วิธีการดูอเมริกันฟุตบอลเบื้องต้น
วิธีการดูอเมริกันฟุตบอลเบื้องต้น
ช่วงนี้ก็เปิดฤดูกาลแล้ว เห็นหลายๆท่านให้ความสนใจเกี่ยวกับอเมริกันเกมส์โดยเฉพาะเกมส์คนชนคน อเมริกันฟุตบอล ซึ่งก็เปิดฤดูกาลมาเป็นสัปดาห์ที่สองแล้ว วันนี้ผมจะมาพูดถึงวิธีการดูอเมริกันฟุตบอลว่ามันดูกันยังไง และกติกาเบื้องต้น คำศัพท์ต่างๆมันเป็นยังไง
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับสนามอเมริกันฟุตบอลกันก่อน
สนามอเมริกันฟุตบอลจะมีความยาวมาก ซึ่งสุดสนามของแต่ละด้านจะมีพื้นที่สำหรับทำคะแนนเรียกว่า End Zone (เอ็นด์โซน) ซึ่งจะมีสีที่แตกต่างกับพื้นสนามปกติ ส่วนใหญ่มักจะเป็นโลโก้ของทีมเจ้าบ้าน ถ้านักกีฬาสามารถนำลูกบอลเข้ามาในพื้นที่ End Zone (เอ็นด์โซน) ได้ก็จะถือว่าเป็นการทำแต้มได้ หรือที่เรียกกันว่า Touch Down (ทัชดาวน์) นั่นเอง (ดูภาพประกอบด้านล่าง) ส่วนขีดสีขาวๆเล็กๆในสนามนั้น 1ขีด จะมีระยะเท่ากับ 1 หลา และทุกๆ 5 หลาจะมีเส้นยาวพาดไว้ ซึ่งจะมีไว้เพื่อวัดระยะการบุกและช่วยให้กรรมการตัดสินได้ง่ายขึ้นด้วย
การเล่นและกฏของการเล่น
การเล่นพื้นฐานจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย และในการเล่นแต่ละครั้งจะมีทีมใดทีมหนึ่งจะต้องเป็น "ทีมรุก" (Offensive Team) และทีมตรงข้ามจะต้องเป็น "ทีมรับ" (Defensive Team) ซึ่งสามารถดูได้ง่ายๆว่า "ทีมรุก" จะเป็นคนจับบอลเริ่มเล่น นั่นเอง จากภาพจะเห็นได้ว่าคนที่จับบอลใส่เสื้อสีแดง ดังนั้นทีมเสื้อสีแดงจึงถือว่าเป็น "ทีมรุก" และ ทีมเสื้อสีขาวจึงเป็น "ทีมรับ" นั่นเอง (ดูภาพประกอบด้านล่าง)
ต่อไปเป็นกฏของการเล่น "ทีมรุก" ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของกีฬาอเมริกันฟุตบอลคือการทำระยะ การเล่นแต่ละครั้งเรียกว่า 1 เพลย์ (หลังจากนี้จะใช้คำว่าเพลย์) ในแต่ละเพลย์จะต้องทำระยะให้ได้(ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร) ซึ่งมีกฏกำหนดไว้ว่า
"ทีมรุก" จะได้สิทธิ์ในการเล่นเกมส์รุก 4 เพลย์ ซึ่งภายใน 4 เพลย์ จะต้องได้ระยะเกิน 10 หลา นับจากจุดเริ่มต้นเพลย์ที่ 1
ถ้าทำได้เกิน 10 หลา ในการเล่นเกมส์รุกภายใน 4 เพลย์ ก็จะได้สิทธิ์การเล่นเกมส์รุกต่อ อีก 4 เพลย์ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ยกตัวอย่าง
1. เพลย์ที่ 1 ได้ระยะ 5 หลา
2. เพลย์ที่ 2 ได้ระยะ 6 หลา รวมเป็น 11 หลา(เกิน10หลาแล้ว)
จึงได้สิทธิ์การบุกใหม่อีก 4 เพลย์ เรียกว่า ได้สิทธิ์ "First Down" (เฟิร์สดาวน์)
ซึ่งโดยส่วนใหญ่การถ่ายทอดมักจะใช้กราฟฟิคช่วยอยู่แล้วทำให้ดูง่าย ซึ่งจากรูปจะเห็นเป็นเส้นกราฟฟิคจากจุดที่ตั้งบอลเล่น(สีน้ำเงิน) และเส้นที่เป็นเป้าหมาย(สีส้ม) ซึ่งจะมีระยะทาง 10 หลาพอดิบพอดีนั่นเอง (ดูภาพประกอบด้านล่าง)
แต่ถ้าการรุก 4 เพลย์ ทำระยะได้ไม่ถึง 10 หลา ก็จะต้องเปลี่ยนให้ฝ่ายตรงข้าม เปลี่ยนเข้ามาเป็นฝ่ายรุกบ้าง และทีมที่เป็นฝ่ายรุก ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายรับบ้าง
โดยส่วนมาก เมื่อเล่นไปได้ 3 เพลย์ แล้วยังไม่ได้ระยะ 10 หลาหรือไม่ไกล้เคียงว่าจะได้ 10 หลา ในเพลย์ที่ 4 ทีมรุกมักจะใช้การเตะลูกทิ้งไปข้างหน้าเพื่อกินระยะให้คู่ต่อสู้ไปบุกไกลขึ้นกว่าเดิมเรียกว่าการ 'พันท์' (Punt) แต่ถ้ายังดันทุรังเล่นเพลย์ที่ 4 แล้วได้ระยะไม่ถึง 10 หลา คู่ต่อสู้จะได้เริ่มเล่นรุกตรงจุดนั้นต่อทันที
วิธีการรุก
การรุกสามารถทำได้โดย 2 วิธีคือการขว้างลูก(Passing) กับการวิ่ง(Rushing) โดยการขว้างลูกมักจะขว้างให้กับตำแหน่งปีก เพราะว่ามีความสามารถในการรับลูกบอลสูง
แต่การขว้างลูกก็มีความเสี่ยงที่จะโดนตัดบอลไปได้ ซึ่งการตัดบอลของฝ่ายรับ เรียกว่าการ อินเตอร์เซ็ปต์ (Intercept) และการ Intercept ผู้เล่นทีมรับที่สามารถตัดบอลไปได้ สามารถวิ่งย้อนกลับไปทำ "ทัชดาวน์" (Touch Down) ได้อีกด้วย
วิดีโอประกอบสร้างความความใจ "อินเตอร์เซ็ปต์" (Interception)
VIDEO
ส่วนการวิ่ง (Rushing) มักจะส่งให้ตัววิ่งทำการวิ่งทะลุทะลวงไป โดยจะมีเพื่อนๆคอยดันเปิดทางให้ การรุกโดยใช้เกมส์วิ่งมักจะได้ระยะทางไม่ค่อยมาก แต่มีข้อดีตรงที่ไม่ค่อยเสี่ยงต่อการโดนแย่งบอลไป
แต่ก็มีกรณีที่จะโดนแย่งบอลไปเหมือนกันก็คือการโดนแท็คเกิ้ลหรือโดนชน จนบอลหลุดมือหรืออาจจะทำหลุดเอง และคู่ต่อสู้สามารถแย่งบอลไปได้ ในกรณีนี้จะไม่เรียกว่า อินเตอร์เซ็ปต์ (Intercept) แต่จะเรียกว่า "ฟัมเบิ้ล" (Fumble)
VIDEO
การได้แต้ม
ถ้าเป็นการทำ ทัชดาวน์ (Touch Down) ในการเล่นปกติ จะได้ 6 แต้มและหลังจากที่ทำแต้มดังกล่าวได้ ทีมรุกที่่สามารถทำทัชดาวน์ได้ จะได้สิทธิ์การเล่นอีก 1 ครั้งหน้า End Zone ของคู่ต่อสู้ เรียกว่า "แต้มพิเศษ" สามารถเลือกได้ว่าจะทำแต้มได้โดยวิธีเตะ "ฟิลด์โกลด์" (Field Goal) หรือการเข้าไปใน End Zone ซึ่งถ้าเตะฟิลด์โกลด์ก็จะได้ 1 คะแนน แต่ถ้าเล่นแล้วเข้าไปใน เอ็นด์โซน (End Zone) จะได้ 2 แต้มซึ่งแน่นอนว่ายากกว่าการเตะ "ฟิลด์โกลด์" (Field Goal)
แต่การเตะฟิลด์โกลด์ (Field Goal) ก็สามารถเตะในเวลาการเล่นปกติได้(ไม่ใช่แต้มพิเศษ) และจะได้คะแนน 3 คะแนน ส่วนใหญ่แล้ว จะเตะเพื่อแทคติคหรือ หรือเล่นเกมส์รุกแล้วไปต่อไม่ได้ บุกไม่ขึ้น ไม่ได้ระยะจนถึงเพลย์ที่ 4 ถ้าเห็นว่าจุดเตะอยู่ใกล้กับประตูและน่าจะเข้าก็จะเตะกันเอา 3 คะแนนไว้ก่อน ดีกว่าไปลุ้นเอาทัชดาวน์ข้างหน้า ถ้าเกิดว่าไกลเกินไปก็เตะพันท์ (Punt) ทิ้งลูกไปเหมือนในกรณีที่อธิบายไว้ข้างบน
ส่วนการโดน Intercept หรือ Fumble แล้วคู่ต่อสู้เก็บบอลได้ วิ่งย้อนเข้าไปในเขต End Zone นั้น ก็จะได้แต้มเหมือนกับการทำ Touch Down และได้สิทธิ์การเล่นแต้มพิเศษเช่นเดียวกัน
ส่วนอีกอย่างคือการโดนรวบล้มในเขต End Zone ของตัวเอง จะทำให้คู่ต่อสู้ได้แต้ม 2 แต้มทันที เรียกว่า "เซฟตี้" Safety