สงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่ 1 : จุดกำเนิด
สงครามโลกครั้งที่สอง ตอนที่ ๑: จุดกำเนิด (World War II: How Did It Start?)
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ท่านผู้นำแห่งอาณาจักรไรซ์ที่ 3
หลังจากที่มีสันติภาพมาได้ประมาณ ๒๐ ปี โลกก็ต้องตกอยู่ในภาวะสงครามอีกเป็นครั้งที่สอง วันนี้เราจะมาดูกันว่า สงครามโลกครั้งที่สอง (World War II) เริ่มขึ้นอย่างไร
กล่าวกันว่าสงครามโลกครั้งที่สองนั้น เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากความตึงเครียดและความโกรธแค้นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ในช่วงปี ๑๙๓๐ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของความขมขื่นที่เกิดขึ้น และทำให้ประชาชนเริ่มหันไปเห็นด้วยกับระบอบเผด็จการ
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งส่งผลให้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) และพรรคนาซี (Nazi Party) ขึ้นสู่อำนาจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ พันธมิตรของฮิตเลอร์ในประเทศอิตาลีและญี่ปุ่นก็เริ่มมีทาทีแข็งกร้าว โดยมุ่งหวังจะขยายเขตแดนของตน การที่ประเทศเหล่านี้มีท่าทีเป็นศัตรูกับพรรคคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียต ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นำไปสู่สงครามด้วย
ท่านผู้นำขณะวางแผนบาร์บารอสซาเพื่อโจมตีรัสเซีย
ที่จริงแล้ว มีอุดมการณ์หลายอย่างที่เป็นชนวนนำไปสู่สงคราม การรุกรานขยายดินแดนของเยอรมนีและอิตาลี ลัทธิเผด็จการแบบฟาสซิสต์ (Fascist Dictatorship) และการเหยียดผิว (racism) ที่ฝังรากลึกในสังคม ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งครั้งนี้ ซึ่งการเหยียดผิวเห็นได้อย่างชัดเจนในประเทศเยอรมนี ที่พรรคนาซีและผู้สนับสนุนเชื่อว่า ชาวอารยัน (The Aryan race) เป็นชนชั้นปกครอง และเหนือกว่าชาวสลาฟ (Slavic people)
กลุ่มประเทศที่รวมกันเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรในภายหลัง ได้วางเฉยต่อการคุกคามของฝ่ายอักษะ (The Axis) ในตอนแรก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสงสาร และความรู้สึกผิดจากสนธิสัญญาแวร์ซายส์ (The Treaty of Versailles) ที่กล่าวโทษให้เยอรมนีเป็นผู้ก่อสงคราม และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลายประเทศ อย่างประเทศอังกฤษเอง ได้ประเมินฮิตเลอร์ต่ำไป
สตูก้า เครื่องบินจอมทำลายรถถังของกองทัพอากาศเยอรมัน
ในขณะเดียวกัน องค์การสันนิบาตชาติ (The League of Nations) ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพพอที่จะรักษาสันติภาพไว้ได้ เพียงไม่กี่เดือนหลังจากประเทศญี่ปุ่นถอนตัวออกจากองค์การสันนิบาตชาติ ในปี ค.ศ. ๑๙๓๓ ประเทศเยอรมนีก็ถอนตัวออกมาเช่นกัน
ในปี ค.ศ. ๑๙๓๕ เยอรมนีละเมิดสนธิสัญญาแวร์ซายส์ โดยออกกฎหมายให้มีการเกณฑ์ทหาร (mandatory military conscription) และเริ่มสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์อีกครั้ง เยอรมนียังละเมิดสนธิสัญญาอีกหลายครั้งในช่วงหลายปีต่อมา ในปี ค.ศ. ๑๙๓๖ ฮิตเลอร์ยังได้วางกำลังกองทัพไว้ในพื้นที่ ไรน์แลนด์ ด้วย (Rhineland - พื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี ทางตะวันตกของแม่น้ำไรน์ ซึ่งตามเงื่อนไขในสนธิสัญญาแวร์ซายส์จะต้องเป็นเขตปลอดทหาร) และช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้เองที่เยอรมนีได้เริ่มเป็นพันธมิตรกับอิตาลี ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองประเทศได้ให้การสนับสนุนฝ่ายผู้แบ่งแยก (separatist movement) ในสงครามกลางเมืองของสเปน ส่วนรัฐบาลสเปนในขณะนั้นได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต เหตุการณ์นี้ส่อเค้าถึงสงครามโลกครั้งที่สองที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างก็ทดสอบยุทธวิธีและอาวุธใหม่ ๆ ที่จะใช้ในสงคราม ซึ่งเหตุการณ์ชัดเจนอย่างหนึ่งที่ส่อให้เห็นถึงความเลวร้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง คือเหตุระเบิดในปี ค.ศ. ๑๙๓๗ ที่เมืองเกอร์นิคา (The Bombing of Guernica)
เมื่อถึงปี ค.ศ. ๑๙๓๘ จุดมุ่งหมายของฮิตเลอร์ก็เป็นที่ชัดเจน ในเหตุการณ์ที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ The Anschless พรรคนาซีได้ผนวกรวมประเทศออสเตรีย (Austria) เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนี ถึงแม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะละเมิดสนธิสัญญาแวร์ซายส์ด้วยก็ตาม
การเดินสวนสนามที่นูเรมเบิร์กก่อนเข้าร่วมสงครามของกองทัพนาซี
ในปีเดียวกันนั้น ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสได้พยายามประนีประนอมกับฮิตเลอร์ เพื่อพยายามรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ โดยลงนามในข้อตกลงมิวนิค (Munich Agreement) ซึ่งอนุญาตให้ฮิตเลอร์สามารถเข้ายึดครองพื้นที่ส่วนหนึ่งของเชคโกสโลวาเกีย ที่ประชากรพูดภาษาเยอรมันมาไว้ได้
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๙๓๙ เยอรมันนาซีได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับสหภาพโซเวียตด้วย แต่กระนั้น เหตุการณ์ที่ได้บันทึกไว้อย่างเป็นทางการ ว่าเป็นเหตุการณ์แรกของสงครามโลกครั้งที่สองก็ตามมาในไม่ช้า
เนื่องจากมีความตึงเครียดระหว่างกันมานาน เยอรมนีได้เข้ารุกรานประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ค.ศ. ๑๙๓๙ อังกฤษและฝรั่งเศสจึงแจ้งเตือนเยอรมนีว่า ถ้าเยอรมนีไม่ถอนทหารออกจากโปแลนด์ ทั้งสองฝ่ายจะเข้าสู่สภาวะสงคราม เมื่อพรรคนาซีเพิกเฉยต่อคำเตือน อังกฤษและฝรั่งเศสจึงประกาศสงครามกับเยอรมนี และสงครามโลกครั้งที่สองก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการนับจากนั้น
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ตรวจตราความพร้อมของแพนเซอร์ซึ่งเป็นหัวหอกหลักในการบุกก่อนเข้าร่วมสงคราม
เครดิต สงครามโลก ฉบับแฟนพันธุ์แท้
https://www.facebook.com/WorldWarFanPanTae?fref=ts
ไว้จะเอาตอนที่ 2 มาลงให้นะคับ สำหรับคนชอบประวัติศาตร์สงคราม หรือไม่อยากรอก็เข้าไปอ่านในเฟสบุ๊คที่ผมให้เครดิตไว้ได้เลยคับ