ถามคนที่ขับมอไซต์ แล้วไม่ใส่กระจกข้าง ไม่ได้รู้สึกว่าอันตราย หรือไม่คิดจะสนใจเพื่อนร่วมถนนเลยหรอฮะ

ผมยังคิดข้อดีไม่ออกกับการไม่ใส่กระจกข้าง คิดออกแต่ว่ามันจะขับรถยากขึ้น

ผมเห็นเวลาที่คนไม่ใส่กระจกข้าง เวลามันจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา จะขับออกข้างซ้าย-ขวา มันก็ต้องเหนื่อยหันหลัง หันคอเพื่อที่จะมองข้างหลังตัวเองอยู่ดี เหนื่อยกว่าเดิมอีก

..........

อย่างของผม ถ้าไม่มีกระจกข้าง จะรู้สึกขับยากทันที ขับแบบไม่มั่นใจเพราะเวลาเราขับ ผมนี่จะหันมองกระจกซ้ายขวาอย่างบ่อย หรือเรียกว่าหันมองเรื่อยๆตลอดทาง

เวลาขับอยู่บนถนนผมก็ต้องหันมองกระจกข้างเพื่อที่จะเห็นว่าจะมีคันหลังที่ตามเรามาเค้าจะแซงเราไหม เราจะได้หลีกทางให้ หรือเราจะออกซ้ายออกขวา เราก็หันมองกระจก แล้วถ้าไม่มีกระจกมันก็ยิ่งลำบาก

ผมละโคตรงงคนที่ไม่ใส่กระจกข้าง ไม่สนใจคนข้างหลังหรือเพื่อนร่วมถนนเลยหรอครับ

ประเด็นคือวันนี้ ผมขับชนมอไซต์ด้านหน้าแบบกระทันหัน แต่ดีที่รถมันติด เลยไม่ได้ขับเร็วอะไรมาก ไม่งั้นเจ็บแน่นอน

ผมขับตามหลังมอไซต์คันนึงที่ไม่ใส่กระจกข้าง ทีนี้ผมก็จะเตรียมแซงออกซ้าย ผมก็เตรียมตัวละ มองกระจกหลังเพื่อที่จะดูว่ามีรถตามหลังมาไหม ออกได้ไหม ก็มองกระจกเพื่อที่จะออกละ ข้างหลังโล่งออกได้ ผมก็บิดออกซ้าย ปรากฎว่าอยู่ๆไอ้มอไซต์คันหน้ามันก็เสือกดันออกซ้ายพร้อมกันกับผม แต่อยู่ๆมันก็หักออกเลยนะไม่ได้มองหลังเลยว่ามีรถตามมาไหม ผมก็ชะงักชนไปหน่อยนุึง อย่างเซง แล้วยังจะมีหน้าหันมามองหน้าจะเอาเรื่องอีก ผมนี่แบบ อะไรของมรึงวะ ตัวเองจะออกข้างแมร่งไม่มองหลัง กระจกก็ไม่ใส่ แล้วยังจะมามองหน้าไม่พอใจอีก

คนขับมอไซต์อย่างงี้แมร่งโคตรเยอะ

ดีนะมันรถติดไม่ได้ขับเร็วกว่านี้ ไม่งั้นเจอคนแบบนี้ชนแรงอีก ทั้งเจ็บทั้งเสียเวลา

ยังไงก็ได้ให้ไปถึงเร็วๆ จะเป็นจะตายเป็นเรื่องของอนาคต

ตอนผมซื้อ R6 มาแรกๆ ถอดกระจกข้างนะ เพราะเห็น bigbike ถอดกันหมด พอมาขับเองโคตรลำบาก กลับบ้านมาใส่เลย ในกทม. ไม่มีไม่ได้จริงๆ

มอเตอร์ไซด์ คันน้อยผมก็ไม่ใส่

แต่วิ่งแค่แถวบ้าน ก็ชิวๆดี ไม่เคยชน/ล้มนะ


ขอโทษในความไม่สะดวก

ผมเคยถามเพื่อนเหมือนกัน มันขี่บิกไบค์ มันตอบว่าไงรู้ไหม มองทำไมคันหลัง กุแซงมาหมดละ 5555 รถผมใส่นะ แต่ก็เอี้ยวมามองอยู่ดี เพื่อความชัวร์ กระจกสำหรับเปลี่ยนเลนตอนใช้ความเร็วสูง

ตอนจะข้ามเลนนี้ หันหลังนี้โครตปวดคออะ ต้องหันเยอะกว่าเดิม แต่ตอนมีกระจก ผมอาจจะไม่ต้องหันเยอะกว่านี้อะ ป้องกันรถเลนเดียวกัน ที่มาข้างหลัง แถมโครตระแวงเลย รถข้างหลังมาแล้วเราไม่รู้เลย ไม่มีกระจกข้าง แถมรถยนต์ไฟฟ้าบางตัวก็เสียงเบาๆ ตอนยืมรถเด็กแถวบ้าน

ครับบบบบบบบบบบบบบ

แล้วแต่เค้าเลยฮะ

นั่นเดะครับ มีแต่ลำบากกว่าเดิม ทำเพื่ออออ

จริง ขนาดขี่จักรยาน ไม่มีกระจกมองหลังยังรู้สึกลำบากเลยเวลาหันไปมอง

วัดดวงเลยนะถ้าขี่แล้วไม่มองอ่ะ ขึ้นกับเวลาเท่านั้นเลยว่าจะชะตาขาดเมื่อไหร่

เพราะเวลาขับรถคือผมมองหลังบ่อยนะ แบบมันต้องมีอแวเนสรอบๆตัวตลอดเวลา ว่ามีใครแหลมมาแปลกๆไหมหรือถ้าข้างหน้าเกิดฉุกเฉินขึั้นมา ผมตัดสินใจได้ทันทีเพราะมีภาพรถรอบๆตัวในหัวแล้ว

บางคนอยากจะเป็นรถแข่งกันแหละส่วนมากเลยไม่ใส่

กระจกไม่ติด ป้ายไม่ใส่ ชุดการ์ดไม่มี

motoGP ทุกอย่างยกเว้นทักษะ 55+

ผมแต่งรถกระจกกับป้ายบทะเบียนนี่ไม่ได้เลย ไม่อยากมีปัญหากับตำรวจ
แค่ค่าน้ำมันกูก็จะร้องแล้ว จะมาเสียค่าปรับอีกหรอ

พวกขยะ 2 ล้อโดยเฉลี่ย

ผมเคยลองขี่มอไซค์ที่ไม่มีกระจกข้าง เป็นรถส่วนกลางของออฟฟิศ แค่ระยะทางไม่ไกลรู้สึกโคตรอันตรายเลย จะเปลี่ยนเลน จะเลี้ยวทีนี่ลำบากมาก ต้องหันหัวกลับไปมองข้างหลังเรื่อยๆ คือมันไม่ใช่ท่าที่ผมคุ้นชินเลย สำหรับผมคือมันไม่ดีต่อทัศนวิสัยในการขับขี่และอาจทำให้เกิดอันตรายได้

และก็ไม่เข้าใจพวกที่เค้าขี่กันได้โดยไม่มีกระจกข้าง(หรือบางคันมีกระจกแต่พับเข้าหากัน )เหมือนเจ้าของกระทู้เหมือนกันครับ แต่สุดท้ายก็ชีวิตใครชีวิตมันแหละครับ เลือกกันเอง

เท่ครับ ชึ่งผมก็ว่าพวกรถสปอร์ตแข่งสนามไม่ติดอ่ะเท่กว่าติดจริง แต่ขับยากกว่าแน่บนถนน ถ้าอันที่คอมโบกันคือไม่ติดป้ายทะเบียนด้วย เฉี่ยวชนใคร บิดหนีโลด ตามตัวยาก

อุปกรณ์กันตายรองจากหมวกกันน็อคเลยนะ คันไหนไม่ใส่ห่างๆมันเอาไว้ครับ เพราะมันจะเปลี่ยนเลนส์ตอนไหนก็ไม่รู้ หรือถ้าหันหัวมามอง มันจะชนคันหน้าแล้วเราเหยียบซ้ำหรือป่าวไม่รู้

พวกไม่ใส่มันมองว่าเท่ เหมือน bigbike ในสนาม motogp แล้วอีกเรื่องคือกระจกมันต้านลมใส่แล้วคิดว่ามันทำให้ช้าต้านลม เลยถอดออกให้มันลู่ลมซึ่งคงมีผลแหละไม่มากก็น้อยแต่มันไม่ใช่ไงที่ถนนสาธารณะไม่ใช่สนามแข่ง ขี่ไม่มีกระจกโครตอันตรายทั้งตัวเองทั้งเพื่อนร่วมถนน