ยุคสมัยเปลี่ยนผ่านธุรกิจบริการทางเพศก็ปรับเปลี่ยนแปลงโฉม จากโคมเขียวอันเลื่องลือใน
อดีต ผันผ่านอาบ อบ นวดที่เคยเฟื้องฟูจนถึงปัจจุบัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานบริการทาง
เพศยอมนิยมในช่วง4-5ปีมานี้ที่ได้ผลิดอกออกสาขาขึ้นแทบจะทุกหัวระแหงก็คือ
'นวดกะปู๋'
จากตำรับตำราโบราณของศาสตร์การนวดกษัยจนถึงนวดกะปู๋ ดูเหมือนบริการทางเพศ
จะมีสีสัน เร้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นของลิ้มลองใหม่ๆของชายนักเที้ยว
ต้นตำรับการนวด
นวดกะปู๋ มีความคล้ายคลึงกับศาสตร์ การนวดกษัยหรือจับกษัยเป็นการนวดแผนไทย
ประเภทหนึ่งที่จะทำการนวดบริเวณลูกอัณฑะ และโดยรอบเพื่อให้การไหลเวียนในร่างกายดี
ขึ้น ช่วยในเรื่องการทำงานของไต และยังบรรเทาอาการปวดเอวปวดหลัง รวมไปถึงการ
ทำงานของอวัยวะเพศและน้ำอสุจิ
การนวดแบบนี้ก็เคยมีให้บริการกันอยู่ โดยร้านที่มีชื่อเสียงคือ 'นะคะ' หรือมีชื่อเก่าว่า
'ฟิตอัพ' ซึ่งมีอยู่หลายสาขา มีขั้นตอนการนวดเริ่มตั้งแต่การประคบร้อน นวดผ่อนคลาย
จากนั้นหมอนวดก็จะเอาน้ำมันชโลมที่อวัยวะเพศแล้วนวด ซึ่งจะนวดอยู่นานพอสมควร เป้า
หมายของการนวดคือ การฝึกและสร้างความอึด เพื่อให้ผู้ใช้บริการไม่หลั่งเร็ว
นวดกษัย จะเน้นหน้าตาของหมอนวดที่จะไม่สวยมากนัก แต่วิธีการนวดแบบนี้ก็เป็นที่
เชื่อกันว่าช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และเป็นที่นิยมในหมู่นักเที่ยวที่ชอบเสน่ห์เฉพาะตัว
ของการนวดแบบนี้
มาถึงปัจจุบัน การนวดกษัยมีเหลือให้บริการอยู่น้อยมากแล้วเพราะการนวดแบบนี้
จำเป็นต้องใช้เวลา และความชำนาญของผู้นวด ซึ่งโดยมากจะเป็นหมอนวดที่เคยทำงานอยู่
ที่ร้านต้นตำรับเก่าแล้วมาเปิดเองเป็นรายเล็กๆ
มาสู่ยุคนวดกะปู๋
ถึงตอนนี้ที่การนวดกษัยปิดตัวลงมากมาย และถูกแทนที่ด้วยการเปิดตัวอันมากล้น
ของสถานบริการที่เรียกอย่างอ้อมๆว่า
'พริตตี้สปา' แต่รู้กันในนักเที่ยวว่า 'นวดกะปู๋' มี
มากมายหลายสาขา ซึ่งมีการโปรโมทผ่านเว็บไซค์ และแปะลิงค์ตามเว็บบันเทิงต่างๆ
จุดเด่นของบริการนวดกะปู๋ก็คือ หมอนวดหรือที่เรียกกันว่า 'น้องๆ' หรือ พริตตี้ จะ
หน้าตาดี หุ่นดี ผิวขาวในระดับว่ากันว่า เทียบเท่ากับพริตตี้หรือเป็นพริตตี้มารับงานเองเลยก็มี
ยังมีถึงระดับนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หรือนักเรียนมัธยมก็มีที่มาหารายได้พิเศษ
โดยปกติแล้วสถานบริการพวกนี้จะเปิด-ปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึงตี4 แต่ตอนนี้ด้วย
การแข่งขันที่สูงขึ้น ความต้องการในท้องตลาดที่มากขนาดว่านักเที่ยวต้องโทร.จองคิว
ทำให้หลายร้านมีการขยายเวลาไปถึง 6 โมงเช้า
นอกจากนี้ยังมีเว็บบอร์ดที่รวมตัวของเหล่านักเที่ยว สำหรับประชาสัมพันธ์โปรโมชั่น
แจ้งความเคลื่อนไหวของน้องๆในวงการ รวมไปถึงการตั้งกระทู้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์โดย
จะเรียกว่า 'ส่งการบ้าน' ซึ่งจะทำให้ได้ส่วนลดพิเศษในการใช้บริการอีกด้วย และการบ้าน
เหล่านี้เองก็จะถูกเรียกอีกทีว่า 'ลายแทง' เพื่อให้นักเที่ยวคนอื่นตามรอยไปหาน้องๆ ตามคำ
ร่ำลือ โดยจะระบุเป็นรหัสหรือสถานบริการที่น้องๆทำงานอยู่
โดยย่านชุมทางนวดกะปู๋นั้นจะมีหลายโซนตั้งแต่พระราม2 -ปิ่นเกล้า,ลาดพร้าว-รัชดา
,บางนา-ศรีนครินทร์,พระราม 9 -รามคำแหง และเรียบทางด่วนรามอินทรา ในส่วนของ
ราคานั้นจะแบ่งตามหน้าตาหรือระดับของน้องๆ แบ่งเป็น เอส กับ เอ็มที่อาจจะสวยกว่าและ
ราคาแพงกว่า นอกจากนี้ยังมีราคาค่าบริการซึ่งจะจัดเป็น 3 ระดับด้วยกัน
ระดับ 1 นั้นคือการใช้มืออย่างเดียวราคา 700-1200บาท ระดับ 2 เรียกว่าถอดบนคือผู้
บริการจะถอดเสื้อผ้าแล้วใช้ปากช่วย บวกราคาเพิ่มอีก500-700 ส่วนระดับ 3 คือการมีเพศ
สัมพันธ์กันโดยค่าตัวที่บวกเพิ่มจะสูงมากตั้งแต่ 2000 บาทขึ้นไป ซึ่งตรงนี้อยู่ที่การตัดสินใจ
ของผู้ให้บริการด้วยว่าจะยินยอมหรือไม่ โดยราคาอาจสูงไปถึงหลักหมื่น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าอยู่
ที่การต่อรองหรือคารมของนักเที่ยว
สิ่งทดแทนอาบ อบ นวด
ท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจนวดกะปู๋ ธุรกิจคู่แข่งอย่างอาบ อบ นวดกลับอยู่ในช่วง
ทรงตัวที่ไม่เติบโตขึ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้ามาใช้บริการ
ศัพน์ในวงการนวด
-ส่งการบ้าน คือ การที่ไปเที่ยวมาแล้วเขียนลงเว็ปบอร์ดเพื่อแบ่งปันประสบการณ์
-นางไม้ คือ สวยแต่ไม่บริการ แข็งทื้อเหมือนท่อนไม้
-เงินหล่น คือ บริการไม่คุ้มค้า
-เงินทอน คือ คุ้มค่า
-กรุ๊งกริ๊ง คือ ได้รับบริการจากน้องต่ำกว่ามาตรฐานที่คาดหวังไว้เล็กน้อย
-ถูกล้วงกระเป๋า คือ การที่น้องที่หมายตาถูกเรียกตัดหน้าไปอย่างน่าเสียดาย
-ม้าลาย คือ สาวบริการที่เป็นนักศึกษา
-ไฟเตอร์ คือ น้องที่บู๊ดุเดือดสู้ไม่ถอย