่าได้หวังมีเพื่อนนอกสังคมโรงแรมเพราะ เวลาหยุดไม่ตรงกับชาวบ้าน..
เช่น จ-อ/ อ.-พ/ พ-พฤ/ พฤ-ศ การได้หยุดวันอาทิตย์ถือว่า Impossible



12 ซึ่งแน่นอนล่ะ...เพื่อสังคมเพื่อนสมัย ม.ปลาย หรือมหาลัยถูกตัดขาด ก็เหลือเพียงเพื่อนที่อยู่ในสังคมโรงแรม
แล้วคนที่เราสนิทกับมันมักชวนเราสังสรรค์ กินเหล้าแต่เชื่อมั๊ย...เรากับมันมักหยุดไม่ตรงกัน

13 เพื่อนร่วมโรงแรมก็ทั่วไปมีทั้งดีและซุงแหล....!! เลียเข้าไป สวมหน้ากากเข้าหากัน ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน เหยียบหัวเพื่อนร่วมงานเพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์...!! เป็นเหมือนกันทุกองค์กร ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์โรงแรม


14 ซึ่งแปลกมากที่เจ้านายส่วนใหญ่มักฟัง........พวกชอบเลีย


15 สมุดต่อรอบ (LOG BOOK ) มีประโยชน์เพื่อ สนทนาเรื่องงานผ่านตัวหนังสือ ส่งงานที่ค้างคาส่งต่องานกันระหว่างรอบเช้า-บ่าย และดึก แต่พื้นที่ในสมุดส่วนใหญ่หมดไปกับการ เขียนเสียดสีกันระหว่างรอบเวลา หรือตัวบุคคล ตำหนิการทำงาน ระบายความในใจเป็นไดอารี่ส่วนตัวก็มิปาน

16 การทำงานโรงแรมต้องล่วงรู้อนาคตประหนึ่ง เจน ญาณทิพย์ หรือ ริว จิตสัมผัส เพราะจะลางาน จะหยุดวันชดเชย หรือขอใช้OT จากวันนขัตฤกษ์ ต้องลาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน หยุดก่อน โดนใบเตือน Warning สถานเดียว สะสมครบ3ใบในปีเดียวกัน รับสิทธิ์นอนพักผ่อนตลอดชีวิต (ไล่ออก)


หากอยากให้เขียนเรื่อง สังคมมนุษย์โรงแรมอีกก็บอกมานะครับ ทั้งเรื่อง พนักงาน กับแขกอีกทั้งกับหัวหน้างาน

เคสต่างๆ 5555555555+

เหน่งคุง
SS ID:neng171130

เครียดตรงโอฟรี นี้ละ นอกนั้นก้อ พอรับได้

อย่างน้อย ก็ได้แอบกินของอร่อยๆ ฟรี

เคยทำงาน Part Time ตอนอยู่มัธยมปลายช่วงปิดเทอม เป็นเด็กเสริฟ

1 เดือนทำเกือบทุกวัน ขาดบ้าง ได้เงินเดือน 5,000 กว่าบาท

แต่ทิปที่ได้จากลูกค้าเยอะมาก ขั้นต่ำต่อวัน 300 บาท ทิปรวมอีกขึ้นต่ำ 40 บาท วันไหนเจอคนใจดีได้มา 1,000 บาท ขึ้น

ยิ่งเป็นชาวต่างชาติทิปหนักมากไม่ต่ำกว่า 500 บาท

มีอาหาร 2 มื้อ เย็นกับดึก ทำงานตั้งแต่บ่าย 2 ถึง 4 ทุ่ม อาจลากยาวไปเที่ยงคืน ( รอเพื่อน )

อยากรู้ชีวิตกุ๊กใน รร ฮะ

เล่าให้ฟังหน่อยสิ สนใจๆ

เราเคยทำงานโรงแรม เป็น Back of House นะ ทำงานอาทิตย์ละ 5 วันครึ่ง (เสาร์ครึ่งวัน) ถ้าพนักงานโรงแรมอื่นที่อยู่ในเครือเดียวกันไม่พอหรือมีงานใหญ่ให้ช่วยก็ต้องไปช่วยด้วย ถ้า รร. เรามีงานใหญ่แล้วคนไม่พอเขาก็จะมาช่วย อะไรประมาณนี้ เงินเดือนไม่มาก แต่ Service Charge เยอะ

ไปเที่ยวบ้านเพื่อน พี่เพื่อนทำงานโรงแรม
ไปตั้งแต่ตีเช้ามืดเลิก2-3ทุ่ม (ตอนไปจำเวลาไม่ได้กินเหล้าเมากันอยู่)

จริงเคยไปทำอยู่แต่เป็น reception อยู่กะดึก กลับมาห้องนอนอย่างเดียวเลย
คอมไม่ได้เปิด 2 เดือน วันหยุดไม่มีเลยขอต้องของไว้ก่อน ต้องรออนุมัติ ด้วย
เคืองอย่างเดียว เด็กเสริฟแมร่งได้เยอะกว่า แล้วก็เบื่อตอนเชคบล็อค นับ คืนละไม่ต่ำกว่า 4

ถูกต้องครับ...ไม่ว่าจะ หูฉลาม พระกระโดดกำแพง หรือ เณรลอดรั้ว เป็ดปักกิ่ง ปู อลาสก้า บลาๆ ผมจัดมาหมดล่ะ

อยากรู้เรื่องเคลมพนักงาน ญ (ชู้สาว) มีเยอะจริงหรือเปล่าครับ??

คืออะไรครับ ตำแหน่ง back of house เนี่ย

ขอความรู้

พนักงานในส่วนออฟฟิศ ไม่ใช่พวกส่วนหน้าที่ต้องรับแขกหรือทำงานเป็นกะ ทำงาน 5 วันครึ่งเป็นเวลา จ-ศ. ตั้งแต่ 8:30 am - 5:30 p.m. เสาร์ครึ่งวัน พวก Director หรือ Manager ของแผนกก็จัดเป็น Back of House ทำงานเป็นเวลา

มีแบบม่ายสาวเรียกพนักงานโรงแรมหนุ่มให้ไปช่วยล้างจานแบบที่เคยอ่านมาไหมครับ

ขอบคุณครับ คุณ Noojidsai