สงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่ 3.2 : สมรภูมิรบสำคัญ
สมรภูมิรบแห่งสตาลินกราด (The Battle of Stalingrad) ๒๓ สิงหาคม ๑๙๔๒ ๒ กุมภาพันธ์ ๑๙๔๓
ในสมรภูมินี้ กองทัพเยอรมันต่อสู้กับกองทัพโซเวียต เพื่อครอบครอง สตาลินกราด หนึ่งในเมืองยุทธศาสตร์สำคัญ การที่ฝ่ายเยอรมันสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก และการที่ฝ่ายโซเวียตสามารถหยุดการรุกคืบของเยอรมันได้ ทำให้สมรภูมินี้เป็นจุดเปลี่ยนของสงคราม
การต่อสู้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๔๒ ซึ่งมีทั้งการต่อสู้โดยทิ้งระเบิดจากทางอากาศและการเผชิญหน้ายิงกันด้วยปืนกลตามถนนหนทางในเมือง ในที่สุดฝ่ายเยอรมันก็ยอมแพ้ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๙๔๓ แต่กระนั้น พลเมืองก็เสียชีวิตไปแล้วกว่า ๔๐,๐๐๐ คน
ทหารรัซเสียสู้รบในสมรภูมิที่สตาลินกราด
การบุกขึ้นชายฝั่งนอร์มังดี (The Invasion of Normandy) ๖ มิถุนายน ๑๙๔๔ กลางเดือนกรกฎาคม ๑๙๔๔
นี่เป็นทั้งสมรภูมิที่ได้รับการสรรเสริญมากที่สุด และนองเลือดมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร จากอังกฤษ สหรัฐฯ และแคนาดา ยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งแคว้นนอร์มังดีเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ค.ศ. ๑๙๔๔ เพื่อปลดปล่อยพื้นที่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศสจากกองทัพเยอรมัน ผลที่ตามมาคือการต่อสู้ที่รุนแรง แต่ในที่สุด ฝ่ายสัมพันธมิตรก็สามารถขับไล่ฝ่ายเยอรมันออกจากพื้นที่ได้เกือบทั้งหมดในช่วงปลายเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตสูงมากกันทั้งสองฝ่าย
ในปัจจุบัน วันที่ ๖ มิถุนายน เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ดี-เดย์ (D-Day) และมีการจัดงานรำลึกถึงวันนี้ในทุก ๆ ปี
การยกพลขึ้นบกที่หาดโอมาฮ่า ภาพอมตะของชาวอเมริกัน
สมรภูมิบัลจ์ (The Battle of the Bulge) ๑๖ ธันวาคม ๑๙๔๔ ๒๘ มกราคม ๑๙๔๕
ฝ่ายสัมพันธมิตรได้บุกเข้าไปในแนวรับของกองกำลังเบลเยียม ในช่วงฤดูหนาวของปี ค.ศ. ๑๙๔๔ สภาพอากาศที่เลวร้ายและความมั่นใจในตัวเองเกินไป เกือบทำให้พวกเขาต้องล้มเหลว อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงช่วงคริสต์มาส ฝ่ายสัมพันธมิตรก็รวมรวมกำลังกลับมาได้อีกครั้ง และสามารถบังคับให้ฝ่ายเยอรมันถอนทัพออกไปได้
ตามคำบอกเล่า สมรภูมิบัลจ์เป็นสมรภูมิที่กองทัพสหรัฐฯสูญเสียกำลังทหารมากที่สุด โดยมีทหารเสียชีวิตไปถึง ๑๙,๐๐๐ นาย
ทหารสหรัฐท่ามกลางความหนาวเย็นที่สมรภูมิบัลจ์
สมรภูมิโอกินาวา (The Battle of Okinawa) ๑ เมษายน ๒๑ มิถุนายน ๑๙๔๕
ฝ่ายสัมพันธมิตรต้องการเข้าควบคุมเกาะโอกินาวาเนื่องด้วยเหตุผลทางยุทธศาสตร์ ดังนั้นฝ่ายอเมริกันจึงบุกยึดเกาะในวันที่ ๑๕ มีนาคม ค.ศ. ๑๙๔๕ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางกำลังพลจากทั้งทางอากาศและทางน้ำ กองทัพญี่ปุ่นได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีแบบ กามิกาเซ (kamikaze การโจมตีแบบพลีชีพ) ซึ่งการต่อสู้ที่รุนแรงนี้ทำให้สมรภูมิโอกินาวามีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในบรรดาสมรภูมิรบมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมด และทำให้เป็นหนึ่งในการต่อสู้ทางอากาศ ทางทะเล และทางบกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
สุดท้ายแล้ว ฝ่ายสหรัฐฯ ได้ชัยชนะหลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกว่าสองเดือน
นักบินเลือดบูชิโดก่อนนำเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการครั้งสุดท้าย สำหรับพวกเขาภารกิจสำคัญเหนือชีวิต
สมรภูมิเบอร์ลิน (The Battle of Berlin) ๑๖ เมษายน ๒ พฤษภาคม ๑๙๔๕
การต่อสู้เพื่อยึดครองกรุงเบอร์ลินเริ่มต้นขึ้นกลางเดือนเมษายน ค.ศ. ๑๙๔๕ เมื่อกองทัพแดง (The Red Army หมายถึงกองทัพของโซเวียต) เริ่มรุกเข้าไปในเมือง สิ่งที่ตามมาคือการต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่เมื่อถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ฝ่ายโซเวียตก็เข้ายึดอาคาร ไรค์สทาก (The Reichstag - อาคารที่ทำการของรัฐบาลเยอรมัน) ได้ ในวันเดียวกันนั้น ฮิตเลอร์และผู้ติดตามอีกหลายคนได้ฆ่าตัวตาย ส่งผลให้การต่อสู้ในสมรภูมินี้จบลงไม่กี่วันหลังจากนั้น ซึ่งสำหรับทวีปยุโรปแล้ว นี่หมายถึงจุดสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง
เบอร์ลินท่ามกลางเปลวเพลิง
จบแล้วนะคับสำหรับตอนที่ 3.2 ขอบคุณที่ติดตามนะคับ ไว้จะเอาตอนต่อๆไปมาอัพเดทเพิ่มให้อ่านกันนะคับสำหรับคนชอบประวัติศาตร์สงคราม
เครดิต สงครามโลก ฉบับแฟนพันธุ์แท้
https://www.facebook.com/WorldWarFanPanTae?fref=ts
ww 2 ตอนที่ 1 : จุดกำเนิด
http://www.soccersuck.com/boards/topic/890341
ww 2 ตอนที่ 2 : ประเทศผู้เข้าร่วมสงคราม
http://www.soccersuck.com/boards/topic/890858/1#22614944
ww 2 ตอนที่ 3.1 : สมรภูมิรบสำคัญ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/891618