INERMILAN ศึกแห่งศรัทธา: เมื่อความหวังคือสิ่งสุดท้ายของอินเตอร์
ทีมแชมป์จากอิตาลีกำลังเผชิญช่วงเวลายากลำบาก ทั้งความเหนื่อยล้าและความไม่มั่นใจในฟอร์มการเล่น ซิโมเน่ อินซากี้ ต้องตัดสินใจส่งนักเตะที่เชื่อว่าพร้อมสู้และกล้าเล่นในสนามอย่างแท้จริง เหมือนกับที่พวกเขาเคยทำได้ในการแข่งขันยุโรปตลอดฤดูกาลนี้
ที่เมืองบาร์เซโลนา มีหมู่บ้านจัดสรรหนึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของสนาม ซาร์เรีย (Stadio Sarrià) ที่ถูกทุบทิ้งไปในปี 1997 แต่ความทรงจำของเกมระดับตำนานในฟุตบอลโลก 1982 ที่สนามแห่งนี้ยังคงชัดเจนในหัวใจใครหลายคน โดยเฉพาะเกม อิตาลีชนะบราซิล 3-2 ที่เปลี่ยนความสิ้นหวังในคืนก่อนแข่ง ให้กลายเป็นชัยชนะอันน่าเหลือเชื่อในเช้าวันใหม่
อิตาลีเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์อย่างน่าผิดหวัง และต้องเจอกับทีมบราซิลที่ถูกยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก นำโดยเหล่าผู้เล่นระดับตำนานอย่าง ซิโก, ฟาลเกา และโซเครติส คาร์เมโล
เบเน นักแสดงชาวอิตาลีในยุคนั้นเคยกล่าวไว้อย่างเจ็บแสบว่า
"เราหาทางออกไม่เจอหรอก พวกเขาเล่นฟุตบอลด้วยความสง่างาม ส่วนเรามีแค่ 'กราซิอานี'"
****จอมพลอิตาลี โรดอลโฟ กราซิอานี เป็นอาชญากรสงครามชั้นสูงสุดชาวอิตาลีที่หลบหนีความยุติธรรมหลังสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2***
แต่ในเกมนั้น “ความสง่างาม” กลับกลายเป็นของ เปาโล รอสซี ที่ยิงแฮตทริก ส่งบราซิลกลับบ้าน และพาอิตาลีเดินหน้าสู่ตำแหน่งแชมป์โลก
บางที อินซากี้ อาจหยิบยกความทรงจำนี้ขึ้นมาในห้องแต่งตัว เพื่อปลุกพลังศรัทธาของลูกทีม บอกพวกเขาว่า
"ไม่มีคืนก่อนเกมไหนที่ไร้ความหวัง แม้จะต้องเจอกับทีมอย่างบาร์เซโลนา"
หลังจากเสียประตูจาก มาติอัส ซูลเญ่ ในนัดล่าสุด นักเตะอินเตอร์เดินคอตกเหมือนนักบวชยอมรับชะตากรรม พวกเขาไม่โกรธ ไม่ลุกฮือ แต่ยอมจำนนราวกับทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว: แพ้โบโลญญา แพ้มิลาน แพ้โรม่า...
และนี่คือภารกิจเร่งด่วนของอินซากี้: "ลบความพ่ายแพ้ในใจ" เพราะความยอมแพ้นั้นอันตรายกว่าความเหนื่อยล้าเสียอีก อินเตอร์ต้องลงสนามด้วยความเชื่อว่า ยังสามารถเขียนเรื่องราวบทสุดท้ายด้วยมือของตัวเอง
แม้บาร์เซโลนาจะอยู่ในฟอร์มที่เหนือกว่า สดกว่า และเพิ่งได้แรงกระตุ้นจากชัยชนะใน เอล กลาซิโก้ แต่ความโอหังนั้นก็อาจกลายเป็นจุดอ่อนของพวกเขาเอง
“ความโอหัง”: คือสิวของวัยเยาว์
ความมั่นใจเกินเหตุคืออันตราย โดยเฉพาะกับทีมที่ยังหนุ่มแน่นและเพิ่งกลับมาผงาด บาร์เซโลนาคือทีมที่เพียบพร้อม แต่ก็เคยเสียท่าในเลกสองของรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อพ่ายดอร์ทมุนด์ 1-3 หลังจากชนะขาด 4-0 ในเกมแรก
โค้ช ฮันซี่ ฟลิก เองยังเตือนลูกทีมอย่างชัดเจนผ่านสื่อว่า
"จงมีสมาธิ"
แม้เขาจะพูดกับนักข่าว แต่ในความจริงแล้ว เขากำลังสื่อสารไปยังนักเตะของตัวเองโดยตรงว่า
"อย่าดูถูกอินเตอร์ เพราะนี่คือทีมอิตาลี และผมรู้ดีว่าพวกเขาคือใคร"
จุดตัด: เกมสวนกลับ
อินซากี้ไม่ได้หวังพึ่งแต่แรงบันดาลใจ เขาแสดงคลิปวิดีโอให้ลูกทีมดู — เกมที่เซลตา บีโก ยิงสามประตูใส่บาร์เซโลนาในช่วงต้นเกม แม้สุดท้ายจะแพ้ 3-4 ก็ตาม
เซลต้าเจาะแนวรับของบาร์เซโลนาที่ดันเกมสูงและเสียสมดุล ใช้การสวนกลับโจมตีในพื้นที่เปิด ซึ่งเป็นจุดที่อินเตอร์สามารถทำร้ายคู่แข่งได้ หากผู้เล่นอย่าง ดัมฟรีส์, ธูราม, ดิมาร์โก และ เลาตาโร่ อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
และหากแผนหลักไม่เวิร์ก ยังมีตัวสำรองอย่าง ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ ที่พร้อมจะลงมาเปลี่ยนเกมได้เช่นกัน
กำแพงเหล็ก
แต่ก่อนจะพูดถึงการสวนกลับ อินเตอร์ต้องตั้งรับให้ได้ก่อน บาร์เซโลนาเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในแชมเปียนส์ลีก (37 ประตู) และลาลีกา (76 ประตู) รวมกันถึง 113 ประตู ในฤดูกาลเดียว!
เลวานดอฟสกี้อาจหมดฤดูกาลไปแล้ว แต่แนวรุกของบาร์ซายังมีตัวอันตรายอีกมาก:
เฟร์ราน ตอร์เรส ที่เคลื่อนที่ได้อิสระ
ราฟินญ่า ผู้ยิงรวม 27 ประตูในทุกรายการ
ลามีน ยามัล ดาวรุ่งที่เล่นเกินวัย
ดานี่ โอลโม่ ผู้สามารถแทงทะลุแนวรับตรงกลางได้เสมอ
เกมรับของอินเตอร์จะต้องเหนื่อยจนเหมือนช่างประปาในโฆษณายุค 80 ที่วิ่งปิดก๊อกน้ำแตกทั่วบ้าน
แต่พวกเขาก็เคยทำได้มาแล้วในปีที่คว้าทริปเปิลแชมป์ กับฟอร์มสุดยอดที่มิวนิก, บาร์เซโลนา และลอนดอน
และในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ ไม่มีทีมใดเก็บคลีนชีตได้มากกว่าอินเตอร์
งูใหญ่จะลุกจากตะกร้าได้หรือไม่?
คำถามสำคัญคือ:"อินเตอร์ทีมเดิมที่อ่อนล้าในลีก จะสามารถยืนหยัดในเกมระดับนี้ได้หรือไม่?"
โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอย่างบาร์เซโลนามีตัวสำรองระดับทีมชาติรอเปลี่ยนลงทุกตำแหน่ง
คำตอบสุดท้ายอาจไม่ได้อยู่ที่แท็คติกหรือความฟิต แต่อยู่ที่หัวใจ
เพราะอินเตอร์ในลีกและอินเตอร์ในแชมเปียนส์ลีก คือคนละทีม
หากเสียงเพลงแชมเปียนส์ลีกที่ดังกระหึ่มในสนามทำหน้าที่เหมือนขลุ่ยของหมองูชาวอินเดีย
อาจจะมี “งูใหญ่” ตัวจริงโผล่ออกมาจากตะกร้าอีกครั้ง
อินซากี้ไม่ได้ต้องการสิ่งมหัศจรรย์ เขาแค่ต้องการให้ลูกทีมลงเล่นด้วยหัวใจและสมาธิอย่างที่เคยทำได้ในค่ำคืนแห่งยุโรป ปี 2010
และถ้า “ความสง่างาม” กลับมาหา เลาตาโร่ มาร์ติเนซ อีกครั้ง…
บางที เรื่องราวของอินเตอร์อาจยังไม่ถึงบทสุดท้ายก็ได้
แปลเเละเรียบเรียงใหม่โดย : ACCOMPLISHMENT
ข้อมูล :
https://www.gazzetta.it/Calcio/Champions-League/30-04-2025/inter-ecco-perche-puoi-farcela.shtml?refresh_ce